ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GC ชูงาน GC Sustainable Living Symposium 2024: GEN S GATHERING สร้างความตระหนัก เสริมความรู้ ต่อยอดความคิด ผสานความร่วมมือ เรียนรู้ใช้ชีวิตแบบ Net Zero Lifestyles ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2593 ดันองค์กรต้นแบบการดำเนินงานด้านความยั่งยืนในระดับสากล ประยุกต์ใช้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียนสร้างสมดุลสิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจ
ปัจจุบันการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ถือเป็นพันธกิจสำคัญของนานาชาติที่จะทำอย่างไรให้โลกเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำได้สำเร็จ เพื่อบรรเทาภาวะโลกร้อน แต่สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือการสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้น นั่นจึงกลายเป็นแนวคิดสำคัญของงาน GC Sustainable Living Symposium 2024: GEN S GATHERING ซึ่งจัดโดย บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC เมื่อ 18 ต.ค.2567 ณ พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ภายใต้คอนเซปท์ "ยั่งยืนไม่ยาก" เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และพัฒนาความร่วมมือ การเสวนาจากองค์กรชั้นนำและบุคคลหลากหลายวัย และยังได้เห็นถึงผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายใต้ศักยภาพของ GC
นายณะรงค์ศักดิ์ จิวากานันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า GC มีความมุ่งมั่นที่จะริเริ่มและเป็นต้นแบบความยั่งยืนเพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม งาน GC Sustainable Living Symposium จึงเกิดขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักรู้ เสริมสร้างความรู้ ต่อยอดความคิด สร้างความร่วมมือในทุกภาคส่วน ซึ่งงานนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ พัฒนาความร่วมมือ รวมถึงเรียนรู้การใช้ชีวิตแบบ Net Zero Lifestyles ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้และต่อยอดได้ต่อไป
ทั้งนี้ GC มีเป้าหมายในการเป็นองค์กรต้นแบบการดำเนินงานด้านความยั่งยืนในระดับสากล ภายใต้วิสัยทัศน์การเป็นผู้นำในธุรกิจเคมีภัณฑ์ระดับสากล เพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิต พร้อมสร้างสมดุลด้านความยั่งยืนผ่านการประยุกต์ใช้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ใน 3 มิติ ได้แก่ สิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจและการกำกับดูแลกิจการที่ดี มาอย่างต่อเนื่อง และในปี 2564 GC ได้กำหนดเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2593 มุ่งสู่การเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำ ผ่านการกำหนดแผนงาน การวัดผลและการตรวจสอบที่ชัดเจน สอดคล้องแนวทางการปฏิบัติตามข้อตกลงจากการประชุมผู้นำระดับโลกในหลายๆ เวที
โดยภายในงาน GC Sustainable Living Symposium 2024: GEN S GATHERING ได้มีการเสวนาในหลากหลายหัวข้อ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและให้ความรู้ ในการมีส่วนร่วมรักษาและสร้างโลกที่ยั่งยืน จากทั้งนโยบายและกลไกจากภาครัฐ องค์กรเอกชน และ Influencers อาทิ การอธิบายแนวโน้มกฎระเบียบและแนวปฏิบัติระดับสากล ที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสู่ความยั่งยืนของโลกและอุตสาหกรรม ครอบคลุมทั้ง EU และสหรัฐฯ รวมถึงแนวทางการลดคาร์บอนของไทยที่ต้องดำเนินควบคู่กับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรม , การเสวนากลไกการเร่งขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมาย Net Zero , แนวทางการออกแบบและการสร้างสรรค์ วัสดุที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านมุมมองของผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทชั้นนำด้านนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ระดับโลก , โซลูชัน “การเงินเพื่อความยั่งยืน” หนึ่งในเครื่องมือทางการเงินที่สำคัญ เพื่อก้าวสู่เทรนด์สังคมคาร์บอนต่ำ , การเร่งปรับตัวเพื่อรับมือความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อนำประเทศไทยก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ , เมื่อภาคธุรกิจต้องขยับ เดินหน้าปรับและร่วมสนับสนุน สร้างความร่วมมือ เพื่อสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน ทั้งไบโอพลาสติกและรีไซเคิล และการใช้ชีวิตให้ดีต่อโลก ฉบับคนเจนใหม่หัวใจยั่งยืน
นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ GC ภายใต้คอนเซปท์ความ "ยั่งยืน" ทั้ง โซลูชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กับผลิตภัณฑ์ Coating Resins จาก allnex , สร้างมูลค่าจากน้ำมันพืชใช้แล้ว กับโครงการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF), คิดค้นเพื่อสิ่งแวดล้อมพร้อมตอบโจทย์ด้านอุตสาหกรรม กับโครงการน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าปลอดภัย จากปาล์มน้ำมันไทย ยกระดับความปลอดภัยของประชาชน , แข็งแรงด้วยเม็ดพลาสติกรีไซเคิล , You เทิร์น แยก ทิ้ง เทิร์นเส้นทางการเพิ่มคุณค่าสู่ Net Zero , บรรจุภัณฑ์ที่หลากหลายทุกโจทย์การใช้งาน , ลดก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการครบวงจร (GHG ReDUCTION) , การดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ , แสวงหาเทคโนโลยีใหม่ช่วยกักเก็บคาร์บอน , สร้างธุรกิจใหม่จากไฮโดรเจน และ ลดคาร์บอนด้วยการปลูกและดูแลป่า รวมทั้งการสาธิตปลูกนาข้าวแบบเปียกสลับแห้ง
ทั้งนี้ที่ผ่านมา GC ได้ดำเนินการตามเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ผ่านโครงการต่างๆ มากกว่า 200 โครงการ โดยใช้หลัก 5R ใช้พลังงานหมุนเวียน นำเทคโนโลยี และ Digitalization เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพโรงงาน รวมถึงแผนการบริหารจัดการคาร์บอน ภายใต้ความร่วมมือในกลุ่ม ปตท. ทั้งการศึกษา การดักจับ การกักเก็บ การใช้ประโยชน์จากคาร์บอน และการแสวงหาโอกาสในธุรกิจไฮโดรเจนแห่งอนาคต นอกจากนี้ยังร่วมมือทุกภาคส่วนในการปลูกและดูแลป่า ทั้งป่าบก ป่าชายเลน ป่าชุมชน จนมาถึงการศึกษาการปลูกข้าวนาเปียกสลับแห้ง
โดยล่าสุด GC ได้สนับสนุนให้บริษัทเนเจอร์ เวิร์กส ผู้ผลิตไบโอพลาสติกชั้นนำของโลกที่ย่อยสลายได้ในทางชีวภาพ ตัดสินใจลงทุนโรงงานผลิตไบโอพลาสติกแบบครบวงจรแห่งใหม่ ที่ จ.นครสวรรค์ โรงงานนี้จะเป็นไบโอคอมเพล็กซ์แห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งจะแล้วเสร็จในปลายปี 2568 และจะเป็นฐานการผลิตพลาสติกแบบชีวภาพของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคและทั่วโลก และ ได้ตัดสินใจลงทุนเข้าซื้อกิจการออลเน็กซ์ (allnex) ผู้นำระดับโลกในธุรกิจผลิตภัณฑ์ Coating Resins หรือสารเคลือบผิว และยังมุ่งพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพ เคมีภัณฑ์ชีวภาพ และพลาสติกชีวภาพสำหรับผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ วัสดุ หรือชิ้นงานในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย นอกจากนี้ GC ยังเป็นบริษัทไทยรายแรกที่ปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมันดิบ ด้วยเทคโนโลยีการกลั่นขั้นสูงให้สามารถผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน หรือ SAF จากน้ำมันพืชใช้แล้ว เพื่อช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีแผนจะผลิตเชิงพาณิชย์ในเดือนมกราคม 2568
พร้อมกันนี้ยังได้ใช้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียนมาประยุกต์ใช้ ในโครงการ GC UTURN แพลตฟอร์มการบริหารจัดการพลาสติกที่ใช้แล้วแบบครบวงจร สนับสนุนการคัดแยกและหมุนเวียนทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกในประเทศ ช่วยลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน โดยในปัจจุบันนี้มีจุดรวบรวมพลาสติกใช้แล้วปัจจุบันกว่า 290 จุด พัฒนาศูนย์บริหารจัดการขยะชุมชน สร้างรายได้ให้กับชุมชน หมุนเวียนพลาสติกที่ใช้แล้วเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลและอัปไซเคิล มากกว่า 1,200 ตัน ใน 3-4 ปีที่ผ่านมา