บริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AWS) ผู้พัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลสัญชาติไทย ผู้ผลิตและจำหน่ายตู้เติมเงิน Kapook Topup ,ตู้สินค้าอัตโนมัติ Advance Vending , Qbox ตู้ชำระเงินออนไลน์ระบบ Hybrid,ร้านสะดวกซัก Fast 24 ผนึกกำลัง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ร่วมสนับสนุน โครงการ “สมาร์ทโชห่วย พลัส”
เมื่อเร็วๆนี้ AWS ในฐานะเครือข่ายพันธมิตร ด้านบริการเสริม มอบตู้เติมเงิน Kapook Topup รุ่น Plus ราคาตู้ละ 13,500 บาท จำนวน 200 ตู้ มูลค่า 2.7 ล้านบาท ให้แก่ร้านค้าโชห่วย ที่เข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ เพื่อร่วมผลักดันให้ร้านโชห่วยสามารถสร้างรายได้ ก่อให้เกิดความแข็งแกร่งยั่งยืนในเศรษฐกิจฐานราก ทั้งยังสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ร้านค้าด้วยการนำเทคโนโลยีตู้เติมเงินอัตโนมัติบริการตลอด 24 ชั่วโมง เพิ่มช่องทางการให้บริการแก่ลูกค้า สร้างโอกาสทางการค้าและเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันให้แก่ร้านค้าโชห่วย เป็นกำลังในการผลักดันเศรษฐกิจชุมชนเติบโตด้วยความมั่นคง อย่างยั่งยืน
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “โครงการสมาร์ทโชห่วย พลัส เป็นโครงการที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและหน่วยงานพันธมิตรร่วมกันพัฒนาร้านค้าปลีกรายย่อย หรือ โชห่วย ทั่วประเทศให้เป็น ‘สมาร์ทโชห่วย’ ที่มีภาพลักษณ์ที่ดีและมีการจัดรูปแบบร้านค้าที่ สวย สะอาด สว่าง สะดวก สบาย นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการบริหารจัดการร้านค้า รวมถึง มีความรู้ที่จำเป็นต่อการบริหารธุรกิจ รู้จักลูกค้า รู้จักสินค้า รู้จักใช้เงิน และรู้จักกำไร โดยโครงการสมาร์ทโชห่วย พลัส เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา
ล่าสุดกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้รับการสนับสนุนตู้เติมเงิน ‘กะปุก’ หรือ ‘Kapook’ จำนวน 200 ตู้ จากบริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AWS ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรโครงการสมาร์ทโชห่วย พลัส เพื่อดำเนินการมอบให้แก่ร้านค้าทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการฯ ในปีนี้ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ภายใต้แนวคิด ‘ขยายฐานลูกค้าด้วยเทคโนโลยีใกล้บ้าน’ ซึ่งตู้กะปุกสามารถให้บริการเติมเงินโทรศัพท์มือถือ วอลเลท (Wallet) บัตรเงินสด เพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการโชห่วย โดยการนำตู้กะปุกซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้าไปให้บริการเสริมแก่คนในชุมชน เป็นการให้บริการเพิ่มเติมจากการขายสินค้าอุปโภค-บริโภคตามปกติ ช่วยขยายฐานลูกค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการก็มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น อีกทั้ง ยังเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในการเติมเงินโทรศัพท์มือถือ หรือชำระค่าบริการประเภทต่างๆ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน โดยสามารถทำธุรกรรมได้ที่ร้านสมาร์ทโชห่วยใกล้บ้าน ทำให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย
จากการประเมินเบื้องต้น การให้บริการตู้กะปุก 1 ตู้ จะมีรายได้ประมาณ 30,000 - 50,000 บาท ต่อปี โดยรายรับมาจาก 2 ทาง คือ 1) ค่าธรรมเนียมเติมเงิน เช่น เติมเงิน 20 บาท ค่าธรรมเนียม 2 บาท เป็นต้น และ 2) เปอร์เซ็นต์จากยอดเติมเงินที่จะได้รับจากเจ้าของเครือข่ายเติมเงิน (ประมาณ 2.7% - 3%) ขณะเดียวกันร้านสมาร์ทโชห่วยที่ติดตั้งตู้กะปุกจะมีค่าใช้จ่ายประมาณเดือนละ 100 บาท (ค่าบริหารจัดการรายเดือนซิม โทรศัพท์ 50 บาท และค่าไฟตู้กะปุกประมาณ 50 บาท) ซึ่งเมื่อหักกลบลบยอดระหว่างรายรับและรายจ่ายแล้ว ผู้ประกอบการยังคงมีรายรับที่เพิ่มขึ้นจากการให้บริการตู้กะปุก ซึ่งถือเป็นรายได้เสริมจากการขายสินค้าภายในร้าน นอกจากนี้ AWS ซึ่งเป็นเจ้าของตู้กะปุกจะเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำตลอดระยะเวลาการใช้งาน ทั้งนี้ หากดำเนินการแจกตู้กะปุกได้ครบ 200 ตู้ คาดว่าจะมีเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจมากกว่า 10 ล้านบาท
ในนามกรมพัฒนาธุรกิจการค้าขอขอบคุณบริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) : AWS ที่ร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักโครงการฯ และมอบตู้เติมเงินกะปุก จำนวน 200 ตู้ ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพ สร้างรายได้ และเสริมจุดแข็งแก่ผู้ประกอบการร้านสมาร์ทโชห่วย ทำให้มีเครื่องมือในการแข่งขันเพิ่มขึ้น โดยกรมฯ และ AWS จะร่วมกันส่งมอบตู้กะปุกในงานสัมมนา ‘ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ สร้างเครือข่าย สู่การเป็นสมาร์ทโชห่วย’ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 ณ จังหวัดกาฬสินธุ์ และวันที่ 3, 5, 22 และ 25 มิถุนายน 2566 ณ จังหวัดนครราชสีมา อุตรดิตถ์ อุดรธานี และร้อยเอ็ด ตามลำดับ ร้านสมาร์ทโชห่วยที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนส่งเสริมธุรกิจการค้า กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทรศัพท์ 0 2547 5986 และเฟสบุ๊คเพจ ‘สมาร์ทโชห่วย’ อธิบดีฯ กล่าวทิ้งท้าย
ด้านนายวิโรจน์ ศิริรัตนรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “บริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลแพลตฟอร์ม และระบบ It Solution แบบครบวงจรชั้นนำของประเทศไทย ที่ดำเนินธุรกิจมา มามากกว่า 15 ปี และเป็นผู้ผลิตจำหน่าย ตู้ Kapook Topup ผู้ให้บริการเติมเงิน,เติม Wallet และบริการชำระบิลค่าบริการต่างๆ เรามีความยินดีและรู้สึกภูมิใจ เป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรด้านบริการเสริม ร่วมกับ โครงการ 'สมาร์ทโชห่วย พลัส' ของ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในการนำเทคโนโลยีมาสนับสนุนพัฒนาร้านโชห่วย ทั่วประเทศไทยให้กลายเป็นร้านค้าที่ทันสมัย ด้วยบริการเสริมตู้เติมเงิน Kapook Topup ให้แก่ลูกค้าที่มาซื้อสินค้าภายในร้าน เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดค้าปลีกที่มีการปรับตัวเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
เราในฐานะบริษัทผู้พัฒนาระบบและเป็นเจ้าของแบรนด์ผู้ผลิตตู้เติมเงิน Kapook Topup ได้เล็งเห็นความสำคัญของโครงการดังกล่าว และต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจชุมชน มีความเข้มแข็ง เพราะเมื่อเศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง เศรษฐกิจของทั้งประเทศในภาพรวมก็จะมีความแข็งแกร่งด้วยความมั่นคงยิ่งขึ้นตามไปด้วย เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้เกิดแก่ระดับชุมชนที่เป็นรากฐานของเศรษฐกิจ ทางบริษัทจึงขอมอบตู้เติมเงิน Kapook Topup รุ่น Plus ราคาตู้ละ 13,500 บาท ให้แก่ร้านค้า โชห่วยที่เข้าร่วม โครงการ “สมาร์ทโชห่วย พลัส” ทั่วประเทศ จำนวน 200 ตู้ มูลค่า 2.7 ล้านบาท เพื่อให้ร้านโชห่วยสามารถนำไปสร้างรายได้ จากค่าธรรมเนียมในการเติมเงินมือถือและค่าธรรมเนียมชำระค่าบริการต่างๆ อัตโนมัติตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและข้อได้เปรียบในการแข่งขันให้กับร้านโชห่วย สร้างรายได้ที่มั่นคง เพื่อส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ เติบโตพร้อมกันของทุกภาคส่วนอย่างเข้มแข็งยั่งยืน”
เมื่อเร็วๆนี้ AWS ในฐานะเครือข่ายพันธมิตร ด้านบริการเสริม มอบตู้เติมเงิน Kapook Topup รุ่น Plus ราคาตู้ละ 13,500 บาท จำนวน 200 ตู้ มูลค่า 2.7 ล้านบาท ให้แก่ร้านค้าโชห่วย ที่เข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ เพื่อร่วมผลักดันให้ร้านโชห่วยสามารถสร้างรายได้ ก่อให้เกิดความแข็งแกร่งยั่งยืนในเศรษฐกิจฐานราก ทั้งยังสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ร้านค้าด้วยการนำเทคโนโลยีตู้เติมเงินอัตโนมัติบริการตลอด 24 ชั่วโมง เพิ่มช่องทางการให้บริการแก่ลูกค้า สร้างโอกาสทางการค้าและเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันให้แก่ร้านค้าโชห่วย เป็นกำลังในการผลักดันเศรษฐกิจชุมชนเติบโตด้วยความมั่นคง อย่างยั่งยืน
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “โครงการสมาร์ทโชห่วย พลัส เป็นโครงการที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและหน่วยงานพันธมิตรร่วมกันพัฒนาร้านค้าปลีกรายย่อย หรือ โชห่วย ทั่วประเทศให้เป็น ‘สมาร์ทโชห่วย’ ที่มีภาพลักษณ์ที่ดีและมีการจัดรูปแบบร้านค้าที่ สวย สะอาด สว่าง สะดวก สบาย นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการบริหารจัดการร้านค้า รวมถึง มีความรู้ที่จำเป็นต่อการบริหารธุรกิจ รู้จักลูกค้า รู้จักสินค้า รู้จักใช้เงิน และรู้จักกำไร โดยโครงการสมาร์ทโชห่วย พลัส เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา
ล่าสุดกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้รับการสนับสนุนตู้เติมเงิน ‘กะปุก’ หรือ ‘Kapook’ จำนวน 200 ตู้ จากบริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AWS ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรโครงการสมาร์ทโชห่วย พลัส เพื่อดำเนินการมอบให้แก่ร้านค้าทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการฯ ในปีนี้ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ภายใต้แนวคิด ‘ขยายฐานลูกค้าด้วยเทคโนโลยีใกล้บ้าน’ ซึ่งตู้กะปุกสามารถให้บริการเติมเงินโทรศัพท์มือถือ วอลเลท (Wallet) บัตรเงินสด เพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการโชห่วย โดยการนำตู้กะปุกซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้าไปให้บริการเสริมแก่คนในชุมชน เป็นการให้บริการเพิ่มเติมจากการขายสินค้าอุปโภค-บริโภคตามปกติ ช่วยขยายฐานลูกค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการก็มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น อีกทั้ง ยังเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในการเติมเงินโทรศัพท์มือถือ หรือชำระค่าบริการประเภทต่างๆ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน โดยสามารถทำธุรกรรมได้ที่ร้านสมาร์ทโชห่วยใกล้บ้าน ทำให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย
จากการประเมินเบื้องต้น การให้บริการตู้กะปุก 1 ตู้ จะมีรายได้ประมาณ 30,000 - 50,000 บาท ต่อปี โดยรายรับมาจาก 2 ทาง คือ 1) ค่าธรรมเนียมเติมเงิน เช่น เติมเงิน 20 บาท ค่าธรรมเนียม 2 บาท เป็นต้น และ 2) เปอร์เซ็นต์จากยอดเติมเงินที่จะได้รับจากเจ้าของเครือข่ายเติมเงิน (ประมาณ 2.7% - 3%) ขณะเดียวกันร้านสมาร์ทโชห่วยที่ติดตั้งตู้กะปุกจะมีค่าใช้จ่ายประมาณเดือนละ 100 บาท (ค่าบริหารจัดการรายเดือนซิม โทรศัพท์ 50 บาท และค่าไฟตู้กะปุกประมาณ 50 บาท) ซึ่งเมื่อหักกลบลบยอดระหว่างรายรับและรายจ่ายแล้ว ผู้ประกอบการยังคงมีรายรับที่เพิ่มขึ้นจากการให้บริการตู้กะปุก ซึ่งถือเป็นรายได้เสริมจากการขายสินค้าภายในร้าน นอกจากนี้ AWS ซึ่งเป็นเจ้าของตู้กะปุกจะเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำตลอดระยะเวลาการใช้งาน ทั้งนี้ หากดำเนินการแจกตู้กะปุกได้ครบ 200 ตู้ คาดว่าจะมีเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจมากกว่า 10 ล้านบาท
