ผมมีโอกาสได้รู้จักกับผู้ว่าณรงค์ศักดิ์ตอนนั่งติดกันที่โต้ะเสวยซึ่งมีทูลกระหม่อมภาฯเป็นองค์ประธานในคราวเสด็จเสวยพระกระยาหารค่ำเป็นการส่วนพระองค์ที่บ้านของศาสตราจารย์ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทยที่จังหวัดเชียงราย
ในฐานะคนเกิดพศ.เดียวกันกับผู้ว่าหมูป่า คือ 2508
และภายหลังได้มีโอกาสร่วมในการปฏิบัติการกู้ภัยที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนเป็นลำดับมาด้วยกันเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตอนที่ผมยังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี
เมื่อผมนำทีมนักดำน้ำกู้ภัยในถ้ำเข้ามาถึงเชียงราย ก็ได้อาศัยให้ผู้ว่าณรงค์ศักดิ์นี่แหละ ที่ไปอธิบายสรุปสถานการณ์ล่าสุดที่สนามบินเชียงรายให้นักดำน้ำอังกฤษชุดแรกได้ฟัง เพราะท่านจะมีข้อมูลสนามที่ทันสมัยกว่าพวกเราที่กรุงเทพ ใช้ภาษาอังกฤษได้ มีความรู้ทางศัพท์ทางวิศวะและวิทยาศาสตร์ และเป็นหนึ่งในผู้บริหารที่ได้ลุยเข้าไปสำรวจถ้ำหลวงร่วมกับหน่วยซีลของราชนาวีไทยมาพอควรแล้ว
แถมท่านยังมีอำนาจอนุญาตให้นักดำน้ำทีมนี้ลงดำค้นหา13หมูป่าทันทีที่ไปถึงหน้าถ้ำ เพราะผมก็เพิ่งวางสายโทรศัพท์ทาบทามเชิญตัวนักดำน้ำกู้ภัยในถ้ำจากอังกฤษต่อหน้าท่านและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพลเอกอนุพงศ์ เผ่าจินดา ตามข้อเสนอแนะจาก คุณVern Unsworth เมื่อ 24ชั่วโมงที่แล้ว โดยพลเอกอนุพงศ์ เผ่าจินดา วานให้ผมเป็นผู้สื่อสารเชื้อเชิญในนามตัวแทนรัฐบาลไทย
ภายหลังเมื่อผมย้ายมาเป็นสมาชิกวุฒิสภาและกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผมก็ยังได้เดินทางตามไปร่วมประชุมกับผู้ว่าณรงค์ศักดิ์แทบทุกปี ในจังหวัดที่ท่านต้องย้ายไปรับราชการเป็นผู้ว่าฯ ทั้งที่พะเยา ลำปาง และล่าสุด ที่ปทุมธานี
ผมเก็บเกร็ดความน่าประทับใจของทักษะการทำงานของผู้ว่าณรงค์ศักดิ์มาเขียนเป็นบทความเผยแพร่ผ่านสื่อแทบทุกครั้ง
ด้วยว่าท่านเป็น ’’คนมีหลัก’’
หลักวิชาการ หลักวิชาการปกครอง หลักการบริหารคน หลักการครองตน หลักการวางตัว
ผมยังคงไลน์คุยสนทนากับท่านเป็นช่วงๆ
สังคมไทยประจักษ์ในความเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นรับผิดชอบและความชัดเจนในการบริหารระบบการสื่อสารและประสานงานที่หน้าถ้ำหลวงมามากเพียงพอ ถึงขนาดที่สังคมแสดงความเห็นกันอย่างเปิดเผยว่าอยากเห็นท่านหรือคนอย่างท่านนี่แหละ เป็นผู้ว่ากทม. หรือแม้แต่เป็นผู้นำในการเมืองระดับชาติ
แต่ท่านยังคงสงบเสงี่ยม ไม่ตื่นเต้นยินดีไปกับเสียงเชียร์ใดๆ บอกผมเพียงว่าท่านมีหน้าที่เป็นข้าราชการประจำและจะทำหน้าที่ที่รับมอบหมายให้ดีที่สุดไปเรื่อยๆเท่านั้น
ผมมีโอกาสเดินทางตามไปให้กำลังใจท่านที่พะเยา หลังจากย้ายออกจากเชียงรายมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เพราะทราบว่าท่านพยายามจัดระบบสร้างระเบียบสังคมในการร่วมรักษากว๊านพะเยา แหล่งน้ำจืดสำคัญของพื้นที่ภาคเหนือตอนบน
ผมตามไปประชุมรับฟังแผนการต่อสู้เรื่องอากาศสะอาดที่ลำปาง ได้เกร็ดดีๆมาจากทักษะที่ท่านเข้าใจงานวิศวกรรมจึงขอใช้ข้อมูลดาวเทียมดวงที่จะเคลื่อนผ่านท้องฟ้าประเทศไทยที่ใกล้รุ่งมากที่สุดเพื่อจะได้ภาพถ่ายจากอวกาศที่ระบุพิกัดของไฟป่าที่ใกล้เคียงที่สุดกับการปล่อยทีมดับไฟป่าแห่กันออกไปจัดการทันทีที่ฟ้าสว่าง
ท่านบอกว่าถ้ามัวใช้ภาพถ่ายจากสามทุ่มเมื่อคืน กว่าจะสว่าง ไฟเคลื่อนตัวข้ามเขาไปทางไหนแล้วก็ไม่มีใครรู้ เพราะควันจะบังไปจนทีมสนามเดายากว่าจะไปดักหัวไฟที่จุดไหนดี
ครั้นท่านย้ายมาเป็นผู้ว่าปทุมธานี ผมก็ตามไปทำเรื่องท่องเที่ยวทางแม่น้ำกับท่านอีก ท่านลงทุนมาล่องเรือจอดแวะท่าน้ำขึ้นเยี่ยมวัดเก่าๆกับผมทั้งวัน ที่นั่น ผมจึงได้รู้ว่ามี’’ข้าวมันเป็ด’’เจ้าอร่อยที่ตลาดริมน้ำสามโคกด้วย
จากนั้นก็ตามกันไปทำเรื่องส่งเสริมการศึกษาและกระจายทักษะวิชาและอาชีพในพื้นที่ปทุมธานี ด้วยกันอีกสองครั้ง
ท่านเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย สุภาพและเฉียบแหลม คิดอ่านเป็นระบบ ไม่หวั่นเกรงอิทธิพลหรือผลกระทบ วางตน วางตัว วางวาจาน่าศรัทธา ทุกครั้งที่ผมได้สัมผัสหรือแม้แต่ลองแอบเหลือบมองจากที่ไกลออกมา ก็เห็นอย่างนั้น
บัดนี้ท่านจากไป ในขณะที่ยังอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ แม้เชื่อว่ามีงานหลายประการที่ท่านคงยังอยากสานต่อให้เสร็จ
แต่สำหรับผมแล้ว ท่านได้ทำภารกิจไปจนบรรลุผลจนทะลุเลยจุดที่ท่านอาจไม่ได้มุ่งตั้งเอาไว้จนเป็นที่ประจักษ์ไปแล้วต่อสาธารณชนไปแล้ว
นั่นคือท่านถูกจดจำในฐานะอีกหนึ่ง’’หมุดหมายแห่งศรัทธา’’ของสาธารณะ ที่ปวงชนรู้สึกมีกำลังใจ ว่าเรายังมีคนเก่งดี และมีความรับผิดชอบของแผ่นดิน
นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา
หลับพักผ่อนให้สบาย
เราทุกคนภูมิใจที่ครั้งหนึ่งได้ร่วมทำภารกิจกับท่านผู้ว่าหมูป่าครับ
บทความโดย วีระศักดิ์ โควสุรัตน์
สมาชิกวุฒิสภา
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา