ขณะที่ไทยกำลังเผชิญวิกฤตประชากรลดลง โดยประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้น และปัญหาการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCD) ที่มีสาเหตุจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต สมาคมเวชศาสตร์วิถีชีวิตและสุขภาวะไทย (TLWA) ซึ่งบูรณาการองค์ความรู้ทางการแพทย์หลายแขนงและศาสตร์ที่เกี่ยวข้องมาช่วยปรับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพกายใจของคนไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน จึงจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงทางวิชาการ (MOU) เรื่อง "การเผยแพร่ความรู้และส่งเสริมการใช้เวชศาสตร์วิถีชีวิตในการดำเนินชีวิตและประกอบวิชาชีพของบุคลากรและประชาชน" ครั้งที่ 2 กับองค์กรพันธมิตรกว่า 50 องค์กร พร้อมจัดประชุมวิชาการเรื่อง “ประชากรสูงอายุและประชากรลดลง : จากการคาดการณ์ สู่การป้องกัน” ณ อาคารสาธารณสุขวิศิษฏ์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อผนึกกำลังเตรียมแผนรับมือกับปัญหาในอนาคตเสนอต่อรัฐบาล โดยองคมนตรี พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีลงนามและเปิดการประชุม
ทั้งนี้ ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ นายกสมาคมเวชศาสตร์วิถีชีวิตและสุขภาวะไทย (TLWA) มองว่าการตระหนักรู้ที่จะป้องกันตัวในช่วงสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลง เช่น ปัญหา PM 2.5 เป็นสิ่งสำคัญ โดยต้องฝึกให้มีสติอยู่เสมอ นอกจากนี้ มูลนิธิเสถียรธรรมสถานซึ่งร่วมลงนาม MOU เป็นพันธมิตรกับสมาคมฯ ตั้งเป้า 3 ปีแห่งการเป็น "Long Life Living Lab" หรือ "ห้องทดลองชีวิตทุกช่วงวัย" ด้วยเทคนิควิธีที่ปฏิบัติง่าย เกิดการ ‘พึ่งตัวเองได้และให้คนอื่นเป็น’ เพื่อสืบสานปณิธานของท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ส่งเสริมให้ประชาชนทุกเพศวัยมีการฝึกสติในชีวิตประจำวัน สอดคล้องกับเป้าหมายของสมาคมฯ