สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ผนึกกำลัง การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ส่งเสริมและเร่งรัดการลงทุนในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด "NOW Thailand" ชูการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความเข้มแข็งและความมั่งคั่งที่ยั่งยืน โดยการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการสู่การเป็น Eco Factory ตอบโจทย์ ESG
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ประธานคณะกรรมการ กนอ. เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 5-6 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้นำคณะผู้บริหารระดับสูงของ กนอ. เข้าหารือกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อหาความร่วมมือในการขับเคลื่อนการลงทุนในประเทศไทย โดยประสานการทำงานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อลดขั้นตอน ปลดล็อคให้ประเทศไทยเป็นหมุดหมายที่สำคัญของนักลงทุน ปรับบทบาท กนอ. สู่ "ผู้เร่งรัดการลงทุน" ภายใต้แนวคิด NOW Thailand : โอกาสทองของการลงทุนไร้ขีดจำกัด โดย NOW Thailand : ดินแดนแห่งโอกาสและความมั่งคั่งไม่รู้จบ ประกอบด้วย N - New horizons of Investment: เปิดรับทุกการลงทุนใหม่ๆ ,O - Opportunity Unlimited: เปิดโอกาสทางธุรกิจไร้ขีดจำกัด และ W - Wealth-packing Districts: สร้างเขตเศรษฐกิจที่มั่งคั่งและยั่งยืน ทั้งนี้ ภายใต้แนวคิด Now Thailand มีกลยุทธ์หลัก ประกอบด้วย
• Investment Connect หมายถึง การเชื่อมต่อการลงทุน สร้างภาพลักษณ์ และขับเคลื่อนการลงทุนอย่างยั่งยืน
• Investment Fast Track หมายถึง "ทางด่วน" สำหรับนักลงทุน เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการลงทุน
“การหารือร่วมกันครั้งนี้นับเป็นโอกาสดีที่ กนอ. ได้สื่อสารทิศทางการดำเนินงานของ กนอ. และประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานเป็น One Team เพื่ออำนวยความสะดวกให้สอดรับกับความต้องการของนักลงทุน สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุน นำไปสู่การขับเคลื่อนการลงทุนตามนโยบายรัฐบาลต่อไป” นายยุทธศักดิ์ กล่าว
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หอการค้าแห่งประเทศไทยมีแผนที่จะยกระดับ Reskill และ Upskill ให้แก่แรงงานภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะด้านภาษา และด้านเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มทักษะให้แก่แรงงานในประเทศ และมีความยินดีอย่างยิ่งที่ กนอ. จะปรับบทบาทเป็นผู้เชื่อมต่อการลงทุน เพื่อให้คำปรึกษาแก่นักลงทุน ประสานงานระหว่างหน่วยงานเพื่อให้การลงทุนเป็นเรื่องง่าย
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นโยบายขับเคลื่อน ส.อ.ท. วาระปี 2567-2569 คือ ONE FTI แบ่งออกเป็น VISION เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมไทย เพื่อประเทศไทยที่เข้มแข็งกว่าเดิม หรือ “Strengthen Thai Industries for Stronger Thailand” โดยเป็นแกนกลางเสริมสร้างความเข้มแข็งและผลิตภาพอุตสาหกรรมไทยให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล พัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมของไทยให้ยั่งยืน โดยมีความมุ่งมั่นในการเร่งยกระดับอุตสาหกรรมเดิม (First Industries) และพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ (Next-GEN Industries) ซึ่งสอดคล้องกันกับทิศทางของ กนอ. ที่ต้องการส่งเสริมการผลิตในอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ของ กนอ.
ทั้งนี้ ส.อ.ท. จะยกระดับความร่วมมือกับ กนอ. ในการเร่งรัดการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมโดยอยู่ในรูปแบบคณะกรรมการร่วม เพื่อดึงดูดนักลงทุนที่มีศักยภาพ พัฒนากฎหมายกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค และพัฒนาภาคอุตสาหกรรมให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ตอบโจทย์ ESG โดย ส.อ.ท. มุ่งหวังว่าความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมกับการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทยสู่ความเข้มแข็งและความยั่งยืนต่อไป
ด้านนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า กนอ. และ ส.อ.ท. มีการประสานความร่วมมือกันมาอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้าง
ความยั่งยืน โดยพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการสู่การเป็น Eco Factory และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเลือกใช้ผู้ประกอบการจัดของเสียที่ได้การรับรอง Eco Factory for Waste Processor ดังนั้นในการหารือร่วมกันกับ ส.อ.ท. และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ จึงถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของ กนอ. ในการปรับบทบาทใหม่ เพื่อเชื่อมต่อการลงทุน นำไปสู่การยกระดับการให้บริการ และสร้างความเข็มแข็งให้กับภาคอุตสาหกรรมไทย เพื่อเป้าหมายให้นิคมอุตสาหกรรมอยู่คู่ชุมชนอย่างยั่งยืน
“กนอ. พร้อมที่จะร่วมมือกับทุกหน่วยงานเพื่อผลักดันนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลให้สำเร็จลุล่วง เชื่อว่าความร่วมมือในครั้งนี้ เราทำได้ถูกที่ ถูกเวลา เพราะขณะนี้ถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของนักลงทุนที่สนใจจะมาลงทุนในประเทศไทย เพื่อสร้างโอกาสทองของการลงทุนให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง”นายวีริศ กล่าว
สำหรับการประชุมหารือระหว่างประธานกรรมการ กนอ. และนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย มีขึ้นเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2567 และได้ร่วมหารือกับนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา