xs
xsm
sm
md
lg

กรมป่าไม้-ราช กรุ๊ป ย้ำป่าชุมชนช่วยบรรเทาภัยพิบัติโลกร้อน ปีนี้ “ป่าชุมชนบ้านหนองบั่ว จ.ร้อยเอ็ด” คว้ารางวัลชนะเลิศระดับประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมป่าไม้ - ราช กรุ๊ป ยืนหยัดสนับสนุนป่าชุมชนช่วยบรรเทาภัยพิบัติจากโลกร้อน โครงการ “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน” “ป่าชุมชนบ้านหนองบั่ว จ.ร้อยเอ็ด” คว้ารางวัลคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ชนะเลิศระดับประเทศ ประจำปี 2567

ท่ามกลางสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่มีความถี่ขึ้นและไม่อาจคาดการณ์ได้ในหลาย ๆ ภูมิภาคทั่วโลก รวมถึงพายุรุนแรง ฝนตกหนักจนเกิดอุทกภัยและดินถล่มในภาคต่างๆ ของประเทศไทย ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนให้สังคมได้ตระหนักถึงภัยพิบัติและผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงขึ้น ปัจจุบันนานาประเทศได้ร่วมกันกำหนดแนวทางและเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ โดยประเทศไทยได้ร่วมแสดงเจตจำนงและประกาศเป้าหมายใน ปี 2065

การเพิ่มพื้นที่ป่าไม้เป็นหนทางที่จะทำให้อุณหภูมิของโลกลดลงได้อย่างมีนัยสำคัญ เพราะจะช่วยดูดกลับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ปลดปล่อยจากกิจกรรมของมนุษย์มากักเก็บไว้ในรูปของเนื้อไม้ ทั้งนี้ ป่าชุมชนถือเป็นวิธีที่ทรงประสิทธิภาพทั้งการรักษาฟื้นฟูป่าและเพิ่มพื้นที่ป่าเพราะมีชุมชนเป็นกำลังสำคัญในการดูแล ขณะเดียวกันชุมชนก็สามารถพึ่งพิงป่าเป็นแหล่งอาหาร แหล่งน้ำในการดำรงชีวิตได้อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้กรมป่าไม้ และบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันสนับสนุนส่งเสริมป่าชุมชนมาตั้งแต่ปี 2551 ภายใต้โครงการ “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน” ทุกปีจะมีการเฟ้นหาป่าชุมชนต้นแบบที่มีความเข้มแข็งในการดูแลรักษาป่า การฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าให้มีความยั่งยืน รวมถึงการใช้ประโยชน์จากป่าอย่างพอเพียง จากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อมอบรางวัล คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน เป็นการเชิดชูเกียรติและเป็นขวัญกำลังใจแก่ชุมชน รวมทั้งช่วยปลุกสังคมให้เกิดการรับรู้และตระหนักถึงความสำคัญของป่าไม้ ซึ่งเป็นแหล่งดูดกลับก๊าซเรือนกระจก ลดภาวะโลกรวนและยังเป็นกลไกในการป้องกันภัยพิบัติธรรมชาติทั้งพายุ ฝนตกหนัก ดินถล่ม น้ำท่วม น้ำแล้ง ซึ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกขณะ

นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า กรมป่าไม้มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ถึงร้อยละ 55 ของประเทศ ตามที่กำหนดในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ทั่วประเทศให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 40 ตามนโยบาย ป่าไม้แห่งชาติ พ.ศ. 2562 ตลอดจนร่วมเป็นแรงหนุนประเทศไปสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน การส่งเสริมให้ชุมชน เข้ามามีบทบาทในการบริหารจัดการ ฟื้นฟู รักษา และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างสมดุลร่วมกับภาครัฐ ในรูปแบบของป่าชุมชน ตามพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 ถือเป็นยุทธศาสตร์การเพิ่มพื้นที่ป่าที่กรมป่าไม้ให้ความสำคัญ ด้วยเล็งเห็นว่าการฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้จะยั่งยืนได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากองคาพยพของสังคม โดยเฉพาะประชาชนและชุมชนซึ่งเป็นผู้อยู่ใกล้ชิดป่ามากที่สุด โดยตั้งเป้าหมายขยายการจัดตั้งป่าชุมชนทั่วประเทศให้ถึง 15,000 แห่ง รวมพื้นที่ 10 ล้านไร่ ภายในปี 2570

“ผลสำเร็จของป่าชุมชนที่ได้รับรางวัลเป็นภาพสะท้อนที่แจ่มชัดว่า คนอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างสมดุลและเกื้อกูลกัน เมื่อมีการพัฒนาและบริหารจัดการป่าที่ดี ชุมชนก็สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตจากป่าที่สมบูรณ์ ลดรายจ่าย สร้างรายได้ ต่อยอดพัฒนาอาชีพได้อย่างยั่งยืน โดยไม่จำเป็นต้องบุกรุกทำลายป่า และป่าชุมชนต้นแบบเหล่านี้จะเป็นแหล่งข้อมูลด้าน การบริหารจัดการป่าชุมชนที่สำคัญ ให้ประชาชนได้เข้ามาศึกษาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ด้านการดูแล ป่าชุมชน เพื่อนำไปปรับใช้ในการพัฒนาป่าชุมชนของตนเองต่อไป ซึ่งโครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ถือได้ว่าเป็นโครงการต้นแบบที่บูรณาการความร่วมมือหน่วยงานรัฐ ภาคประชาชน และภาคเอกชน หลอมรวมเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้อย่างยั่งยืน ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม” นายสุรชัย กล่าว

นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในสภาวการณ์ที่สภาพภูมิอากาศของโลกกำลังแปรปรวนอย่างหนัก ทุกประเทศต่างยอมรับว่า การเพิ่มพื้นที่ “ป่าไม้” จะช่วยลดปัญหานี้ได้ ดังนั้น ป่าชุมชน จึงเป็นความหวังและพลังในการรักษา ฟื้นฟู ดูแลผืนป่าและขับเคลื่อนสังคม ตลอดระยะเวลา 17 ปีของโครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน บริษัทฯ ได้เห็นก้าวย่างการพัฒนาป่าชุมชน ทั้งการสนับสนุนจากภาครัฐ ภาคเอกชน และศักยภาพความสามารถของชุมชนในการบริหารจัดการป่าและความสามัคคีของชุมชนที่นับวันจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น บริษัทฯ ภูมิใจที่ได้ร่วมสนับสนุนชุมชนคนรักษ์ป่าทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ บริษัทฯ ขอชื่นชมและยกย่องป่าชุมชนที่ได้รับรางวัลคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชนทั้ง 16 แห่ง ที่ร่วมมือร่วมใจมุ่งมั่นดูแลป่าไม้อย่างจริงจังและต่อเนื่องยาวนาน ทุกท่านล้วนเป็นทรัพยากรบุคคลอันทรงคุณค่าของประเทศ ที่ช่วยรักษาความอุดมสมบูรณ์ของป่าที่เป็นต้นกำเนิดของน้ำและความหลากหลายทางชีวภาพที่ทุกคนในสังคมพึ่งพาอาศัย บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนป่าชุมชนเพื่อตอบสนองเป้าหมายยุทธศาสตร์ของชาติ ความเป็นกลางทางคาร์บอน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ต่อไป

สำหรับการประกวดป่าชุมชน ภายใต้โครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ประจำปี 2567 มีป่าชุมชนที่ได้รับรางวัล 16 แห่ง รวมพื้นที่ป่า 37,062.61 ไร่ มีความสามารถในการกักเก็บคาร์บอนได้ 233,494.443 ตันคาร์บอน (ค่าเฉลี่ยอัตราการ กักเก็บคาร์บอนของป่าไม้ประมาณ 6.3 ตัน/ไร่) รวมตลอด 17 ปี ที่ผ่านมา โครงการได้สนับสนุนป่าชุมชนไปแล้ว 1,779 แห่ง พื้นที่ป่ารวม 1,607,072.23 ไร่ ซึ่งสามารถกักเก็บและดูดกลับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 10,124,555.049 ตันคาร์บอน


รางวัลคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ประจำปี 2567 

ป่าชุมชนบ้านหนองบั่ว ตำบลช้างเผือก อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด คว้ารางวัลป่าชุมชนชนะเลิศระดับประเทศ รับถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินกองทุนอนุรักษ์ป่าชุมชน 200,000 บาท ป่าชุมชนบ้านหนองบั่ว มีพื้นที่ป่า 1,013 ไร่ ชุมชนมีความเข้มแข็งและมีความรักหวงแหนในผืนป่า ผนึกกำลังกันปกป้องผืนป่าจากการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่ากว่า 19 ปี และฟื้นฟูผืนป่าจนอุดมสมบูรณ์หลุดพ้นจากปัญหาการขาดแคลนน้ำได้สำเร็จ 

ป่าแห่งนี้ใช้แนวคิด การจัดการป่าในรูปแบบ “น้ำรอบป่า” ด้วยการปลูก ฟื้นฟูจนป่าอุดมสมบูรณ์สามารถดูดซับน้ำไว้ใต้ดิน เพื่อนำมาใช้เป็นน้ำในการอุปโภคบริโภคของชุมชน พร้อมหล่อเลี้ยงป่า โดยได้ติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าสำหรับระบบน้ำบาดาล และวางท่อประปารอบผืนป่าเพื่อให้น้ำแก่ต้นไม้ สัตว์ป่าและสรรพชีวิตในป่า รวมทั้งปล่อยสู่แหล่งน้ำในชุมชนเพื่อประโยชน์ทางการเกษตรด้วย ที่สำคัญสมาชิกชุมชนมีส่วนร่วมในการร่วมคิดร่วมทำแผนพัฒนาและกำหนดกฎระเบียบข้อบังคับการใช้ป่าชุมชน อีกทั้งยังสร้างเครือข่ายพิทักษ์ป่าร่วมกับป่าชุมชนใกล้เคียง จัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติและฐานเรียนรู้ ถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับเยาวชนและผู้ที่สนใจ มุ่งขยายกลุ่มคนรักษ์ป่าออกไปในวงกว้าง เพื่อที่จะได้ช่วยกันรักษาและปกป้องผืนป่าให้อยู่ยืนยงชั่วลูกชั่วหลาน


กำลังโหลดความคิดเห็น