เนื่องด้วยพันธกิจของมูลนิธิรามาธิบดีฯ มุ่งสนับสนุนทุกการดำเนินงานของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยครอบคลุมทั้ง 4 ด้านสำคัญ ได้แก่ การสร้างบุคลากรการแพทย์ การวิจัยเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ด้านการรักษาโรคซับซ้อน และการสร้างเสริมสุขภาพ ภายหลังได้ริเริ่มโครงการใหม่ที่เกี่ยวข้องกับด้านสุขภาพที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีให้การสนับสนุนและพัฒนาขึ้น ซึ่งขยายขอบเขตไปไกลและกว้างขวางมากกว่าแค่พื้นที่ในโรงพยาบาล เช่น โครงการรามาธิบดีเพื่อโรงพยาบาลชุมชน โครงการรามาธิบดีศรีอยุธยา และโครงการทุนสถาบันราชสุดา เป็นต้น
ศ.คลินิก นพ.อาทิตย์ อังกานนท์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และประธานคณะกรรมการบริหารมูลนิธิรามาธิบดีฯ กล่าวถึงแผนการดำเนินงานของมูลนิธิรามาธิบดีฯ เพื่อสานต่อพันธกิจของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายใต้คณะบริหารชุดใหม่ เพื่อสานต่อภารกิจแห่งการเป็นที่พึ่งของคนไทย
ปัจจุบันมีโครงการระดมทุนที่มูลนิธิรามาธิบดีฯ ให้การดูแลอยู่ในตอนนี้มีประมาณ 7 โครงการ โดยมีโครงการหลักอย่างโครงการอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี และย่านนวัตกรรมโยธี ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญในปีนี้และอีกอย่างน้อย 7 ปีข้างหน้า เพื่อเพิ่มพื้นที่ และเพิ่มศักยภาพทางการแพทย์ให้มีความก้าวหน้ามากขึ้น สามารถรองรับเครื่องมือทางการแพทย์และเทคโนโลยีของการรักษาโรคซับซ้อนและก้าวหน้าขึ้นในอนาคต บนแนวคิด “เข้าใจเขา เข้าใจเรา เข้าใจทุก(ข์)คน” และตอบโจทย์ความต้องการทั้งผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงการแก้ไขปัญหาด้านความแออัดของพื้นที่อาคารเดิม โดยตั้งเป้าหมายการระดมทุนเพิ่มเติมจากการสนับสนุนของภาครัฐบาลรวมจำนวน 9,000 ล้านบาท ซึ่งจะถูกใช้ดำเนินการในการสร้างอาคารโรงพยาบาลและการจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย
นอกจากนี้ มูลนิธิรามาธิบดีฯ ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของเด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่จะก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนระบบสาธารณสุขไทย มูลนิธิรามาธิบดีฯ จึงมีการระดมทุนเข้าโครงการทุนการศึกษารามาธิบดี เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับการศึกษาในการสร้างบุคลากรการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพเข้าสู่ระบบสาธารณสุขไทยในอนาคต
