"วัน แบงค็อก" โครงการอสังหาริมทรัพย์ต้นแบบกรีนสมาร์ทซิตี้ใจกลางกรุงเทพฯ พัฒนาโดย "เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้" พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน เปิดวิสัยทัศน์แห่งความยั่งยืนในทุกมิติ ในงาน Sustainability Expo 2023 (SX 2023) มหกรรมด้านความยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยการรังสรรค์ One Bangkok Immersive Pavilion นำเสนอทุกรายละเอียดของโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนครอบคลุมในทุกมิติ ภายใต้แนวคิด The Heart of Bangkok เมืองที่ยึดเอา “หัวใจ” ของผู้คนเป็นศูนย์กลาง พร้อมจัดเสวนาพิเศษในหัวข้อ“The Future of Sustainability and Smart City Living for Better Community” และ “Masterplan Design for Smart Sustainable Cities”
ปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด กล่าวว่า“เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมสนับสนุนงาน Sustainability Expo 2023 มาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เนื่องจากเล็งเห็นถึงความสำคัญของการรวมพลังเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตจากองค์กรทั่วโลก โดยเรามุ่งมั่นที่จะเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ด้วยการกำหนดเป้าหมายโดยอิงหลักวิทยาศาสตร์ (Science Based Targets initiative: SBTi) ทั้งระยะสั้น และระยะยาว"
"ปัจจุบัน เรากำลังพัฒนาโครงการที่ถือเป็นต้นแบบกรีนสมาร์ท ซิตี้ ที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน นั่นก็คือโครงการ One Bangkok ซึ่งเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกในประเทศไทยที่ให้ความสำคัญกับด้านความยั่งยืนครอบคลุมในทุกมิติ ประสานแนวคิดของ Smart City และ Smart Living เข้าด้วยกัน และมุ่งสู่การเป็นโครงการที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED for Neighborhood Development ระดับ Platinum แห่งแรกในประเทศไทย และมาตรฐานรับรองอาคาร WELL เพื่อสุขอนามัยและความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ Inspiring experience. Creating places for good ของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งมั่นต่อการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างผลลัพธ์เชิงบวกที่มีความหมายต่อผู้คน การพัฒนาเมืองและสังคม ควบคู่ไปกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแรงให้กับการก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน”
One Bangkok Immersive Pavilion นำเสนอรายละเอียดของโครงการผ่านนิทรรศการในรูปแบบ Immersive Experienceเพื่อให้ผู้ชมงานได้เห็นภาพจำลองขององค์ประกอบและพื้นที่ต่างๆ ในโครงการได้อย่างชัดเจนสมจริง ตลอดจนนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนอันล้ำสมัยที่นำมาใช้กับโครงการฯ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมใน 3 แง่มุม ประกอบด้วย
Smart Technologies – ตื่นตากับ Central Utility Plant (CUP) ศูนย์กลางของระบบอัจฉริยะที่เปรียบเสมือนหัวใจของ วัน แบงค็อก เป็นอาคารสาธารณูปโภคแบบรวมศูนย์ที่ล้ำสมัย รวบรวมการทำงานทุกระบบ ไว้ในที่เดียว เพื่อการบริหารและจัดการโครงการฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอด 24 ชั่วโมง โดยมี District Command Center หรือศูนย์บัญชาการกลางพร้อมเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบควบคุม บริหารจัดการ และทำงานร่วมกันกับแพลตฟอร์ม Smart Estate ควบคู่กับระบบ AI ขั้นสูงเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการจัดการระบบการใช้น้ำและพลังงานไฟฟ้าของโครงการ พร้อมติดตั้งระบบเซ็นเซอร์และจุดควบคุมอัจฉริยะมากกว่า 250,000 ตัว รวมถึงกล้องวงจรปิดกว่า 5,000 จุด ที่สามารถตรวจสอบและบันทึกข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อประสิทธิภาพของระบบรักษาความปลอดภัย และระบบ Traffic Control ตรวจสอบและรายงานสภาพการจราจรภายในโครงการ อีกทั้งยังมี Smart Pole ที่ให้แสงสว่างและกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในทั่วทุกพื้นที่ โดยวัน แบงค็อก เป็นโครงการฯที่มีความเป็นเลิศแห่งการเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ ครอบคลุมทุกพื้นที่เป็นโครงการแรกในประเทศไทยที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน WiredScore Platinum ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดจาก WiredScore ตอกย้ำความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้อาคารในการเชื่อมโยงดิจิทัล (Digital Connectivity) ทั้งเชิงกายภายภาพและทางไซเบอร์
Sustainable Development - วัน แบงค็อกถูกพัฒนาขึ้น ให้สอดคล้องกับ Sustainable Development Goals: SDGs เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อาทิ Electric Power Saver ระบบกักเก็บไฟฟ้าสำรองสำหรับการใช้งานตลอด 24 ชม. และบริหารจัดการการใช้ไฟฟ้าให้คุ้มค่าสูงสุด, District Cooling System ระบบปรับอากาศแบบรวมศูนย์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งพลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก, Smart Water Management ระบบบริหารจัดการน้ำแบบหมุนเวียน ที่สามารถตรวจสอบคุณภาพน้ำ และใช้เทคโนโลยีบำบัดน้ำเสียเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด, Construction Waste Management ตั้งเป้านำขยะจากการก่อสร้างมากกว่า 75% กลับมาใช้ใหม่ และรีไซเคิล อาทิ การนำเทคโนโลยีบดย่อยเศษขยะคอนกรีตจากหัวเสาเข็มเพื่อนำไปสร้างผนังอาคาร การนำเศษอิฐมวลเบาที่เหลือใช้จากการก่อสร้างมาผลิตเป็นแผ่นผนังกันเสียงในอุโมงค์ทางลอดเข้าโครงการฯ เป็นต้น, Food Waste Management เทคโนโลยีการจัดการเปลี่ยนขยะเศษอาหารให้กลายเป็นปุ๋ย ผ่านเครื่อง Food Waste Composter, และการใช้เครื่องบดอัดขยะ (Smart Compactor) ที่ช่วยลดพื้นที่และเพิ่มสุขอนามัยในการจัดเก็บขยะ
Unparalleled Experiences in One Bangkok - มอบคุณภาพชีวิตที่ดีและประสบการณ์ที่แตกต่างด้วยพื้นที่เปิดโล่งและพื้นที่สีเขียวมากกว่า 50 ไร่ คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของพื้นที่ทั้งหมดของโครงการ เป็นจุดพักผ่อนใจกลางเมือง และเป็นพื้นที่สันทนาการ รวมทั้งมีสวนสาธารณะแนวยาว (Linear Park) ขนาดกว้างจากทางเท้าถึงหน้าโครงการถึง 35 – 45 เมตร อยู่ระหว่างสวนลุมพินีและสวนเบญจกิติ นอกจากนี้ยังมีทางเท้าที่สะดวกและกว้างขวาง สามารถเดินเข้าถึงทุกพื้นที่ในโครงการได้เพียง 15 นาที สอดคล้องกับแนวคิด 15-Minute Walking City เทรนด์ใหม่ของการพัฒนาเมืองที่ใส่ใจคุณภาพชีวิตของผู้คน นอกจากนี้ยังมี Art Loop โดยรอบโครงการกว่า 2 กิโลเมตร เชื่อมโยงผลงานศิลปะสาธารณะ เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์สำหรับทุกคน
สำหรับการเสวนาพิเศษใน 2 หัวข้อ ประกอบด้วย
“The Future of Sustainability and Smart City Living for Better Community” ความยั่งยืนและการใช้ชีวิตในสมาร์ทซิตี้ เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของชุมชน โดยผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, ปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด, เรอโน เมเเยร์ ผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย (UNDP Thailand) และเชอร์รี่-เข็มอัปสร สิริสุขะ นักสิ่งแวดล้อมและธุรกิจเพื่อสังคม
“Masterplan Design for Smart Sustainable Cities” การออกแบบผังเมืองของโครงการอสังหาฯ ระดับโลก เพื่อนำไปสู่การสร้างสรรค์เมืองที่ยั่งยืน โดยผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย วรวรรต ศรีสอ้าน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โครงการ วัน แบงค็อก, นิธิ ภัทรโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี, วรรณพร พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี แลนด์สเคป จำกัด และ นิธิศ สถาปิตานนท์ กรรมการบริหาร บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด