วันนี้ (14 มิถุนายน 2567) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิด โครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่าเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พร้อมทั้งมอบต้นรวงผึ้งให้แก่ปลัดกระทรวงทั้ง 20 กระทรวง รวมถึงผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยมี ผู้บริหารของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมงาน
ทส.ชวนประชาชนรับกล้าไม้ฟรีทั่วประเทศ
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงความสำคัญของโครงการนี้ว่า เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลพระชนมพรรษา 6 รอบ 28กรกฎาคม 2567 นับเป็นมหามงคลสมัยพิเศษยิ่ง และเพื่อร่วมกันแสดงความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ รัฐบาล โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงได้จัดทำโครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อเป็นการฟื้นฟูและรักษาสภาพป่าต้นน้ำ รวมถึงการคืนสภาพระบบนิเวศให้กับผืนป่าทั่วประเทศให้กลับมาอุดมสมบูรณ์
โดยได้จัดเตรียมกล้าไม้เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชน ซึ่งเป็นกล้าไม้ที่มีค่าทางเศรษฐกิจ เช่น สัก มะค่าโมง พะยูง แดง ยางนา ประดู่ป่า เป็นต้น จำนวน 72 ล้านกล้า ประชาชนสามารถติดต่อขอรับกล้าไม้ได้ฟรีที่สถานีเพาะชำกล้าไม้ ในสังกัดกรมป่าไม้ จำนวน 139 หน่วยงานทั่วประเทศ และขอเชิญชวนผู้ที่รับกล้าไม้แล้ว ร่วมลงทะเบียนปลูกต้นไม้ในโครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่าเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ผ่านทางเว็บไซต์กรมป่าไม้ 72m.forest.go.th เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว เป็นโครงการสำคัญของรัฐบาล ถือเป็นการร่วมแรงร่วมใจปลูกและบำรุงรักษาต้นไม้ให้เจริญเติบโตงอกงาม อันเป็นการสนองพระราชดำริด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ ซึ่งทำให้เกิดความภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการถวายความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ประชาชนทั่วประเทศได้เห็นความสำคัญของการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ รวมทั้งช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ลดมลภาวะอากาศเป็นพิษจากฝุ่นและหมอกควันได้อีกด้วย