พรรณสิรี คุณากรไพบูลย์ศิริ ผู้จัดการมูลนิธิรามาธิบดีฯ กล่าวถึงช่องทางการบริจาคให้มูลนิธิรามาธิบดีฯ ว่า มูลนิธิรามาธิบดีฯ ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายของผู้บริจาคในทุกช่วงวัย และทุกไลฟ์สไตล์ เนื่องด้วยช่องทางการบริจาคแบบออนไลน์เริ่มมีบทบาทอย่างมาก และเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้ผู้บริจาคสามารถร่วมทำบุญได้โดยที่ไม่ต้องเดินทางมาที่โรงพยาบาล ดังนั้น มูลนิธิรามาธิบดีฯ จึงพัฒนาช่องทางการบริจาคให้มีการใช้งานที่ง่าย และปลอดภัยในการทำธุรกรรม และสามารถติดต่อได้หลายช่องทาง เช่น เว็ปไซต์ ไลน์ เฟซบุ๊ค รวมถึงโทรศัพท์ ซึ่งกลุ่มคนบริจาคนั้นทั้งรายย่อยระดับบุคคล ไปจนถึงรายใหญ่ที่เป็นทั้งบุคคลและองค์กร ซึ่งมูลนิธิรามาธิบดีฯ ให้ความสำคัญและเห็นคุณค่าของผู้ให้ทุกท่าน ดังนั้น จึงมุ่งพัฒนาการบริการในทุกช่องทางอย่างต่อเนื่อง
๐ กลยุทธ์สู่เป้าหมายการครองตำแหน่งในใจกลุ่มผู้บริจาคเจเนอเรชันใหม่ พร้อมเผยผลลัพธ์แห่ง “การให้” จากประชาชนในปีที่ผ่านมา
มูลนิธิรามาธิบดีฯ ให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริจาคเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น จึงมีการพัฒนาทั้งด้านขั้นตอนของการบริจาค (Journey) ทั้งในจุดรับบริจาคและช่องทางออนไลน์ เนื่องจากความคาดหวังของผู้บริจาคทั้งผู้บริจาคกลุ่มผู้สูงวัย และกลุ่มคนรุ่นใหม่ ต่างต้องการความรวดเร็ว และถูกต้อง ทีมรับบริจาคทั้งหน้าบ้านและหลังบ้านจะทำงานประสานกันเพื่อให้ผู้บริจาคสามารถทำบุญได้อย่างราบรื่น และประทับใจ
นอกจากการสื่อสารกับกลุ่มผู้บริจาครายเดิมที่มีความคุ้นเคยกับมูลนิธิรามาธิบดีฯ อยู่แล้ว ยังเล็งเห็นโอกาสในการสื่อสารกับกลุ่มผู้บริจาครายใหม่ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มของนักบุญออนไลน์ที่มักจะบริจาคเมื่อเกิดสถานการณ์จำเป็นและเกิดการระดมทุนส่งต่อกันในโลกออนไลน์ กลุ่มพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่บริจาคในนามองค์กร ไปจนถึงกลุ่มแฟนคลับของศิลปินที่มักมีการรวมตัวกันจัดกิจกรรมการกุศล หรือรวมกลุ่มกันทำความดีร่วมกับศิลปิน
ในปี 2566 ที่ผ่านมามูลนิธิรามาธิบดีฯ ได้เปิดตัวโครงการ Rama x Gamer Fun For Fund โดยเป็นโครงการความร่วมมือครั้งแรกของมูลนิธิรามาธิบดีฯ กับกลุ่มเกมเมอร์ซึ่งถือเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีอิทธิพลในการขับเคลื่อนสังคม โดยโครงการนี้ได้ร่วมมือกับ 3 เกมเมอร์ และ 1 ดาราจิตอาสา ได้แก่ Gssspotted (คุณไนท์) Soomny Vivii (คุณมะปราง) และ กิต งายย (คุณกิต) รวมถึงดาราจิตอาสาอย่างคุณโฟกัส-จีระกุล ในการสตรีมเกมการกุศล เพื่อระดมทุนบริจาคให้กับโครงการอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี และย่านนวัตกรรมโยธีโดยมีการสตรีมเกมทั้งหมด 4 ครั้ง ผ่านสื่อทั้งหมด 5 ช่องทาง คือ Facebook และ YouTube รวมถึง Twitch ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มแห่งคอมมูนิตี้ที่รวบรวมกลุ่มคนที่ชื่นชอบการเล่นเกมเข้าไว้ด้วยกัน โดยการสตรีมเกมทั้งหมดมียอดการรับชมกว่า 200,000 ครั้ง ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของมูลนิธิรามาธิบดีฯ ในการเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เดิมทีไม่ได้มีประสบการณ์เกี่ยวข้องโดยตรงกับโรงพยาบาลหรือด้านสาธารณสุขให้มีโอกาสรับรู้ถึงภารกิจของมูลนิธิรามาธิบดีฯ มากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการเปิด Platform TikTok เพื่อเป็นอีกช่องทางสำหรับสื่อสารไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ มูลนิธิรามาธิบดีฯ เชื่อว่า ความยั่งยืนขององค์กรนั้นจะเกิดขึ้นได้หากมีการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับคนเจนเนอร์เรชันใหม่ โดยเนื้อหาสำคัญที่มูลนิธิรามาธิบดีฯ ต้องการสื่อสารคือ “ความสุขจากการให้ไม่สิ้นสุด” ฉะนั้น TikTok ของมูลนิธิฯ จึงใช้ชื่อว่า “Rama is happy” เพราะ “การให้” สร้างความสุข และ “การให้” มีหลากหลายรูปแบบ มูลนิธิรามาธิบดีฯ ได้ทำงานร่วมกับกลุ่ม Micro Influencer เพิ่มมากขึ้น ทั้งการจัดแคมเปญใหม่อย่างสร้างสรรค์ การสื่อสารผ่านช่องทางใหม่ รวมถึงการสื่อสารผ่านกลุ่มผู้นำความคิด (Micro Influencer) ล้วนขับเคลื่อนให้กลุ่มเป้าหมายเกิดการมีส่วนร่วม (Engagement) บนช่องทางโซเชียลมีเดียของมูลนิธิฯ รวมไปถึงการสร้างให้เกิดผู้บริจาครายใหม่
ในปี พ.ศ. 2567 นี้มูลนิธิรามาธิบดีฯ มีการวางแผนกลยุทธ์การสื่อสาร เพื่อครองใจกลุ่มผู้บริจาครุ่นใหม่มากขึ้น โดยใช้สิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญขององค์กรมาเป็นแกนหลักในการสร้างสรรค์แคมเปญระดมทุนต่างๆ ซึ่งก็สอดคล้องกับเทรนด์ที่สังคมกำลังพูดถึงในปัจจุบันคือ แนวคิด Soft Power โดยการนำสิ่งที่ผู้คนยอมรับและรู้จักมูลนิธิฯ เป็นอย่างดี เช่น “หัวใจอินฟินิตี้” “การให้” “ความสุข” มาสร้างสรรค์เป็นแคมเปญที่เข้ากับยุคสมัย และไลฟ์สไตล์ของผู้คนในแต่ละช่วงวัยผ่านแคมเปญต่าง ๆ โดยในเดือนมีนาคมที่กำลังจะถึงนี้จะมีการเปิดตัวชาเลนจ์ที่สร้างขึ้นจากข้อมูลจำนวนตัวเลขผู้ใช้บริการในโรงพยาบาลมาให้ทุกคนได้เล่นกัน นอกจากนี้ยังมีแคมเปญที่ทุกคนสามารถเป็นร่วมเป็นส่วนหนึ่งได้ง่ายๆ เพียงแค่แชร์หรือบอกต่อ
มูลนิธิรามาธิบดีฯ มีแผนความร่วมมือกับทั้งศิลปินและหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อร่วมขับเคลื่อนการระดมทุนให้แก่โครงการหลัก ไม่ว่าจะเป็น การร่วมมือกับทีมงานละครและคอนเสิร์ตเปิดขายบัตรการกุศล เช่น ละครเวทีฟ้าจรดทราย คอนเสิร์ตอัสนีวสันต์ คอนเสิร์ตสาวสาวสาว ความร่วมมือกับศิลปิน และแบรนด์คาแรคเตอร์ต่างประเทศ เพื่อจัดทำของที่ระลึกการกุศล ที่มูลนิธิฯ ตั้งใจให้เป็นสื่อกลางแห่งความสุขที่ส่งต่อให้กันได้ มีความหลากหลาย เพื่อตอบโจทย์การใช้งานได้จริง มีคุณค่าทางจิตใจ และทันสมัย โดยของที่ระลึกการกุศลของมูลนิธิรามาธิบดีฯ ตั้งใจจัดทำเพื่อให้ประชาชนได้ร่วมทำบุญและเป็นเจ้าของ หรือนำไปมอบเป็นของขวัญแก่บุคคลที่รักในโอกาสต่าง ๆ โดยรายได้ทั้งหมดนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ และจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ ที่ผ่านมาผู้บริจาครุ่นใหม่ให้ความสนใจและให้การสนับสนุนอย่างมาก