กทม.สนับสนุนการจัดงานกาชาด 2566 แบบสีเขียว มาเที่ยวอย่างปลอดภัยและรักษ์โลก โชว์มาตรการเข้มด้านความปลอดภัย ย้ำการทิ้งขยะ “ไม่เทรวม” อุดหนุนของดี 50 เขต และเสื้อผ้ามือสอง “สายแฟ แคร์โลก”
วานนี้ (6 ธ.ค.2566) รศ.ทวิดา กมลเวชช และนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย พญ.วันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร รักษาราชการแทนปลัดกรุงเทพมหานคร และคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักการโยธา สำนักการจราจรและขนส่ง สำนักพัฒนาสังคม สำนักเทศกิจ และสำนักงานเขตปทุมวัน เข้าไปตรวจความพร้อมในการจัดงานกาชาดประจำปี 2566 (จัดงานวันที่ 8-18 ธันวาคม ณ สวนลุมพินี เขตปทุมวัน)
รศ.ทวิดา กมลเวชช เผยว่าในปีนี้ กทม. เข้มงวดด้านความปลอดภัยและเน้นย้ำผู้จัดงานรักษาสิ่งแวดล้อม โดยในส่วนของความปลอดภัยมีการตั้งกองอำนวยการร่วมฯ เพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยของการจัดงานกาชาดบริเวณด้านหลังลุมพินีสถาน พร้อมเข้มงวดการตรวจอาวุธก่อนเข้างาน และมีการจัดตั้งห้อง War Room บริเวณห้องประชุมชั้น 2 ศูนย์นันทนาการลุมพินี ซึ่งมีการรวบรวมประมวลผลภาพจากกล้อง CCTV จำนวน 138 ตัว ภายในบริเวณจัดงานกาชาด และ CCTV จำนวน 145 ตัว บริเวณโดยรอบสวนลุมพินี ซึ่งสามารถเก็บบันทึกไฟล์ภาพไว้ตรวจสอบย้อนหลังได้ถึง 1 เดือน
นอกจากนี้ สำนักสิ่งแวดล้อม กทม.ได้ประสานเจ้าหน้าที่กาชาด เจ้าหน้าที่เทศกิจ เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยพร้อมรถบอลลูนไลท์และถังดับเพลิงในพื้นที่ ร่วมดูแลรักษาความปลอดภัย อำนวยความสะดวกการจราจรในพื้นที่ และเพิ่มที่จอดรถจักรยานยนต์และรถจักรยานบริเวณใต้สะพานไทย-เบลเยี่ยมอีกด้วย
ในส่วนของสำนักการจราจรและขนส่ง ได้จัดรถ BMA Feeder ให้บริการรับ-ส่งผู้เข้าร่วมงาน โดยรถที่นำมาให้บริการเป็นรถพลังงานไฟฟ้า จำนวน 20 ที่นั่ง รองรับผู้พิการ 2 ที่ จำนวน 3 คัน ซึ่งจะออกจากจุดจอดบริเวณสนามกีฬาแห่งชาติ ทุก ๆ 30 นาที ให้บริการตั้งแต่เวลา 11.00 - 22.00 น. ทั้งนี้ ในช่วงเวลาที่คาดว่าจะมีประชาชนร่วมงานจำนวนมากอาจพิจารณาเพิ่มจำนวนรถในการให้บริการ
ด้านความสะอาดและการจัดเก็บขยะภายในงาน สำนักสิ่งแวดล้อม โดยสำนักงานจัดการมูลฝอย และสำนักงานเขตต่าง ๆ ร่วมดูแลความสะอาด โดยสำนักงานจัดการมูลฝอยจัดเตรียมความพร้อมเรื่องการคัดแยกขยะตามแนวทาง “ไม่เทรวม” และ “กรีนอีเวนท์” โดยได้เพิ่มจุดคัดแยกขยะเป็น 44 จุด (จากเดิม 40 จุด) ซึ่งแบ่งประเภทขยะออกเป็น ขยะรีไซเคิล ขยะทั่วไป ขยะเศษอาหาร พร้อมสนับสนุนอุปกรณ์ และจัดจุดพักขยะ 6 จุด โดยมีสำนักงานเขตกลุ่มกรุงเทพใต้และกลุ่มกรุงเทพกลางสนับสนุนเจ้าหน้าที่และรถเก็บขนมูลฝอย ทั้งยังสนับสนุนแท็งก์น้ำดื่มขนาด 1,600 ลิตร รวม 18 ใบ รวมถึงให้บริการรถสุขาเคลื่อนที่ตลอดระยะเวลาการจัดงานรวม 15 คัน ให้การสนับสนุนจัดตกแต่งไม้ดอกไม้ประดับร้าน “กรุงเทพมหานคร” ของดี 50 เขต พร้อมดูแลให้สวยงาม ตลอดจนสนับสนุนรถบรรทุกและเจ้าหน้าที่ขนย้ายสิ่งของสำหรับการออกร้านฯ อีกด้วย
ชวนชอปและบริจาคเสื้อผ้ามือสองสภาพดีที่ร้าน “สายแฟ แคร์โลก”
รองผู้ว่า กทม. กล่าวอีกว่าการจัด "ร้านของดีกรุงเทพมหานคร 50 เขต" ซึ่งปีที่ผ่านมาได้รับความนิยมจากพี่น้องประชาชนอย่างมาก ในปีนี้มีร้านค้ามากถึง 58 ร้านค้า รวมถึงมีการเพิ่มเติมและขยายพื้นที่นั่งพักรับประทานให้มากขึ้น กว้างขึ้น สะดวกและเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในงานกาชาด นอกจากนี้ สำนักพัฒนาสังคมยังได้จัดจุดบริการนวดผ่อนคลายในบริเวณร้าน “กรุงเทพมหานคร” อีกด้วย
อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญสำหรับคนรักษ์โลกที่อยากช่วยลดพลังงาน ลดการปล่อยคาร์บอน และลดปริมาณน้ำเน่าเสียจากกระบวนการผลิตเสื้อผ้าใหม่ ในปีนี้ สำนักสิ่งแวดล้อมได้จัดร้าน “สายแฟ แคร์โลก” นำสินค้าและเสื้อผ้ามือสองที่ยังสภาพดีจากการรับบริจาคของ กทม. น้ำหนักกว่า 1.6 ตัน มาจำหน่ายภายในงาน พร้อมเปิดรับบริจาคสินค้ามือสองที่ยังอยู่ในสภาพดีเพื่อจำหน่ายให้ผู้ที่มีความประสงค์ที่จะใช้สิ่งของให้คุ้มค่าและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ณ บริเวณด้านข้างร้าน “กรุงเทพมหานคร” โดยรายได้ทั้งหมดจะนำเข้าสภากาชาดไทย
“กรุงเทพมหานครจึงขอเชิญชวนผู้ร่วมงานกาชาดสายรักษ์สิ่งแวดล้อมนำสินค้าหรือเสื้อผ้ามือสองที่ยังอยู่ในสภาพดีติดมือมาร่วมงานกาชาดประจำปี 2566”
งานกาชาด 2566 จะเริ่มจัดวันแรกในวันพรุ่งนี้ (8
ธ.ค.2566) มาพร้อมกับแนวความคิด
“รื่นรมย์สุขฤดี ณ ที่แห่งการให้”
เชิญชวนร่วมย้อนวันวานไปกับมหรสพรื่นเริงการกุศลคู่คนไทยที่กำลังหวนกลับมาอีกครั้งให้หายคิดถึง...ที่ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานรื่นรมย์และความสุขจากการได้มาเที่ยวงานกาชาด
ขณะเดียวกันเชิญชวนให้ทุกคนที่มาร่วมงานนุ่งโจง ห่มสไบ
หรือแต่งกายชุดไทยเข้าเที่ยวงานตามอัธยาศัย
เพื่อสร้างธีมบรรยากาศให้ครึกครื้นมากยิ่งขึ้น
