พายุโซนร้อนอิดาเลีย ใกล้กลายร่างเป็นเฮอริเคนเข้าถล่มฟลอริดา นักวิทย์ชี้เหตุอุณหภูมิโลกยิ่งร้อนยิ่งรุนแรง

Clip Cr. 10 Tampa Bay

ปีที่แล้ว ช่วงปลายเดือนกันยายน 2022 พายุเฮอริเคนเอียน (Ian) เข้าถล่มฟลอริดาอย่างรุนแรง มาปีนี้ ขณะนี้ยังเป็นพายุโซนร้อนอิดาเลีย (Idalia) แต่คาดว่าในอีกไม่ช้าจะกลายร่าง เพิ่มขนาดความรุนแรงเป็น "เฮอริเคนใหญ่" เมื่อถึงฟลอริดาช่วงดึกของวันอังคารนี้ ตามเวลาท้องถิ่น (29 ส.ค.2023)

นักพยากรณ์เตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมสำหรับสภาพอากาศที่เลวร้าย รวมถึงความรุนแรงของคลื่นพายุที่ทำลายชีวิตและทรัพย์สิน ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติระบุว่า ระบบพายุโซนร้อนที่กำลังปั่นป่วนอยู่ในน่านน้ำนอกปลายด้านตะวันตกของคิวบา คาดว่าจะพัดถล่มพื้นที่บางส่วนของประเทศดังกล่าวในช่วงดึกของวันจันทร์และเช้ามืดวันอังคารนี้

จากนั้นอิดาเลียจะเคลื่อนตัวขึ้นเหนือผ่านอ่าวเม็กซิโก ซึ่งจะเสริมกำลังเป็นพายุเฮอริเคนที่มีกำลังแรง ก่อนที่จะขึ้นฝั่งในฟลอริดากลางสัปดาห์

“ความเสี่ยงยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสำหรับคลื่นพายุที่คุกคามถึงชีวิตและลมพายุเฮอริเคนที่เป็นอันตรายตามแนวชายฝั่งตะวันตกของฟลอริดาและฟลอริดาแพนแฮนเดิลที่เริ่มตั้งแต่ช่วงดึกของวันอังคาร” กรมอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ ระบุในทวีต

สิ่งที่น่ากังวลหลักสำหรับอิดาเลียคือคลื่นพายุ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อลมพายุพัดน้ำทะเลขึ้นเหนือระดับปกติและเข้าสู่พื้นที่ชายฝั่ง นักพยากรณ์ระบุว่าบริเวณแทมปาเบย์สามารถมองเห็นคลื่นพายุได้สูง 4 ถึง 7 ฟุตจากอิดาเลีย

ด้วยความเร็วลมสูงสุดใกล้ 70 ไมล์ต่อชั่วโมง อิดาเลียยังคงเป็นพายุโซนร้อนเมื่อเย็นวันจันทร์ แต่คาดว่าจะกลายเป็นพายุเฮอริเคนเมื่อใดก็ได้

เมื่อถึงชายฝั่งฟลอริดา คาดการณ์ว่าอิดาเลียจะเป็นเฮอริเคน "ลูกใหญ่" ซึ่งหมายความว่าจะเป็นเฮอริเคนระดับ 3 หรือสูงกว่านั้น

ฟลอริดาเตรียมรับมือกับพายุเฮอริเคนลูกแรกของฤดูกาลอย่างไร

คำเตือนพายุเฮอริเคนและคลื่นพายุมีผลบังคับใช้ในพื้นที่บางส่วนของฟลอริดาเมื่อวันจันทร์

ผู้ว่าการรอน เดอซานติส (DeSantis)ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใน 46 เทศมณฑล และประกาศมาตรการเตรียมพร้อมรับมือกับพายุอื่นๆ มากมาย รวมถึงการระดมกำลังเจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์ชาติฟลอริดา 1,100 นาย

“นี่จะเป็นเฮอริเคนลูกใหญ่ นี่จะเป็นเฮอริเคนที่มีกำลังแรง และจะส่งผลกระทบอย่างแน่นอนต่อรัฐฟลอริดาในหลายๆ ด้าน” เดอแซนติสกล่าวระหว่างแถลงข่าวช่วงเช้าวันจันทร์

ที่ทำเนียบขาว ประธานาธิบดีไบเดนและเดซานติสพูดเมื่อวันจันทร์เกี่ยวกับการเตรียมการรับมืออิดาเลีย ไบเดนกล่าวว่าเขาอนุมัติการประกาศภาวะฉุกเฉินสำหรับฟลอริดา และเสริมว่าหน่วยงานจัดการเหตุฉุกเฉินกลางได้ส่งกำลังพลและเสบียงไปยังภูมิภาคก่อนเกิดพายุ

ในระหว่างการแถลงข่าว เดซานติส เตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมสำหรับเหตุไฟฟ้าดับ และกล่าวว่ามีแนวโน้มว่าจะมีคำสั่งอพยพในเทศมณฑลต่างๆ ตามแนวชายฝั่ง “เกาะสันดอนทั้งหมด สถานที่ที่อยู่ต่ำตามแนวชายฝั่ง คุณจะได้รับคำสั่งให้อพยพ” เดอซานติสกล่าว พร้อมเสริมว่านั่นอาจหมายถึงการย้ายที่อยู่ภายในแผ่นดินเป็นระยะทางไม่กี่สิบไมล์

เมื่อถึงช่วงบ่าย บางส่วนของเทศมณฑลเฮอร์นันโด ปาสโก และซิตรัส อยู่ภายใต้คำสั่งอพยพแล้ว สถานีสมาชิก WUSF รายงาน

“เราไม่สามารถเน้นย้ำได้มากพอว่าคุณต้องจัดการกับพายุลูกนี้อย่างจริงจัง” เดวิด เดคาร์โล ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการเหตุฉุกเฉินเทศมณฑลเฮอร์นันโด กล่าวตามสถานี

สนามบินนานาชาติแทมปาประกาศว่าจะหยุดดำเนินการเชิงพาณิชย์เริ่มตั้งแต่เวลา 00.01 น. ET ในวันอังคาร และคาดว่าจะเปิดอีกครั้งในเช้าวันพฤหัสบดีหลังจากพายุผ่านไป

“ปฏิบัติการบรรทุกสินค้าและเครื่องบินส่วนตัวบางส่วนอาจดำเนินต่อไปข้ามคืนได้ แต่การจราจรทางอากาศทั้งหมดจะหยุดภายในเวลา 7.00 น. เช้าวันอังคาร” โพสต์บนเว็บไซต์ระบุ “สนามบิน รวมถึงอาคารผู้โดยสารหลักและเขตการบิน จะปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวทุกคน และไม่มีความพร้อมเพื่อใช้เป็นที่พักพิง”

เขตการศึกษาฟลอริดาหลายแห่งได้ประกาศปิดแล้วเมื่อวันอังคาร และกระทรวงสาธารณสุขของรัฐกำลังทำงานเพื่อให้แน่ใจว่าผู้อยู่อาศัยสามารถกรอกใบสั่งยาได้เร็ว

จากข้อมูลของ WUSF เมืองต่างๆ หลายแห่ง รวมถึงเมืองแทมปา กำลังแจกกระสอบทรายฟรีแก่ผู้อยู่อาศัย เพื่อเตรียมพร้อมรับมือพายุที่กำลังเข้ามา

อิดาเลียคาดว่าจะกลายเป็นเฮอริเคนเมื่อเคลื่อนผ่านใกล้หรือเหนือคิวบา

ก่อนที่อิดาเลียจะถึงฟลอริดา พายุจะเคลื่อนผ่านหรือใกล้คิวบาทางตะวันตก ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติกล่าวว่าคาดว่าอิดาเลียจะข้ามประเทศเกาะนี้ในปลายวันจันทร์ จังหวัดปินาร์ เดล ริโอ ของคิวบาอยู่ภายใต้คำเตือนพายุเฮอริเคน และอิสลา เด ลา ยูเวนตุด อยู่ภายใต้คำเตือนพายุโซนร้อน

นักพยากรณ์กล่าวว่า บางส่วนของคิวบาสามารถมองเห็นคลื่นพายุได้สูงถึง 4 ถึง 6 ฟุต และปริมาณน้ำฝนระหว่าง 4 ถึง 10 นิ้ว ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม

อ้างอิง https://www.npr.org/2023/08/28/1196320408/hurricane-florida-idalia-tropical-storm

เฮอริเคนมาทุกปี คือคำเตือนจากอนาคต

พายุโซนร้อนมีแนวโน้มที่จะโจมตีสหรัฐอเมริกามากขึ้นในขณะที่มหาสมุทรอุ่นขึ้น จะยังคงสร้างความหายนะต่อไปตราบใดที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังไม่ได้รับการแก้ไข

“มีหลายสิ่งที่เชื่อมโยงกัน และเรากำลังพยายามใช้แบบจำลองเพื่อจัดเรียงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนเหล่านี้” โทมัส นัตสัน นักวิทยาศาสตร์อาวุโสจาก National Oceanic and Atmospheric Administration ในสหรัฐอเมริกากล่าว เขาและเพื่อนร่วมงานกำลังร่วมจุดต่างๆ เพื่อทำนายว่าพายุเฮอริเคนจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรเมื่อโลกร้อนขึ้น

เฮอริเคนหรือพายุหมุนเขตร้อนมีความเสี่ยงต่ออุณหภูมิที่สูงขึ้น โดยเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศที่อบอุ่น ในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือ พวกมันเริ่มวงจรชีวิตใกล้กับเส้นศูนย์สูตร ในภูมิภาคที่ล้อมรอบโลกเรียกว่าโซนเขตร้อนบรรจบกัน ซึ่งมีพื้นที่ที่มีความกดอากาศต่ำอย่างถาวร ที่นี่ พายุฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นทุกวัน และหากก่อตัวเพียงพอในพื้นที่เล็กๆ พายุฝนฟ้าคะนองก็สามารถเริ่มตกลงเข้าหากันและหมุนรอบตัวได้ เนื่องจากพวกมันทำให้เกิดกระแสน้ำที่สม่ำเสมอลอยขึ้นมาผ่านอากาศอุ่น พวกมันจึงลดความกดดันบนพื้นผิวทะเลลงอย่างมาก ซึ่งหมายความว่าพวกมันสามารถดึงน้ำขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วเพื่อเติบโตเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในโลก เมื่อกระบวนการนี้เริ่มต้นขึ้น ต้องใช้แรงภายนอกที่รุนแรง เช่น ลมแรง หรือกระแสลมเย็นหรือน้ำเย็นที่ไหลเข้ามาอย่างกะทันหัน เพื่อหยุดไม่ให้สิ่งต่างๆ รุนแรงขึ้น

และเนื่องจากน้ำทะเลอุ่นขึ้นในขณะนี้ขยายออกไปทางขั้วโลกเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พายุเฮอริเคนจึงมีศักยภาพที่จะก่อตัวใกล้กับแนวชายฝั่งอเมริกาเหนือมากขึ้น คนัตสันและทีมงานของเขาเพิ่งตีพิมพ์บทความที่พบว่า เนื่องจากมีการแพร่กระจายของน้ำอุ่น พายุเฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติกจำนวนมากจึงอาจพัดขึ้นฝั่งในสหรัฐอเมริกาในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า

“เราจำลองพายุน้อยลงในระดับฐาน แต่มีสัดส่วนที่มากกว่าถึงระดับ 4 และ 5 และทำให้เกิดแผ่นดินถล่มในสหรัฐฯ สิ่งที่เราเห็นตอนนี้คือตัวอย่างหนึ่งของสิ่งนั้น” Knutson กล่าว ซึ่งหมายความว่าภูมิภาคที่เสี่ยงต่อการเกิดพายุเฮอริเคนในสหรัฐอเมริกาอาจพบเห็นพายุที่มีความเร็วลมเกิน 130 ไมล์ต่อชั่วโมงมากขึ้น ซึ่งมีพลังมากพอที่จะฉีกหลังคาอาคาร ถอนต้นไม้ และตัดไฟฟ้า

เมื่ออุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกสูงขึ้น บรรยากาศก็จะกักเก็บความชื้นไว้ในปริมาณที่มากขึ้น ซึ่งหมายความว่าพายุเฮอริเคนอาจทำให้เกิดฝนตกหนักมากขึ้นได้ มากถึง 14 เปอร์เซ็นต์เมื่ออากาศอุ่นขึ้น 2 องศาเซลเซียส ตามข้อมูลของ Knutson นอกจากนี้ คาดว่าระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดคลื่นพายุที่รุนแรงขึ้นและมีผลกระทบร้ายแรงต่อพื้นที่ชายฝั่ง “เรามีความมั่นใจสูงมากว่าระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นจะดำเนินต่อไป และนั่นจะทำให้สถานการณ์ใดๆ ก็ตามเหมือนกับที่เราเห็นในฟลอริดารุนแรงขึ้น” คนัตสันกล่าว

นักอุตุนิยมวิทยาส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่าความรุนแรงของพายุเฮอริเคนและพายุหมุนเขตร้อนจะเพิ่มขึ้นเมื่ออุณหภูมิโลกสูงขึ้น และมีแนวโน้มสูงที่พวกเขาจะเริ่มทำเช่นนั้นแล้ว ตั้งแต่ปี 1980 เปอร์เซ็นต์ของพายุเฮอริเคนที่มีความรุนแรงถึงระดับ 3 ขึ้นไปได้เพิ่มขึ้น และพายุก็เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างรวดเร็ว

อ้างอิง https://www.wired.com/story/hurricane-ian/