ในนามกรมพัฒนาธุรกิจการค้าขอขอบคุณบริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) : AWS ที่ร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักโครงการฯ และมอบตู้เติมเงินกะปุก จำนวน 200 ตู้ ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพ สร้างรายได้ และเสริมจุดแข็งแก่ผู้ประกอบการร้านสมาร์ทโชห่วย ทำให้มีเครื่องมือในการแข่งขันเพิ่มขึ้น โดยกรมฯ และ AWS จะร่วมกันส่งมอบตู้กะปุกในงานสัมมนา ‘ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ สร้างเครือข่าย สู่การเป็นสมาร์ทโชห่วย’ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 ณ จังหวัดกาฬสินธุ์ และวันที่ 3, 5, 22 และ 25 มิถุนายน 2566 ณ จังหวัดนครราชสีมา อุตรดิตถ์ อุดรธานี และร้อยเอ็ด ตามลำดับ ร้านสมาร์ทโชห่วยที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนส่งเสริมธุรกิจการค้า กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทรศัพท์ 0 2547 5986 และเฟสบุ๊คเพจ ‘สมาร์ทโชห่วย’ อธิบดีฯ กล่าวทิ้งท้าย
ด้านนายวิโรจน์ ศิริรัตนรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “บริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลแพลตฟอร์ม และระบบ It Solution แบบครบวงจรชั้นนำของประเทศไทย ที่ดำเนินธุรกิจมา มามากกว่า 15 ปี และเป็นผู้ผลิตจำหน่าย ตู้ Kapook Topup ผู้ให้บริการเติมเงิน,เติม Wallet และบริการชำระบิลค่าบริการต่างๆ เรามีความยินดีและรู้สึกภูมิใจ เป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรด้านบริการเสริม ร่วมกับ โครงการ 'สมาร์ทโชห่วย พลัส' ของ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในการนำเทคโนโลยีมาสนับสนุนพัฒนาร้านโชห่วย ทั่วประเทศไทยให้กลายเป็นร้านค้าที่ทันสมัย ด้วยบริการเสริมตู้เติมเงิน Kapook Topup ให้แก่ลูกค้าที่มาซื้อสินค้าภายในร้าน เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดค้าปลีกที่มีการปรับตัวเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
เราในฐานะบริษัทผู้พัฒนาระบบและเป็นเจ้าของแบรนด์ผู้ผลิตตู้เติมเงิน Kapook Topup ได้เล็งเห็นความสำคัญของโครงการดังกล่าว และต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจชุมชน มีความเข้มแข็ง เพราะเมื่อเศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง เศรษฐกิจของทั้งประเทศในภาพรวมก็จะมีความแข็งแกร่งด้วยความมั่นคงยิ่งขึ้นตามไปด้วย เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้เกิดแก่ระดับชุมชนที่เป็นรากฐานของเศรษฐกิจ ทางบริษัทจึงขอมอบตู้เติมเงิน Kapook Topup รุ่น Plus ราคาตู้ละ 13,500 บาท ให้แก่ร้านค้า โชห่วยที่เข้าร่วม โครงการ “สมาร์ทโชห่วย พลัส” ทั่วประเทศ จำนวน 200 ตู้ มูลค่า 2.7 ล้านบาท เพื่อให้ร้านโชห่วยสามารถนำไปสร้างรายได้ จากค่าธรรมเนียมในการเติมเงินมือถือและค่าธรรมเนียมชำระค่าบริการต่างๆ อัตโนมัติตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและข้อได้เปรียบในการแข่งขันให้กับร้านโชห่วย สร้างรายได้ที่มั่นคง เพื่อส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ เติบโตพร้อมกันของทุกภาคส่วนอย่างเข้มแข็งยั่งยืน”