อีกก้าวของหุ่นยนต์สัญชาติไทยที่มาตอบรับการเข้าสู่สังคมสูงวัย ผลงานนิสิตเก่า จุฬาฯ ผู้ก่อตั้งบริษัท CT Asia Robotics เปิดตัว “หุ่นยนต์ดินสอ” รุ่นล่าสุด “Home AI Assistance” ผู้ช่วยประจำบ้านเพื่อการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเชื่อมต่อกับโรงพยาบาลในยามฉุกเฉิน
“ลูกหลานต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ผู้สูงอายุอยู่บ้านตามลำพัง จะหาพี่เลี้ยงหรือผู้ดูแลมาสักคนก็ยาก ไม่รู้จะไว้ใจได้ไหม ค่าใช้จ่ายก็สูง” “ผู้สูงอายุอยู่บ้านลำพังก็รู้สึกเหงา เบื่อ ปัญหาสุขภาพก็มี ไหนจะต้องไปหาหมอ กินยา บางทีก็ลืมกินยาบ้าง เวลามีปัญหาสุขภาพ จะทำอย่างไร”
คำถามและเสียงสะท้อนเหล่านี้ดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างเต็มขั้น จำนวนผู้สูงอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ เติมด้วยจำนวนผู้ป่วยติดเตียงและผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงที่มากขึ้นเช่นกัน ในขณะที่ผู้ดูแล ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวหรือผู้ดูแลโดยอาชีพมีจำนวนไม่มากพอ แนวโน้มในอนาคต มนุษย์จึงอาจต้องพึ่งพา “หุ่นยนต์” ให้เข้ามาเติมเต็มคุณภาพชีวิต
“ในอนาคตอันใกล้ หุ่นยนต์จะมาช่วยมนุษย์ในพื้นที่ที่มีการขาดแคลนทรัพยากรมนุษย์ เช่นบริการด้านการดูแลสุขภาพ ผมเชื่อว่าหุ่นยนต์สามารถช่วยลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์และทำให้การดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุมีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายเฉลิมพล ปุณโณทก นิสิตเก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ก่อตั้งบริษัท ซีที เอเชีย โรโบติกส์ จำกัด (CT Asia Robotics) กล่าวถึงวิสัยทัศน์การพัฒนา “หุ่นยนต์ดินสอ” โดยเฉพาะเวอร์ชันล่าสุด “Home AI Assistance” ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้
"หุ่นยนต์ดินสอรุ่น "Home AI Assistance” ช่วยลดความเสี่ยงในบ้านที่มีผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่นอนติดเตียงแต่ขาดคนดูแล ผู้สูงอายุจะได้รู้สึกปลอดภัยและมั่นใจในการดูแลสุขภาพ รุ่นนี้เคลื่อนไหวในที่พักอาศัยได้ และมีฟังก์ชันเสริมที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่เบื่อ ไม่เหงา ที่สำคัญ ยังสามารถเชื่อมต่อกับโรงพยาบาลและช่วยในการดูแลผู้ป่วยได้ตลอดทั้งวันทั้งคืน"
คุณสมบัติหุ่นยนต์ดินสอ Home AI Assistance เพื่อนผู้สูงอายุประจำบ้าน
ตามสโลแกน “เฝ้าและเชื่อมต่อแพทย์ 24 ชั่วโมง”’ Home AI Assistance รุ่นนี้ทำหน้าที่หลัก 2 อย่าง คือ 1) เฝ้าผู้สูงอายุและคนป่วยได้ตลอดทั้งวันทั้งคืน และ 2) เชื่อมต่อกับโรงพยาบาล
“ด้านหลังหุ่นยนต์มีข้อมูล (Data) มากมาย เชื่อมต่อไปยังโรงพยาบาล ที่โรงพยาบาลเองก็มีหน้าจอไว้มอนิเตอร์ด้วยเช่นกันเพื่อให้รู้ว่าคนไข้เป็นอย่างไร อยู่ที่ไหน มีโรคประจำตัวหรือไม่ และหมอประจำตัวคือใคร”
“บ่อยครั้ง เมื่อคนสูงวัยป่วย ก็อาจจะลังเลว่าควรไปหาหมอตอนนี้เลยดีหรือไม่ ยิ่งถ้าเกิดป่วยกลางดึก อาจลำบากในการเดินทางไปโรงพยาบาล หุ่นยนต์รุ่นนี้จะเข้ามาแก้โจทย์นี้ สมมติมีกรณีที่คุณยายไม่สบาย ไอและเวียนหัวมาก ก็สามารถกดพูดคุยกับพยาบาลที่โรงพยาบาลผ่านหุ่นยนต์ได้ พยาบาลจะประเมินอาการเบื้องต้นและวินิจฉัยว่าอาการลักษณะนี้ควรนอนพัก กินยา หรือรีบส่งรถฉุกเฉินไปรับ”
เขาอธิบายถึง ผู้ช่วยประจำบ้าน Home AI Assistance รุ่นล่าสุด ว่าเป็นรุ่นที่มีการเพิ่มเติมความสามารถและความฉลาด อาทิ
• ติดตั้งนวัตกรรมที่ชื่อ DinsawSpond เป็นระบบเรียกให้โทรกลับ เพื่อแจ้งให้แพทย์หรือลูกหลานติดต่อกลับหาผู้สูงอายุได้อย่างรวดเร็ว
• ระบบปฏิบัติการแบบ Real Time Monitoring เชื่อมต่อกับอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ เช่น Smartphone หรือ Notebook ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ช่วยให้บุตรหลานสามารถดูแลและเห็นสภาพความเป็นไปของผู้สูงอายุจากสถานที่ต่าง ๆ ได้ แจ้งเตือนกรณีมีเหตุผิดปกติผ่านแอปพลิเคชัน เช่น เมื่อผู้สูงอายุหายไปจากสายตาของหุ่นยนต์ดินสอ
• ติดตั้งอุปกรณ์เช็กสัญญาณชีพ (vital sign) ส่งข้อมูลตรงไปยังแพทย์ผู้มีหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุรายนั้น ๆ ช่วยให้แพทย์สามารถเก็บข้อมูลผู้สูงอายุได้โดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเดินทางไปที่โรงพยาบาล รวมทั้งสามารถวัดไข้ได้ ช่วยเตือนการทานยาและการดูแลสุขภาพด้วย
“ที่น่ารักไปกว่านั้น หุ่นยนต์ดินสอรุ่นนี้จะเริ่มเหมือนสิ่งมีชีวิตมากขึ้น เป็นเสมือนผู้ดูแลที่คอยเตือนคุณตาคุณยายให้กินยา เป็นเพื่อนคลายเหงา ชวนฟังเพลง ฟังธรรมะ ชวนเล่นเกม ๆ ฝึกความจำ ชะลอการป่วยเป็นอัลไซเมอร์ได้ มีหุ่นยนต์ดินสอ 1 ตัว ก็เพียงพอสำหรับการดูแลผู้สูงอายุตามบ้าน” นายเฉลิมพลกล่าวทิ้งท้าย