DKSH นำเทคโนโลยีด้านการขนส่งที่ก้าวหน้าและโครงสร้างพื้นฐานเชิงกลยุทธ์ เสริมความแข็งแกร่งในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจที่ได้รับความน่าเชื่อถือและไว้วางใจในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพของไทย ครอบคลุมศูนย์กระจายสินค้าทั้ง 3 แห่ง เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากผู้ผลิตทั้งในประเทศและต่างประเทศได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ตอบความต้องการผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่เพิ่มมากขึ้นในประเทศ
DKSH มีบทบาทสำคัญในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานในการดูแลสุขภาพในสภาวะที่ประเทศไทยกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างประชากรและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของประชากรไทย เช่น โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (์NCDs) ที่ยังคงเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตและการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร (ก่อนอายุ 70 ปี) ในอัตราสูงถึงร้อยละ14 นอกจากนี้ ยังมีความ ท้าทายจากการก้าวสู่สังคมผู้สูงวัยระดับสุดยอด (Super Aged Society) ภายในปี 2574 ซึ่งประเทศไทยอยู่ในอันดับ 4 ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อความต้องการด้านสาธารณสุขที่เพิ่มมากขึ้น
หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ บริษัท DKSH (ประเทศไทย) จำกัด พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ด้านโซลูชันการดูแลสุขภาพและผู้นำด้านการขยายตลาดสำหรับบริษัทผู้ผลิตเวชภัณฑ์ยา บริษัทผู้ผลิตยาจำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ (OTC) ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และเครื่องมือแพทย์ เดินหน้ายกระดับศักยภาพด้านการบริหารและการกระจายสินค้าเพื่อสุขภาพในประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรมในการขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานเชิงกลยุทธ์ ครอบคลุมศูนย์กระจายสินค้าทางการแพทย์และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ทันสมัยทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ ศูนย์กระจายสินค้าคลังศรีเพชร (SPDC) ศูนย์กระจายสินค้าเครื่องมือแพทย์ (MDDC) และศูนย์กระจายสินค้าศรีวรินทร์ (SVDC) โดยศูนย์กระจายสินค้าทั้ง 3 แห่งนี้มีบทบาทสำคัญในการส่งมอบผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายแพทริค แกรนเด รองประธานฝ่ายบริหาร และหัวหน้าฝ่าย Commercial Outsourcing ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก DKSH เปิดเผยว่า “ด้วยการลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง เราจึงมั่นใจว่า ผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพที่สำคัญจะส่งถึงมือผู้ป่วยชาวไทยอย่างรวดเร็วและอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด DKSH มุ่งมั่นที่จะขยายการดำเนินงานให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย เพื่อส่งมอบยาในการรักษาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ช่วยชีวิต และเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยชาวไทยให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงมอบการดูแลสุขภาพที่ดีให้แก่ทุกคนอย่างทั่วถึง”
สำหรับศูนย์กระจายสินค้าศรีเพชร (SPDC) เป็นศูนย์กระจายสินค้าด้านสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดของ DKSH ในประเทศไทย ตั้งอยู่ใกล้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นทำเลเชิงกลยุทธ์ มีอาคารและโครงสร้างพื้นฐานอันทันสมัย ด้วยขนาดพื้นที่กว่า 52,000 ตารางเมตร นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2550 ศูนย์กระจายสินค้าแห่งนี้ ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านสุขภาพระดับสากลสูงสุด โดยดูแลพันธมิตรทางธุรกิจมากกว่า 200 ราย และส่งมอบบริการให้แก่คู่ค้ามากกว่า 40,000 รายทั่วประเทศ ครอบคลุมโรงพยาบาล คลินิก ร้านขายยา โมเดิร์นเทรด และช่องทางการจำหน่ายดั้งเดิม รวมถึงช่องทางอีคอมเมิร์ซทั่วประเทศ ศูนย์กระจายสินค้าศรีเพชร จัดเก็บสินค้า (SKUs) กว่า 35,000 รายการและกระจายสินค้า 750,000 กล่องต่อเดือน
๐ การลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อเพิ่มความรวดเร็ว ความแม่นยำ และรองรับการเติบโตของธุรกิจเพื่อสุขภาพ
ศูนย์กระจายสินค้าศรีเพชร รองรับเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าในปัจจุบัน โดยได้ผนวกระบบอัตโนมัติและ AI ขั้นสูง เพื่อลดขั้นตอนกระบวนการบรรจุภัณฑ์และกระจายสินค้าให้รวดเร็ว แม่นยำ และยืดหยุ่น ในขณะเดียวกันก็มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์จะปลอดภัยและได้รับการดูแลจนกว่าจะถึงมือลูกค้า ภายในศูนย์ยังมีเทคโนโลยีขั้นสูงอื่นๆ ได้แก่ D-Pack โซลูชันการบรรจุหีบห่ออัตโนมัติเต็มรูปแบบ ที่ช่วยเพิ่มผลผลิตในการดำเนินงานได้ถึงร้อยละ 20 ช่วยปกป้องบรรจุภัณฑ์ได้ดีขึ้น ลดการใช้พลาสติกลงร้อยละ 15 และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่บนรถบรรทุกสินค้า นอกจากนี้ ยังใช้แอปพลิเคชัน ReSnap ที่ออกแบบมาเพื่อบันทึกการคืนสินค้าและส่งอีเมลแจ้งเตือนรายวันให้กับคู่ค้า อำนวยความสะดวกให้กระบวนการตรวจสอบสินค้ารวดเร็วขึ้นและลดความจำเป็นในการเดินทางมาที่คลังสินค้า
นายวรพงษ์ สุรชัยกุลวัฒนา ผู้อำนวยการอาวุโส แผนก Supply Chain Management หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ บริษัท DKSH (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เทคโนโลยีขั้นสูงที่ศูนย์กระจายสินค้าศรีเพชรช่วยให้เราสามารถบริหารจัดการกระบวนการขนส่งผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพในทุกขั้นตอนได้อย่างแม่นยำ และมั่นใจว่าสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพให้ถึงผู้รับปลายทางได้ทันท่วงที เกือบ 120 ปีที่ DKSH ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย บริษัทฯ ยังคงลงทุนในโซลูชันด้านโลจิสติกส์ที่เป็นนวัตกรรมที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของพันธมิตรทางธุรกิจ บุคลากรและผู้ให้บริการทางการแพทย์ และที่สำคัญ เพื่อผู้ป่วยทั่วทั้งประเทศ”
ด้วยบทบาทที่เพิ่มขึ้นของ AI และการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในอุตสาหกรรมสุขภาพ DKSH ยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพได้อย่างทั่วถึง เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ป่วยจะได้รับการดูแลและได้รับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ ผ่านกระบวนการจัดการสินค้าที่ได้รับการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ
๐ ผู้นำด้านโลจิสติกส์ที่ยั่งยืนและการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล
สำหรับเครือข่ายการกระจายสินค้าทั่วประเทศของ DKSH ซึ่งประกอบด้วย จุดกระจายสินค้า (cross-docking) จำนวน 9 แห่ง และรถขนส่งสินค้ากว่า 400 คัน สร้างความเชื่อมั่นในการจัดส่งสินค้าที่ตรงเวลาทั่วประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการในการรับบริการของผู้คนนับล้าน ด้วยประสบการณ์เกือบ 160 ปี ในภูมิภาคเอเชีย และการทำงานอย่างยาวนานในประเทศไทย DKSH เดินหน้าในฐานะผู้นำด้านโลจิสติกส์ยั่งยืน ผ่านการขนส่งด้วยรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่ศูนย์กระจายสินค้าศรีเพชร และใช้นวัตกรรมโซลูชันบรรจุภัณฑ์ B-Box ซึ่งเป็นบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100% สำหรับเวชภัณฑ์ที่มีการควบคุมอุณหภูมิ
นอกจากนี้ ศูนย์กระจายสินค้าศรีเพชรของ DKSH ยังได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล ได้แก่ ISO 9001:2015, ISO 13485:2016, WHO GMP, GDP/GSDP และ PICS GMP&GDP การดำเนินการและการได้รับมาตรฐานรับรองเหล่านี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของ DKSH ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบ คุณภาพ และความยั่งยืน ด้วยการรักษามาตรฐานสูงสุด DKSH มั่นใจว่าการดำเนินงานของบริษัทตรงตามมาตรฐานที่รัดกุมของอุตสาหกรรมสุขภาพ มอบโซลูชันการดูแลสุขภาพที่ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพให้กับคู่ค้าและพันธมิตรในประเทศไทยและทั่วโลก
ทั้งนี้ DKSH ดำเนินธุรกิจโดยมีวัตถุประสงค์หลักคือการเพิ่มคุณค่าให้แก่ชีวิตผู้คน ด้วยการให้บริการด้านการขยายตลาดแก่ธุรกิจในภูมิภาค เอเชียและทั่วโลกมายาวนานเกือบ 160 ปี ภายใต้หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ หน่วยธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค หน่วยธุรกิจวัตถุดิบอุตสาหกรรม และหน่วยธุรกิจเทคโนโลยี ในฐานะผู้นำด้านการให้บริการขยายตลาด เราให้บริการด้านการจัดหาวัตถุดิบ ข้อมูลการตลาด การตลาดและการขาย การดำเนินธุรกิจโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ การกระจาย สินค้าและการจัดส่ง รวมถึงบริการหลังการขาย DKSH เข้าร่วมเป็นสมาชิกในการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และยึดมั่นในแนวทางตามหลักการประกอบธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม บริษัทฯ ได้จดทะเบียนใน SIX Swiss Exchange ดำเนินธุรกิจอยู่ใน 36 ประเทศ มีพนักงานผู้เชี่ยวชาญ 29,040 คน โดยมียอดขายสุทธิในปี พ.ศ. 2566 จำนวน 11.1 พันล้านฟรังก์สวิส หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ DKSH ทำการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยา ยาจำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์ เพื่อสุขภาพมีผู้เชี่ยวชาญกว่า 8,140 ราย และมียอดขายสุทธิในปี พ.ศ. 2566 จำนวน 5.6 พันล้าน ฟรังก์สวิส