เนสท์เล่ ผุดฟาร์มโคนมต้นแบบ ชู "เกษตรเชิงฟื้นฟู"

เนสท์เล่ เปิดตัวโมเดลฟาร์มโคนมต้นแบบที่ขับเคลื่อนด้วยหลัก “การเกษตรเชิงฟื้นฟู” (Regenerative Agriculture) เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม ลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน พร้อมเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้กับเกษตรกร และตอบโจทย์ผู้บริโภคด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงจากวัตถุดิบที่ได้จากแหล่งผลิตอย่างยั่งยืน

๐ ฟื้นฟูอุตสาหกรรมโคนมไทย มุ่งลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม

ประเทศไทยผลิตน้ำนมดิบประมาณ 2,800-3,000 ตันต่อวัน แต่ปริมาณการผลิตมีแนวโน้มลดลงเนื่องจากต้นทุนอาหารสัตว์สูงขึ้นและจำนวนเกษตรกรที่ลดลง ขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมโคนมยังเป็นหนึ่งในแหล่งปล่อยก๊าซมีเทนที่ส่งผลต่อภาวะโลกร้อน เนสท์เล่จึงมุ่งสนับสนุนการจัดการฟาร์มโคนมแบบยั่งยืนผ่านการเกษตรเชิงฟื้นฟู โดยเน้นการปกป้องและฟื้นฟูดิน สร้างความหลากหลายทางชีวภาพ ใช้พลังงานทดแทน และลดการพึ่งพาปุ๋ยเคมี


๐ ก้าวสำคัญสู่เป้าหมาย Net Zero ในปี 2050

นางสาวสลิลลา สีหพันธุ์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า “เนสท์เล่ให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมผ่านการจัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืน เราได้ดำเนินโครงการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในฟาร์มโคนม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 ปัจจุบัน น้ำนมดิบที่เนสท์เล่ใช้ผ่านมาตรฐานด้านการจัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืนครบ 100% แล้ว”


๐ ตัวอย่างฟาร์มโคนมต้นแบบที่สร้างความเปลี่ยนแปลง

นายศิรวัจน์ ปิณฑะดิษ นักวิชาการเกษตรของเนสท์เล่ เผยว่า การเกษตรเชิงฟื้นฟูช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมดิบเฉลี่ยต่อโคสูงขึ้นจาก 11.7 กก. เป็น 13.5 กก. ต่อวัน พร้อมเพิ่มคุณค่าโภชนาการ เช่น โปรตีนในนมสูงถึง 3.02% เกินมาตรฐานเดิมที่ 2.94% อีกทั้งการจัดการมูลโค เช่น การทำปุ๋ยอินทรีย์และไบโอแก๊ส ช่วยลดก๊าซมีเทนและสร้างรายได้เสริมให้เกษตรกร
นอกจากนี้ ฟาร์มโคนมต้นแบบยังติดตั้งโซลาร์เซลล์สำหรับสูบน้ำในพื้นที่ที่ขาดแคลนระบบไฟฟ้า ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เกษตรกรบางรายสามารถพึ่งพาไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ 100%


๐ เป้าหมายสร้างความยั่งยืนครบวงจร

จากความร่วมมือกับเกษตรกรกว่า 160 ฟาร์มในประเทศไทย เนสท์เล่ตั้งเป้าส่งเสริมการทำฟาร์มโคนมเชิงฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง พร้อมให้ความรู้ด้านการจัดการที่ยั่งยืน ควบคู่กับการรับซื้อน้ำนมดิบในราคายุติธรรม เนสท์เล่ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ยอดนิยม เช่น ไมโล ตราหมี และเนสกาแฟ ด้วยวัตถุดิบที่ผ่านกระบวนการอย่างรับผิดชอบ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและเป็นมิตรต่อโลกสู่มือผู้บริโภคอย่างยั่งยืน