DKSH ได้รับความไว้วางใจจากบริษัท เอ็มเอสดี (ประเทศไทย) จำกัด ในการขยายโอกาสเติบโตทางธุรกิจในประเทศไทย โดยความร่วมมือในครั้งนี้ DKSH จะเดินหน้าส่งเสริมการเข้าถึงผลิตภัณฑ์วัคซีนและโซลูชันด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องของ MSD ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ต่อสู้กับโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส HPV ในประเทศไทย
หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ บริษัท DKSH (ประเทศไทย) จำกัด พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ด้านโซลูชันการดูแลสุขภาพและผู้นำด้านการขยายตลาด สำหรับบริษัทผู้ผลิตเวชภัณฑ์ยา บริษัทผู้ผลิตยาจำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ (OTC) ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และเครื่องมือแพทย์ ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับบริษัท เอ็มเอสดี (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นสาขาในประเทศไทยของบริษัทวิจัยและผลิตชีวเภสัชภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก ภายใต้ความร่วมมือนี้ DKSH จะดูแลการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัคซีน HPV (Human Papillomavirus) ให้สามารถเข้าถึงได้มากขึ้น ส่งเสริมการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันให้แก่ผู้ป่วยในประเทศไทยอีกด้วย
ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการสร้างความตระหนักรู้และเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีน HPV ในประเทศไทย ซึ่งยังคงเผชิญกับความท้าทายในการเข้าถึงการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน การศึกษาวิจัยเรื่อง "นโยบายและแผนการผลิตและพัฒนาวัคซีนในประเทศไทย” ระบุว่าประเทศไทยยังคงประสบปัญหาการจัดหาวัคซีนให้เพียงพอสำหรับจำนวนประชากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวิกฤตสุขภาพและโรคระบาด เป็นอุปสรรคต่อความพยายามในการส่งเสริมให้เกิดความเท่าเทียมในการเข้าถึงการรักษาและการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะในประชากรกลุ่มเปราะบาง
ภายใต้ข้อตกลงนี้ DKSH จะให้บริการจัดจำหน่ายแบบครบวงจร (Contract Sales Organization) และบริการโซลูชันสำหรับผู้ป่วย (Patient Solutions) เพื่อขยายการเข้าถึงวัคซีน HPV ในช่องทางต่างๆ ให้ได้มากที่สุด ทั้งทางโรงพยาบาล คลินิก และพันธมิตรผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพทั่วประเทศไทย
ดร. แมรี เสรฐภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็มเอสดี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ความร่วมมือกับ DKSH ในครั้งนี้ จะส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงวัคซีนของเราได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้อัตราการฉีดวัคซีนมีความครอบคลุมเพิ่มมากขึ้น ด้วยประสบการณ์การดำเนินธุรกิจของ DKSH ในประเทศไทยที่มียาวนานกว่าร้อยปี ผนวกกับความเชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์ทางการตลาดที่โดดเด่น บริษัทฯ จึงมีความมั่นใจในความร่วมมือในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง”
นายแพทริค แกรนเด รองประธานฝ่ายบริหาร และหัวหน้าฝ่าย Commercial Outsourcing ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก DKSH กล่าวเพิ่มเติมว่า “ความร่วมมือกับ MSD ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านเวชภัณฑ์ยาและวัคซีน จะช่วยให้เราสามารถส่งมอบวัคซีนผ่านนวัตกรรมโซลูชันที่ครบวงจรของเราให้แก่ประชาชนทั่วไปได้ดียิ่งขึ้น ความร่วมมือครั้งนี้ยังตอกย้ำพันธกิจที่สำคัญในการกำหนดกลยุทธ์การเข้าถึงตลาดที่เหมาะสมให้กับพันธมิตรทางธุรกิจของเรา ด้วยเครือข่ายและผู้เชี่ยวชาญในการดำเนินงาน DKSH จึงพร้อมที่จะส่งเสริมการเข้าถึงวัคซีน HPV ของ MSD ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น”
ความร่วมมือในครั้งนี้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ DKSH ในการตอบสนองความต้องการด้านสาธารณสุข ที่สำคัญของประเทศไทย ในฐานะพันธมิตรด้านสุขภาพที่ได้รับความไว้วางใจมาอย่างยาวนาน DKSH ยืนหยัดที่จะพัฒนาการเข้าถึงนวัตกรรมโซลูชันต่างๆ และส่งเสริมสุขภาพของคนไทยให้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ MSD หรือ บริษัท เอ็มเอสดี (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทในเครือของ เมอร์ค แอนด์ คัมปานี อินคอร์ปอเรท (Merck & Co., Inc.) ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 70 ปี ตั้งแต่การจัดหายาตัวแรกให้กับประเทศไทยในปี พ.ศ. 2492 ผ่านบริษัทการค้า MSD ประเทศไทยยังคงมุ่งมั่นเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมสุขภาพและพันธมิตรที่เชื่อถือได้ในการเพิ่มการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่ล้ำสมัยของเราให้แก่ผู้ป่วย เราภูมิใจในความหลากหลายและการทำงานร่วมกันในองค์กร รวมถึงการดำเนินงานที่มีความรับผิดชอบ ซึ่งสนับสนุนความก้าวหน้าของระบบสาธารณสุขในประเทศไทยอย่างยั่งยืน www.msd-thailand.com
สำหรับวัตถุประสงค์ของ DKSH คือการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน ตลอดระยะเวลาเกือบ 160 ปี DKSH ได้ส่งเสริมการเติบโตของบริษัทต่างๆ ในเอเชียและทั่วโลก ผ่านหน่วยธุรกิจหลักทั้ง 4 ได้แก่ การดูแลสุขภาพ สินค้าอุปโภคบริโภค วัสดุขั้นสูง และเทคโนโลยี ในฐานะผู้ให้บริการขยายตลาดชั้นนำ DKSH ให้บริการด้านการจัดหา ข้อมูลเชิงลึกของตลาด การตลาดและการขาย อีคอมเมิร์ซ การจัดจำหน่ายและโลจิสติกส์ รวมถึงบริการหลังการขาย DKSH เป็นผู้เข้าร่วมโครงการ United Nations Global Compact และปฏิบัติตามแนวทางการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบ DKSH จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สวิส (SIX Swiss Exchange) และดำเนินธุรกิจใน 36 ประเทศด้วยบุคลากรกว่า 29,040 คน สร้างยอดขายสุทธิ 11.1 พันล้านฟรังก์สวิสในปี 2566 หน่วยธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพของ DKSH จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม สินค้าเพื่อสุขภาพผู้บริโภค และผลิตภัณฑ์ที่ไม่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์ รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ ด้วยทีมงานกว่า 8,140 คน หน่วยธุรกิจนี้สร้างยอดขายสุทธิ 5.6 พันล้านฟรังก์สวิสในปี 2566 www.dksh.com