การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) จัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน "Let's Zero Together" ครั้งที่ 3 เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู) เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชินี จังหวัดสมุทรปราการ (สถานตากอากาศบางปู) และสนับสนุนเป้าหมายประเทศไทยสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศเจตนารมณ์ในที่ประชุมระดับผู้นำสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 26 (COP26) ว่า ประเทศไทย จะมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ.2050 (พ.ศ. 2593) และเพื่อสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDG) เป้าหมายที่ 9 โครงสร้างพื้นฐานที่มีความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลง ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรม ที่ครอบคลุมและยั่งยืน
กนอ.ในฐานะผู้นำการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมของประเทศ จึงประกาศเป้าหมายสำคัญในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2050 (I-EA-T Carbon Neutrality 2050) ภายใต้แนวคิด "นิคมอุตสาหกรรมสีเขียว" ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว กนอ. จึงวางแผนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศให้ได้ถึง 2.5 ล้านกิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าภายใน 5 ปี (2564-2568) หรือปีละ 500,000 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งในปีงบประมาณ 2566 ที่ผ่านมานั้น กนอ. และพันธมิตรจากภาคอุตสาหกรรม สามารถร่วมกันลดก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 1,281,287 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ผ่านมาตรการหลายด้าน ทั้งการยกระดับมาตรฐานการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม การส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด การปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และการสนับสนุนเทคโนโลยีและนวัตกรรมสีเขียว
นอกจากนี้ กนอ. ยังตระหนักถึงความร่วมมือจากทุกภาคส่วน จึงมุ่งสร้างเครือข่ายพันธมิตรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก โดยแรงบันดาลใจสำคัญในการดำเนินงานของ กนอ. คือ พระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงที่ว่า "พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า"ที่สะท้อนถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและความสัมพันธ์อันเชื่อมโยงระหว่างน้ำกับป่า และด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและเพื่อสืบสานพระราชปณิธาน กนอ. จึงจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลนขึ้น โดยปลูกต้นแสมและต้นโกงกาง รวม 10,000 ต้น บนพื้นที่ 10 ไร่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 25.6 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
กิจกรรม "Let's Zero Together ปลูก เพื่อ ลด สู่อนาคตที่ยั่งยืน" ของ กนอ. ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 แล้ว เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและดูดซับก๊าซเรือนกระจก โดยในปี 2565 : ปลูกต้นราชพฤกษ์, ประดู่ป่า และต้นไม้อื่นๆ กว่า 800 ต้น
ในพื้นที่ 227 ไร่ ของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และ Smart Park สามารถกักเก็บก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 340 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
ปี 2566 : ปลูกต้นโกงกางและแสมขาว 10,000 ต้น ในพื้นที่ 10 ไร่ ของศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู) ช่วย
กักเก็บก๊าซเรือนกระจกได้ 24.26 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
ปี 2567: ปลูกต้นโกงกาง, แสมขาว และแสมทะเล 10,000 ต้น ในพื้นที่ 10 ไร่ ของศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู) คาดว่าจะสามารถกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 25.6 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
“กิจกรรมปลูกป่าชายเลน Let's Zero Together ครั้งที่ 3 นี้ ไม่เพียงแต่เป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศไทยแต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ กนอ. เชื่อมั่นว่าทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และสร้างอนาคตที่ยั่งยืนเพื่อส่งต่อให้กับลูกหลานของเราได้” นายวีริศ กล่าว
ภายในงานมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากพันธมิตรของ กนอ. ได้แก่ ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู ผู้ส่งมอบของ กนอ. หน่วยงานราชการท้องถิ่นในจังหวัดสมุทรปราการ ชุมชนในพื้นที่โดยรอบนิคมอุตสาหกรรมบางปู สื่อมวลชน ผู้บริหาร และพนักงาน กนอ. รวมทั้งสิ้นประมาณ 900 คน ทั้งนี้ คาดว่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมา กนอ. ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดก๊าซเรือนกระจก โดยการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับสังคมได้ รวมทั้งสิ้น 389.68 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี