ม.รังสิต ก้าวสู่ปีที่ 40 ยืนหยัดยึดบทบาท "ชี้นำสังคม" ผลักดันความเป็นผู้นำทางความคิด ชูนโยบายเน้นให้ความสำคัญเเละมุ่งมั่นพัฒนาทั้งด้านกายภาพ จิตใจ และพื้นที่การเรียนรู้ เพื่อนักศึกษาที่เป็นหัวใจของมหาวิทยาลัยรังสิต
ด้วยวิสัยทัศน์การบริหาร ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีผู้ก่อตั้ง ได้วางทิศทางที่แข็งแกร่งให้กับมหาวิทยาลัยรังสิตในการมุ่งสร้างสังคม สร้างขุมพลังแห่งปัญญาให้กับประเทศชาติ เมื่อเข้าสู่การบริหารภายใต้ผู้นำยุคใหม่ ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ อธิการบดีคนปัจจุบัน ยังยืนหยัดสืบสานปณิธานอันมุ่งมั่นพร้อมต่อยอดในการบริหารมหาวิทยาลัยรังสิต โดยผลักดันให้ผู้บริหาร คณาจารย์ นักวิชาการ ตลอดจนนักศึกษา มีความเป็นผู้นำทางความคิด ดังนั้น หากสังคมหรือประเทศชาติต้องการพลังสมอง ในฐานะที่เราเป็นบุคคลากรของสถาบันการศึกษาที่ได้รับความเคารพและความเชื่อถือ อันเนื่องจากมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง ดังนั้นเราจะสร้างและสนับสนุนบุคคลที่มีอิทธิพลในด้านความคิดเพื่อมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น หาแนวทาง ตลอดจนหาทางออกในการแก้ปัญหา และช่วยเหลือประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ด้านการแพทย์ ด้านการท่องเที่ยว ด้านกฎหมาย ด้านเศรษฐกิจ ด้านการเมือง และอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนของประเทศต่อไป
"แนวนโยบายที่มหาวิทยาลัยได้ตั้งไว้นั้น ให้ความสำคัญกับนักศึกษาซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของมหาวิทยาลัยรังสิต โดยมุ่งมั่นพัฒนาด้านต่างๆ แบ่งเป็นด้านของพื้นที่การเรียนรู้ ที่เตรียมพร้อมสู่โลกของการทำงานได้อย่างมืออาชีพ ตามแบบฉบับ "Practical University" รวมทั้งเรื่องของรูปแบบการบริหารจัดการองค์กรก็ต้องเป็น "Smart Organization" เพื่อขับเคลื่อนไปพร้อมกัน" ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวแสดงในงานประชุมบุคลากรประจำปี 2567 และในโอกาส 40 ปีมหาวิทยารังสิต ณ อาคารนันทนาการ (อาคาร 14) มหาวิทยาลัยรังสิต เมื่อเร็วๆ นี้
"สิ่งที่เราให้ความสำคัญคือ นักศึกษา โดยเปิดพื้นที่การเรียนรู้ให้นักศึกษาได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงด้านกายภาพ เมื่อเปิดพื้นที่การเรียนรู้ เป็นมหาวิทยาลัย 24 ชั่วโมง เรื่องของความปลอดภัยของนักศึกษาจึงเป็นสิ่งสำคัญ มหาวิทยาลัยรังสิตได้จัดตั้ง สำนักงานตำรวจมหาวิทยาลัยรังสิต(ตร.ม.) ขึ้น ซึ่งเป็นที่แรกในประเทศไทย เพื่อดูแลป้องกันการก่อเหตุอาชญากรรมในพื้นที่โดยรอบสถานศึกษา เพื่อให้นักศึกษา บุคลากร รวมทั้งผู้ปกครองรู้สึกอุ่นใจถึงความปลอดภัยตลอดเวลาที่อยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย และที่สำคัญคือด้านจิตใจ ซึ่งปัจจัยรอบข้างในปัจจุบันที่ก่อให้เกิดความเครียด ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ มลภาวะ ส่งผลให้เกิดสภาพจิตใจที่ไม่มั่นคง มหาวิทยาลัยเล็งเห็นและมุ่งมั่นพัฒนา ในการช่วยฟื้นฟูจิตใจของนักศึกษามาโดยตลอด และต่อยอดให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบันได้ดำเนินแผนการสร้าง RSU Clinic ศูนย์ให้คำปรึกษาแก่นักศึกษา บุคลากร เพื่อฟื้นฟูจิตใจให้มั่นคงต่อการดำรงชีวิต ให้มหาวิทยาลัยเป็นพื้นที่ปลอดภัยในใจนักศึกษา ท้ายที่สุด มุ่งหวังเพื่อให้เก่งทั้งในวิชาชีพ วิชาชีวิต และเป็นคนดี"
นอกจากนี้ ม.รังสิตยังมุ่งเน้น "Good Practice" หรือแนวปฏิบัติที่ดี ซึ่งแนวทางเดิมเป็นการถอดความรู้จากบุคลากรกลุ่มเกษีนณเพื่อให้มีแนวทางที่ดีสำหรับคนรุ่นต่อไป แต่แนวทางใหม่เป็นการสร้าง ไม่ใช่การค้นหา ด้วยการกำหนดเป้าหมายหรือเป้าประสงค์ โดยใช้ Transformative Learning หรือการเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นการวางแผนตั้งแต่ต้นปีการศึกษา แล้วหาวิธีการ และลงมือทำ ซึ่งหากสำเร็จจะเกิดเป็น "Good Practice" แต่ถ้าไม่สำเร็จจะเป็น "Lesson Learn" ซึ่งแนวทางนี้เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดการพัฒนา
