ในยุคที่ธุรกิจน้ำมันแข่งขันดุเดือด หากจะขายแค่ “น้ำมัน” เพียงอย่างเดียว เห็นทีจะไม่พออีกต่อไป จึงทำให้ภาพของ “ปั๊มน้ำมัน” ในทุกวันนี้ไม่ใช่แค่ปั๊มน้ำมันที่เอาไว้เติมน้ำมันเท่านั้น แต่กลับกลายเป็นจุดเช็คอิน แหล่งคอมมูนิตี้มอลล์ มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ หรือแม้แต่ของฝากเรียงรายเป็นจำนวนมาก
นั่นก็เพราะมีการเพิ่มพื้นที่สำหรับบริการ Non-oil มากขึ้น เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคและแนวโน้มของตลาดที่ไม่ใช่แค่จอดแวะเติมน้ำมัน ล้างหน้าล้างตา เข้าห้องน้ำ พร้อมกับเติมลมเท่านั้นแต่ “คน” ยังต้องการอะไรที่มากกว่า
จึงทำให้ Caltex แบรนด์น้ำมันสัญชาติอเมริกันที่เข้ามาทำตลาดในไทย เมื่อปี 2491 หรือราวๆ กว่า 70 ปี ประกาศกลยุทธ์การตลาดครั้งใหญ่ ตอกย้ำความเป็นแบรนด์น้ำมันเชื้อเพลิงชั้นนำระดับโลก ที่สลัดภาพแบรนด์อายุ 7 ทศวรรษ สู่แบรนด์ของคนรุ่นใหม่อย่างสิ้นเชิง
เหมินฝัน ธัญไพสิษฐ์ ผู้บริหารสูงสุดสายการตลาด บริษัท สตาร์ ฟูเอลส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (SFL) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) และเป็นผู้ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการประกอบธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิงภายใต้ชื่อ “คาลเท็กซ์” ในประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าธุรกิจค้าปลีกน้ำมันเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ผู้เล่นแต่ละรายมีการงัดโปรโมชั่นมาแข่งขันกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ และยังคงรักษาฐานลูกค้าเก่า
ซึ่งที่ผ่านมาคาลเท็กซ์ ก็มีการทำการตลาดมาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง Local TVC หวังเอาใจคนไทยดึงลูกค้าเข้าปั๊ม พร้อมไอเดียเลือกใช้พรีเซ็นเตอร์ เต๋อ ฉันทวิชช์ หรือแม้กระทั่งขยายการรับรู้ คว้า “ณเดชน์” นั่งพรีเซ็นเตอร์ ชูกลยุทธ์เด็ด ดึง “หลิง-ออม” นั่งแบรนด์แอมฯ เติมแค่ 480 บาทก็แจกน้ำ
ล่าสุดในปี 2568 เพื่อเป็นการเน้นจุดขาย และสร้างการรับรู้ให้กระเพื่อมกลยุทธ์การตลาดของน้ำมันเชื้อเพลิงคาลเท็กซ์ จะเน้นขับเคลื่อนการสื่อสารเชิงรุก ภายใต้แนวคิด “Brandformance” (Brand + Performance) เพื่อสร้างภาพ “จดจำ” แบรนด์ให้อยู่ในใจลูกค้ามากที่สุด เชื่อมโยงพลังของแบรนด์กับประสิทธิภาพทางการตลาดอย่างไร้รอยต่อ ผ่าน 5 กลยุทธ์การตลาดเร่งเครื่อง Brandformance ที่หมายถึง ตราสินค้า+คุณภาพ เพื่อตะโกนชื่อคาลเท็กซ์ ให้เป็นที่รู้จัก ได้แก่
1. สร้าง Brand Value ผ่านการตอกย้ำน้ำมันคุณภาพ คาลเท็กซ์ เทครอน
เดินหน้าสร้างการรับรู้เชิงลึกเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์น้ำมันคาลเท็กซ์ ที่มีส่วนผสมของเทครอนเอกสิทธิ์เฉพาะของคาลเท็กซ์ ที่ช่วยให้เครื่องยนต์สะอาด และทำงานได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมเปิดโฆษณาใหม่ ด้วยสโลแกน “ตัวจริง วิ่งไกล” พร้อมบิ๊กไอเดีย “เทครอนนนนนนนนน - วิ่งได้ไกลกว่า 42 กิโลเมตร ต่อถัง” ผสมผสานการสื่อสารที่เข้าถึงง่าย และสนุกสนาน พร้อมนำเสนอโปรโมชันสุดคุ้มเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่าง และเพื่อสร้างการจดจำของสโลแกน
2. การเข้าถึง “New Gen” และ “Women Power” มากขึ้น
ด้วยแบรนด์แอมบาสเดอร์ และโฆษณาใหม่ ในครั้งนี้ คาลเท็กซ์ได้ดึง พรีเซ็นเตอร์หญิงคู่แรกของแบรนด์อย่าง 'หลิง-ศิริลักษณ์ คอง' และ 'ออม-กรณ์นภัส เศรษฐรัตนพงศ์' ที่โด่งดังจากซีรีส์ ใจซ่อนรัก The Secret of Us ซีรีส์แนวแซฟฟิกเรื่องแรกของช่อง 3 มีฐานแฟนคลับทั้งไทยและต่างชาติเป็นจำนวนมาก
เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงการก้าวสู่ยุคใหม่ ที่นอกจากรักษาฐานลูกค้ากลุ่มเดิมที่รักแบรนด์อย่างเหนียวแน่นแล้ว คาลเท็กซ์ยังมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ อย่าง “New Gen” (กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับนวัตกรรม และความคุ้มค่า) และ “Women Power” (กลุ่มผู้หญิงที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์มากขึ้น) เพราะการตลาดยุคใหม่จะใช้เพียงดาราที่มีชื่อเสียงอย่างเดียวก็คงไม่เพียงพอ จึงต้องเป็นดาราที่มีชื่อเสียงและมีพลังด้อมช่วยผลักดัน และหลิงออม ก็ตอบโจทย์ ทั้งคนรุ่นใหม่ และผู้หญิง ซึ่งจะช่วยในการโปรโมทแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้สัญญาคือ ระยะเวลา 1 ปี
3. Customer Experience ด้วย “บัตรสมาชิกดิจิทัล” และ “โมบายแอปพลิเคชัน”
ตั้งเป้าเพิ่มลูกค้าสมาชิกกว่า 2 ล้านรายในสิ้นปี 68 โดยเตรียมพลิกโฉมใหม่ของ “บัตรสมาชิกดิจิทัล” และ “โมบายแอปพลิเคชัน” ที่จะเป็นศูนย์กลางของ Fueling Ecosystem เพื่อเสริม Loyalty Program ให้แข็งแกร่งขึ้นและเพิ่ม Engagement กับลูกค้ามากขึ้น โดยแอปพลิเคชันใหม่นี้จะช่วยให้ลูกค้าสามารถสะสมแต้ม แลกรับของรางวัล และรับส่วนลดในสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ รวมทั้งโปรโมชันกับทางสถาบันการเงิน หรือพันธมิตรธุรกิจอื่นๆ เพื่อให้ลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด คาดว่าจะเปิดตัวใน พ.ย. 2568
