ศูนย์ผ่าตัดเปลี่ยนข้อธรรมศาสตร์ เป็นศูนย์การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าและข้อสะโพกเทียมแก่ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บปวดทุกข์ทรมานจากโรคข้อ ได้พัฒนาการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมแบบสหสาขาวิชาชีพ จนได้รับการรับรองมาตราฐานเฉพาะโรค (Disease Specific Certificate) จากสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล และจากผลงานที่ได้แสดงให้เห็นถึงคุณภาพกระบวนการให้บริการ รวมทั้งศักยภาพและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีคุณภาพในระดับสากล จึงได้รับการยกระดับเป็นศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ (Center of Excellence) ด้านการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ในปี 2567
รศ.นพ.กฤต บุญธนาพิบูลย์ แพทย์ประจำศูนย์ผ่าตัดเปลี่ยนข้อธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การดูแลผู้ป่วยผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมทางทีมงานจะมีการบริหารความเสี่ยงทั้งเชิงรุกและเชิงรับ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้ป่วย โดยพัฒนากระบวนการดูแลรักษาผู้ป่วยอย่างเป็นระบบ ได้มาตรฐานในระดับสากล ประกอบด้วย การตรวจร่างกายผู้ป่วยก่อนผ่าตัดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อแยกกลุ่มผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนระหว่างและหลังผ่าตัด การให้ยาและใช้เครื่องมือเทคโนโลยีการผ่าตัดชั้นสูง เช่น การใช้แขนกลหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียม เพื่อกำหนดตำแหน่งข้อเทียมได้อย่างแม่นยำ การพัฒนาระบบเฝ้าระวังเมื่อเกิดภาวะไม่พึงประสงค์ผ่านเครื่องมือที่มาตรฐาน การวางแผนการรักษาให้ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสมโดยมีการประสานกันระหว่างสหสาขาวิชาชีพซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้ป่วยมีอาการปวดน้อย ฟื้นตัวไว กลับบ้านได้เร็ว สามารถงอเข่าได้ใกล้เคียงปกติ มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีการป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญ ได้แก่ การติดเชื้อหลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน ภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบ และภาวะเส้นเลือดในสมองตีบ เป็นต้น โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ได้ให้บริการการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียมโดยนอนโรงพยาบาลไม่เกิน 3 วันมานานนับ 10 ปี จนปัจจุบันได้มีการพัฒนาการดูแลผู้ป่วยเพื่อให้พร้อมกลับบ้านภายใน 1 วันหลังผ่าตัด
ศ.นพ.ปิยะ ปิ่นศรศักดิ์ แพทย์ประจำศูนย์ผ่าตัดเปลี่ยนข้อธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ศูนย์การผ่าตัดเปลี่ยนข้อธรรมศาสตร์ยังเป็นศูนย์การผ่าตัดแก้ไขความล้มเหลวจากผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียม ซึ่งการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียมครั้งแรกมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้ผู้ป่วยสามารถใช้งานข้อทียมได้เป็นอย่างดี มีอายุการใช้งานอย่างยาวนาน แต่หากมีความล้มเหลวของข้อเทียม อันได้แก่ อาการปวดไม่หายหลังผ่าตัด ข้อเข่ายึดติดไม่สามารถขยับได้ตามปกติ ข้อเทียมติดเชื้อ ข้อเทียมหลวมหลุด กระดูกรอบข้อเทียมหัก ผู้ป่วยอาจต้องได้รับการผ่าตัดซ้ำ ซึ่งทำให้เสียเงินและเสียเวลามากขึ้นเป็นอย่างมาก การผ่าตัดแก้ไขมีความซับซ้อนและยุ่งยากมากกว่าการผ่าตัดครั้งแรก เนื่องจากต้องรื้อข้อเทียมเก่าออก และใส่ข้อเทียมใหม่ซึ่งจำเป็นต้องต่อเหล็กให้มีความยาวมากขึ้นเพื่อไปยึดกระดูกบริเวณเหนือต่อข้อเทียม ในบางครั้งผู้ป่วยอาจมีการสึกกร่อนของกระดูกที่รุนแรง ทำให้มีความจำเป็นต้องใช้ข้อเทียมชนิดพิเศษสำหรับซ่อมแซมเพื่อทดแทนกระดูกที่สึกหรอ รวมทั้งเนื้อเยื่อรอบข้ออาจมีการฉีกขาด ยืดหลวม หรือเป็นพังผืดทำให้กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง นอกจากนี้ การผ่าตัดจำเป็นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์อย่างมาก และมีค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดรวมถึงอุปกรณ์ในการผ่าตัดที่สูงกว่าข้อเทียมชนิดแรก 3-5 เท่า
การค้นหาสาเหตุของความล้มเหลวของข้อเทียมเป็นปัจจัยสำคัญมากที่ส่งผลให้การผ่าตัดแก้ไขจะสำเร็จหรือไม่ ทางศูนย์ผ่าตัดเปลี่ยนข้อธรรมศาสตร์มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการผ่าตัดแก้ไขความล้มเหลวของข้อเทียม และมีอุปกรณ์ในการการผ่าตัดแก้ไขที่ครบถ้วนทันสมัย อาทิ อุปกรณ์กรอกระดูกความเร็วสูงในการรื้อข้อเทียมเพื่อลดการสูญเสียกระดูก เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ป่วยที่เข้ามารับการผ่าตัดแก้ไขข้อเทียมล้มเหลว และช่วยให้ผู้ป่วยกลับไปดำเนินชีวิตได้ตามปกติ
ความล้มเหลวจากการผ่าตัดเปลี่ยนข้อครั้งแรกนับเป็นฝันร้ายของผู้ป่วยที่ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียม ผู้ป่วยมักไม่มั่นใจและกังวลใจในการผ่าตัดว่าจะสามารถหาผู้เชี่ยวชาญมาแก้ไขได้หรือไม่ ทางศูนย์ผ่าตัดเปลี่ยนข้อธรรมศาสตร์พร้อมที่จะช่วยเหลือผู้ป่วยในการผ่าตัดแก้ไขความล้มเหลวจากการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าข้อสะโพกเทียมทุกรูปแบบ เพื่อให้ผู้ป่วยมีประสบการณ์การผ่าตัดเปลี่ยนข้อที่ดี สามารถกลับไปใช้งานข้อเทียมได้อย่างมีความสุขต่อไป ./