การสร้างสังคมและชุมชนให้เข้มแข็งเป็นหนึ่งในพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืน แม้ปัจจุบันจะเผชิญหน้ากับความท้าทายที่หลากหลาย เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความยากจน ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม แต่การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้ผู้คนก็เป็นสิ่งที่ทั่วโลกกำลังตระหนักและเร่งพัฒนาไปพร้อมกับการให้ความสำคัญด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
ปัจจุบัน หลายประเทศกำลังส่งเสริมความเข้มแข็งให้ชุมชน โดยเปิดโอกาสให้เข้ามามีส่วนร่วมพัฒนา เช่น การจัดการโครงสร้างพื้นฐาน การจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน ไปจนถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม บวกกับเสริมสร้างศักยภาพชุมชนโดยพัฒนาทักษะความรู้ที่จำเป็น เพื่อให้ชุมชนพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว สำหรับประเทศไทย ภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนต่างให้ความสำคัญกับการพัฒนาชุมชนเป็นอย่างยิ่ง ภาคธุรกิจเองก็มีแนวทางพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนรอบโรงงานผ่านการเสริมทักษะอาชีพ สร้างรายได้ การสนับสนุนการศึกษา การดูแลสิ่งแวดล้อม และอีกหลากหลายแนวทาง เพื่อให้โรงงานและชุมชนสามารถเติบโตไปด้วยกันได้อย่างยั่งยืน
โรงงานสุรารวงข้าวทั้ง 13 แห่งทั่วประเทศ มีเป้าหมายชัดเจนในการทำธุรกิจไปพร้อมกับการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับชุมชนรอบโรงงาน เช่น โรงงานนทีชัย จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีแนวคิดขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิตัล ลงพื้นที่พัฒนากลุ่มวิสาหกิจชุมชนผักปลอดภัยบ้านเสวียด อำเภอท่าฉาง สร้างโรงเรือนเพาะเห็ดอัจฉริยะ และต่อยอดพัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้การผลิตเห็ดครบวงจร ที่ทุกคนสามารถเข้ามาศึกษาการผลิตก้อนเชื้อเห็ด การเพาะเลี้ยงเห็ด การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเห็ด และขยายความร่วมมือกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ผลิตก้อนเชื้อเห็ดนางฟ้าโดยใช้ฟางข้าวเสริมซีลีเนียม และทำ MOU กับพ่อค้าคนกลางในการรับผลผลิตของกลุ่ม ตั้งแต่ปี 2564 ถึงปัจจุบัน สามารถสร้างรายได้ให้ชุมชนได้ถึง 1,413,840 บาท
โรงงานอธิมาตร จังหวัดบุรีรัมย์ มีแนวทางให้ความรู้ชุมชนตามความต้องการในแต่ละพื้นที่ เช่น ในอำเภอสตึก ชุมชนประสบปัญหาด้านความยากจน ทางโรงงานจึงร่วมกับ 13 หน่วยงานพัฒนาพื้นที่สร้างทักษะอาชีพให้แก่ชุมชนเพื่อนำไปสร้างรายได้ เช่นการจัดกิจกรรมสอนผลิตภัณฑ์ชุมชนจากกระดาษเปียก (เปเปอร์มาเช) โดยโรงงานสนับสนุนเศษฉลากจากกระบวนการล้างขวดของโรงงาน ให้ชุมชนนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ และต่อยอดสร้างรายได้ นอกจากนี้ ได้จัดกิจกรรมให้โรงเรียนโดยรอบโรงงาน โดยยึดหลัก ESG for Community เน้นให้ความรู้และหลักปฏิบัติเกี่ยวกับความปลอดภัย การรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน และการอนุรักษ์ทรัพยากร ผ่านกิจกรรมการคัดแยกขยะ การอนุรักษ์พลังงาน การปลูกต้นไม้ และการใช้สารปรับปรุงดิน เพื่อปลูกฝังแนวคิดเรื่องความยั่งยืนให้กับเด็กและเยาวชน
การทำให้ชุมชนแข็งแรงขึ้นคือการสร้างอนาคตที่ดีไปด้วยกัน ตัวเราเองก็สามารถเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการช่วยเหลือกันในชุมชน หรือแม้แต่การที่โรงงานในพื้นที่เข้ามามีบทบาทช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนรอบโรงงานก็จะทำให้สามารถเติบโตไปด้วยกันได้อย่างยั่งยืน
