xs
xsm
sm
md
lg

เอพี ไทยแลนด์ เปิดโลกการเรียนรู้ ดันเด็กไทยลงมือทำจริง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอพี ไทยแลนด์ ภายใต้คำมั่นสัญญา “ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้” เปิดโลกการเรียนรู้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “More Than A Theory ชีวิตจริงยิ่งกว่าทฤษฎี”ต้อนรับ 40 นิสิตนักศึกษาในโปรแกรม AP OPEN HOUSE 2023 เจาะลึกทุกกระบวนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่งานฐานราก จนถึงการส่งมอบบ้านที่เสร็จสมบูรณ์ให้กับลูกค้า
ส่องเทรนด์การออกแบบยุคใหม่กับแนวคิด Inclusive Living การออกแบบเพื่อให้ทุกพื้นที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของทุกคน เพื่อชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้


นางศุภนิดา จันทราภรณ์ ผู้อำนวยการโปรแกรม
AP OPEN HOUSE บมจ. เอพี ไทยแลนด์ กล่าวว่า "หนึ่งในตารางการเรียนรู้ที่เอพีเตรียมไว้ให้กับน้องๆ ทั้ง 40 คนคือ On-Site Experience การลงสนามเรียนรู้จริงนอกห้องเรียน ตามคอนเซ็ปต์ “ชีวิตจริงยิ่งกว่าทฤษฎี” เพื่อเปิดโอกาสให้น้องๆ ทุกคนได้เห็นกระบวนการก่อสร้างของจริงหลังจากที่เรียนภาคทฤษฎีใน
รั้วมหาวิทยาลัยมาแล้ว ซึ่งครั้งนี้ น้องๆ ทุกคนจะได้เห็นทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังการทำงานของทางเอพี
ทั้งงานด้านวิศวกรรม การตลาด การขาย และนวัตกรรมดีไซน์ต่างๆ"

“AP Open House เป็นโปรแกรมที่ผู้บริหารระดับสูงของเอพี คือ คุณอนุพงษ์ อัศวโภคิน และคุณพิเชษฐ
วิภวศุภกร ชวนตั้งคำถามว่า จะดีกว่าไหมถ้าเราเอาความรู้จากประสบการณ์จริงไปให้กับน้องๆ ที่จะโตขึ้นมาทำงานกับเราได้เรียนรู้ตั้งแต่ที่พวกเค้าอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย ให้น้องๆ ได้มีโอกาสมาเรียนรู้ชีวิตจริงๆ ที่จะต้องเจอก่อนจบการศึกษา ซึ่งจากวันนั้นจนถึงวันนี้ AP Open House เข้าสู่ปีที่ 8 ซึ่งเราทุกคนภูมิใจอย่างมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเมล็ดพันธุ์ให้กับอุตสาหกรรมนี้” นางศุภนิดา กล่าว


นอกจากการลงพื้นที่เรียนรู้จากประสบการณ์จริงแล้ว
ตลอดโปรแกรมฝึกงาน 2 เดือนน้องๆ จะได้ความรู้ที่หลากหลาย เพื่อให้สามารถนำไปต่อยอดการทำงานในอนาคตได้ เช่น ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยProject Life Cycle ของการพัฒนาอสังหาฯ ตั้งแต่ได้ที่ดินมาจนกระทั่งการส่งมอบบ้านให้ลูกค้าเรียนรู้กระบวนการคิด Design Thinking เพื่อหาความต้องการใหม่ๆ ของลูกค้า เทคโนโลยีการออกแบบก่อสร้างยุคใหม่อย่าง BIM
และที่สำคัญคือ เทรนด์การออกแบบที่อยู่อาศัยในโลกใหม่ กับแนวคิด Inclusive Living ที่เป็นการออกแบบบ้านเพื่อรองรับทุกคน

โดยหนึ่งในการค้นหาความต้องการแฝงของผู้อาศัยทุกคน คือการให้ความสำคัญกับการออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่อผู้พิการ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีความหลากหลาย

“น้องๆ ได้มีการแบ่งกลุ่มร่วมทำมินิโปรเจกต์การออกแบบที่อยู่อาศัยภายใต้แนวคิด Inclusive Living หรือการออกแบบพื้นที่อยู่อาศัยเพื่อทุกคน ไม่ว่าจะเป็น เด็ก วัยรุ่น คนทำงาน ผู้สูงอายุ รวมถึงผู้พิการ ซึ่งเรื่อง Inclusive Living เป็น Global Trend ที่ทั่วโลกให้ความสนใจมาก สิ่งที่ผู้บริโภคมองหานอกจากคุณภาพหรือนวัตกรรมใหม่ๆ ก็คือความพร้อมรองรับทุกความหลากหลาย ซึ่งเป็นโจทย์สำคัญของการดำเนินธุรกิจ เพื่อที่ทุกคนสามารถเลือกที่จะมีชีวิตดีๆ ที่ต้องการได้ด้วยตนเอง เป็นแนวทางที่เอพียึดถือมาตลอด” นางศุภนิดา กล่าว


ตัวแทนนักศึกษาจาก AP OPEN HOUSE นางสาวชนิภรณ์ กองเกตุใหญ่ เปิดเผยว่า “ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รับทราบเรื่องการฝึกงาน AP OPEN HOUSE จากรุ่นพี่ว่าเป็นการฝึกงานที่ดีมาก ไม่เหมือนกับที่อื่นๆ ได้เรียนรู้ on-the-job training ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ ได้รู้จักกับเพื่อนๆ จากหลากหลายคณะ เป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าและโชคดีมากที่ได้เป็น 1 ใน 40 คน”

นายภูริชญ์ รักแก้ว ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เล่าว่า “ได้รับประสบการณ์และความรู้ที่นอกเหนือจากตำราเรียน และไม่ใช่แค่ความรู้ด้าน
วิศวะอย่างเดียว สมกับคอนเซ็ปต์ที่ว่า “ชีวิตจริงยิ่งกว่าทฤษฎี” เป็นการสะท้อนภาพได้ชัดเจนมาก พี่ๆ ที่เอพีพาเราไปดูถึงไซต์งานจริง ผมมั่นใจมากว่าหาไม่ได้จากในห้องเรียนแน่นอน”


นายพันเพชร จิ่งตามน จากคณะบริหารธุรกิจ
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เล่าว่า “ตอนแรกกังวล
ว่าจะเรียนหรือตามทันเพื่อนคนอื่นที่เป็นสายตรงด้านอสังหาริมทรัพย์หรือไม่ ซึ่งพี่ๆ ที่เอพีก็ได้ให้กำลังใจ และคอยแนะนำตลอด ผมได้เรียนรู้การดีไซน์และนวัตกรรมที่เอพีพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะ รวมถึงการทำ
เวิร์กชอปเพื่อค้นหา Unmet Need ของพี่ๆ ผู้พิการ
โดยจะนำข้อมูลที่ได้นี้ไปทำไฟนอลโปรเจกต์เรื่องการออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่อทุกคน มีชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้ ต่อไป”

AP OPEN HOUSE เป็นโปรแกรมฝึกงานเข้มข้นของเอพีที่ได้รับความสนใจจากนิสิตนักศึกษา อย่างล้นหลาม และจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 เมื่อสิ้นสุดโปรแกรม AP OPEN HOUSE ประจำปี 2566 นิสิตนักศึกษาจะได้รับใบประกาศนียบัตรจาก เอพี อะคาเดมี่ และสำหรับนิสิตนักศึกษาจำนวน 44 คน ที่มีผลการฝึกงานที่โดดเด่นยังจะได้รับโอกาสไปศึกษาดูงานที่ประเทศญี่ปุ่นกับบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท เรสซิเดนซ์ (บริษัทในเครือมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป) อีกด้วย