ฤดูร้อนปีนี้ ระดับอุณหภูมิโดยเฉลี่ยหลายพื้นที่สูงขึ้น ผนวกกับสภาพภูมิอากาศโลกที่เปลี่ยนแปลง (Climate Change) ทำให้สภาพอากาศร้อนอบอ้าวทั้งตอนกลางวันและกลางคืน หลายๆ บ้านจึงมองหาเครื่องปรับอากาศใหม่ บ้างต้องการซื้อมาทดแทนแอร์เครื่องเก่าที่กินไฟ หรือบางบ้านก็ติดเพิ่มเติม
เมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงพลังงาน ให้เคล็ดลับใช้เป็นข้อมูลในการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศอย่างคุ้มค่า ทั้งประหยัดค่าใช้จ่าย แถมช่วยประหยัดพลังงานของประเทศอีกด้วย
1.เลือกที่ประหยัดไฟ
ควรเลือกแอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 สามดาว และควรดูแอร์ที่มีค่า SEER หรืออัตราส่วนประสิทธิภาพพลังงานตามฤดูกาลตามที่ระบุไว้บนฉลากเบอร์ 5 ควรดูค่า SEER สูงไว้ก่อน เพราะค่า SEER ยิ่งสูง จะช่วยให้ประหยัดไฟได้มากยิ่งขึ้น
2.เลือกที่เทคโนโลยี
ระบบ Inverter เป็นระบบที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานและรักษารอบคอมเพรสเซอร์ ให้ใกล้เคียงอุณหภูมิที่ตั้งไว้ ส่งผลให้ควบคุมอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำและประหยัดพลังงานมากขึ้น
ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวนั้นช่วยให้ประหยัดพลังงาน หากไม่มีคนอยู่ในห้องแอร์ก็จะไม่ทำงาน
3.คำนวณ BTU ของแอร์
หากค่า BTU สูงเกินไป จะทำให้สิ้นเปลืองไฟฟ้ามากขึ้น หรือหากค่า BTU น้อยเกินไป การกระจายความเย็นจะไม่ทั่วถึง แอร์จะทำงานหนักขึ้น และส่งผลต่ออายุการใช้งาน การเลือกแอร์ที่มีขนาด BTU ให้เหมาะสมกับขนาดของห้องทำให้แอร์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น
4. เลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน และสถานที่
ประเภทของแอร์มี 4 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ แบบติดผนัง แบบแขวนใต้ฝ้า แบบฝังใต้เพดาน แบบตู้ตั้งพื้น โดยแต่ละประเภทจะมีการใช้งานที่แตกต่างกัน เพียงเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน จะเรื่องการประหยัดพลังงานและประหยัดไฟมากขึ้น
เครื่องปรับอากาศในปัจจุบันมีอยู่มากมายหลายรุ่น แต่ละรุ่นมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ต่างกันออกไป ทุกท่านสามารถนำเคล็ดลับการเลือกซื้อแอร์ดังกล่าว เพื่อเป็นทางเลือกในการตัดสินใจในการเลือกซื้อ เพียงเท่านี้ก็จะได้แอร์ตัวใหม่ที่มีความคุ้มค่า ช่วยประหยัดเงินค่าใช้จ่าย และยังช่วยโลกประหยัดพลังงาน
ที่มา กระทรวงพลังงาน
อ้างอิง : HOPEMAN https://bit.ly/3zCpfzw