4. โปรโมชันแรงต่อเนื่องทุกไตรมาส กระตุ้นการใช้งานจริง เปิดตัว Hyper-Personalized Promotions
ออกแบบแคมเปญที่ “แตกต่างโดนใจในแต่ละไตรมาส” ตลอดปี 2568 อาทิ โปรโมชั่นสุดพิเศษกับสถานีบริการที่เปิดใหม่ โปรโมชั่นน้ำมัน “กลุ่มพรีเมียม” น้ำมันคาลเท็กซ์ พาวเวอร์ดีเซล เทครอนดี และน้ำมันคาลเท็กซ์ เทครอน โกลด์ 95 รวมถึงสิทธิพิเศษอีกมากมายตลอดปี
5. ผนึกพลังพันธมิตรทางธุรกิจระดับแนวหน้า
จับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ พันธมิตรทางการเงิน ธนาคารชั้นนำ เพื่อสร้างทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภคได้รับความสะดวกสูงสุด
เหมือนฝัน กล่าวต่อไปว่า แคมเปญใหม่นี้จะเน้นไปที่ 3 กลุ่มคือ ลูกค้าเดิมที่รักคาลเท็กซ์ กลุ่มคนรุ่นใหม่กำลังซื้อสูง และกลุ่มผู้หญิง ภายใต้งบการตลาดทั้งหมดกว่า 200 ล้านบาท เพิ่มจากปี 67 ซึ่งอยู่ที่ 100 ล้านบาท
โดยงบ 110 ล้านบาท จะเป็นการใช้ในส่วนของพรีเซ็นเตอร์ การจัดงาน การทำโฆษณาต่างๆ อาทิ TVC, สื่อโซเชียลมีเดีย, บิลบอร์ด เพื่อเข้าถึงผู้ใช้รถใช้ถนนทั้งแบบจอเคลื่อนไหวและแบบภาพนิ่ง กระจายไปยังจุดสำคัญต่างๆ จากกรุงเทพฯ ไปสู่ 4 ภาคของประเทศไทย รวมทั้งโปรโมชั่น แจกน้ำดื่มฟรีสำหรับลูกค้าที่เติมน้ำมันครบ 480 บาท
ทั้งนี้ข้อมูล กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุส่วนแบ่งการตลาดค้าปลีกน้ำมันเชิงปริมาณ ในปี 2567 ดังนี้ อันดับหนึ่งคือ ปตท, (PTT) อยู่ที่ 35.93% บางจาก 30.94% พีที (PT) 17.93% เชลล์ (Shell) 7.75% คาลเท็กซ์ (Caltex) 5.78% และซัสโก้ (Susco) 1.85%
สำหรับการเติบโตของแบรนด์ในปีนี้ คาลเท็กซ์ ตั้งเป้าไว้ว่าจะเติบโตผ่าน 3 แกนหลัก ได้แก่ การขยายสาขาให้ครอบคลุมมากขึ้นจากปัจจุบันมีทั้งหมด 528 สาขา โดยที่จะเน้นไปที่ต่างจังหวัดมากขึ้น และขยับจากปั๊มไซต์ขนาดเล็กไปเป็นขนาดกลาง 2. ยอดขาย Same Store โตขึ้นประมาณ 5-6% 3.โฆษณาแบรนด์ดิ้งและการตลาด คาดว่าจะทำให้แบรนด์โตราว 15%”
“ตลาดรีเทลน้ำมันแข่งขันกันดุเดือด ซึ่งรายใหญ่มาเน้นเรื่องคอมมูนิตี้ ทำโปรโมชั่นแจกน้ำ ดังนั้นสิ่งที่เราทำคือสร้างแบรนด์ให้แข็งแรง เราจะให้คนรุ่นใหม่รู้จัก ผ่านพรีเซ็นเตอร์ และคอนเซ็ปต์ “เทครอนนนนนนนนน - วิ่งได้ไกลกว่า 42 กิโลเมตร ต่อถัง” ผ่านแบรนด์ดิ้งรวมทั้งขยายสถานีบริการน้ำมัน และโปรโมชันที่เราคิดจะทำอะไรใหม่ๆ ที่ไม่ใช่เหมือนเดิม ซึ่งวางไว้ว่า 3 เดือนเราจะมีโปรโมชั่นใหม่ๆ ออกมาอยู่เสมอ” เหมินฝัน กล่าวทิ้งท้าย