xs
xsm
sm
md
lg

เดินหน้าองค์กรมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ย้อนไปเมื่อปลายปี 2021 บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT ได้บูรณาการโครงสร้างองค์กรและจัดตั้งคณะทำงาน 3Rs ขึ้นมาขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม 

ซึ่งผลงานปรากฏเป็นที่ประจักษ์มากมาย ทั้งได้รับใบประกาศรับรอง ISO14001 ประกาศรับรองการแสดงคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon Footprint of Organization) ผ่านการประเมินสำนักงานสีเขียว (Green Office) ระดับ “ดีเยี่ยม” และได้รับการประเมิน “หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings” ระดับ “A” ซึ่งรางวัลเหล่านี้เป็นการการันตีได้ว่า หมุดหมายสำคัญลำดับต่อไปขององค์กร เช่น ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอีกร้อยละ 30 ภายในปี 2024 และเป้าหมายองค์กรที่เป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 คงทำได้ไม่ยาก


ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ หัวเรือใหญ่ขององค์กรเล่าว่า กว่า 35 ปีที่ DMT อยู่คู่กับคนไทย เราให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจบนความยั่งยืน ซึ่งเราได้ผสานแนวคิดเรื่ององค์กร ชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อมต้องมี คุณภาพชีวิตที่ดีและอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน ไว้ในทุกกระบวนการทำงาน จนกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กร และการส่งมอบคุณค่าให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม ไม่ได้จำกัดหน้าที่เฉพาะฝ่ายที่ดูแลกิจกรรมเพื่อสังคัม (CSR) เท่านั้น เพราะเราบูรณาการคณะทำงานจากหลายๆ ฝ่ายรวมเข้าด้วยกัน ทำให้กิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ วัดผลได้ทั้งทางหลักวิทยาศาสตร์ (Science-based Targets : SBT) และเศรษฐศาสตร์ (Economic Outcome)”

นางอโนมา อุฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานปฏิบัติการ กล่าวเพิ่มเติม ถึงแผนงานลดก๊าซเรือนกระจกในสายงานปฏิบัติการว่า แผนงานติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป (Solar Rooftop) ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ บนหลังคาอาคารด่านเก็บค่าผ่านทางทั้ง 9 ด่าน จะแล้วเสร็จช่วงพฤษภาคม 2024 ซึ่งเราประมาณการว่าเมื่อติดตั้งครบทั้งระบบจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าเฉลี่ยร้อยละ 30 เทียบเท่าลดก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 348 ตันคาร์บอนไดออกไซต์ (TonCO2e) ต่อปีและอีกโครงการที่ DMT ริเริ่มตั้งแต่ปีที่แล้วด้านนวัตกรรมพลังงานสะอาดคือนำแผงโซลาเซลล์และแบตเตอรี่สำรองไฟติดตั้งไว้กับรถปฏิบัติการงานซ่อมบำรุง สำหรับทำงานกลางคืนโดยไม่ต้องติดเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ชัดเจน ลดการสูญเสียน้ำมันเชื้อเพลิงได้ 450 ลิตรต่อปี เทียบเท่าลดก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 1.2 ตันคาร์บอนไดออกไซต์ (TonCO2e) ต่อปี

ด้าน นายนพพล โพธิ์ขี ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืน เล่าเสริมว่า วิธีที่เราจะสามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้โดยตรง คือ นโยบายการเปลี่ยนยานพาหนะเป็นพลังงานไฟฟ้า 100% ได้รับการสนับสนุนรถพลังงานไฟฟ้าและข้อมูลด้านเทคนิคจาก บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) ทั้งรถบัสพลังงานไฟฟ้าและรถกระบะพลังงานไฟฟ้า เพื่อใช้ในงานกิจกรรมและการปฏิบัติงานขององค์กร ซึ่งเมื่อรวมกับรถยนต์ผู้บริหารที่เริ่มทยอยเปลี่ยนจากรถยนต์สันดาปเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ให้ทุกคันเป็น EV100% ก็จะช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้อีกทาง นอกจากนี้บริษัทยังให้การบริการและดูแลรถของผู้ใช้ทาง โดยก่อสร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบ Quick Charge ที่อาคารสำนักงานใหญ่ สำหรับช่วยเหลือฉุกเฉินกรณีรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่หมดบนสายทางอุตราภิมุข และภายในไตรมาสแรกของปีหน้า บริษัทจะเปิดสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบ Quick Charge อีกแห่งที่ด่านเก็บค่าผ่านทางดินแดง เพื่อให้บริการผู้ใช้ทางได้ชาร์จก่อนขึ้นบนสายทาง

"DMT เป็นองค์กรสำคัญในระบบเศรษฐกิจ ตระหนักดีว่าทุกแผนงานของบริษัท เดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิผล ล้วนเกิดจากความร่วมมืออย่างตั้งใจจริง เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นที่จะสร้างสรรค์สังคม ของคณะผู้บริหารและพนักงานทุกคนของ DMT และเราพร้อมจะเดินหน้าต่อ ให้เกิดการบูรณาการการพัฒนาให้เกื้อหนุนกันอย่างรอบด้าน ควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในที่สุด" ดร.ศักดิ์ดา กล่าวทิ้งท้าย



Solar Cell DMT ติดตั้งแผงโซลาร์ บนอาคารสำนักงานใหญ่

Solar Cell DMT ติดตั้งแผงบนด่านเก็บค่าผ่านทาง

Solar Cell DMT รถปฎิบัติการซ่อมบำรุงติดSOLAR

พนักงานกู้ภัยกับรถทดสอบปฎิบัติการไฟฟ้า

DMT ร่วมมือกับสถาบันพลาสติกในการวิจัย


กำลังโหลดความคิดเห็น