“PMAT” จับมือ 4 พันธมิตร “ท็อปกัน-ฮิวแมนิก้า-Darwinbox-SkillLane”เปิดโลกเทคโนโลยีและการเรียนรู้ ในงาน Thailand HR Tech 2023 ที่จะจัดให้มีขึ้น 14-15 มิถุนายน 2566 นี้ พบกับสุดยอด HR Technology ที่เปรียบเสมือนซูเปอร์ไฮเวย์ ทางด่วนทางลัดในการพัฒนาคน
นางสุดคนึง ขัมภรัตน์ นายกสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้ประกาศความร่วมมือกับ 4 บริษัทชั้นนำในแวดวง HR ได้แก่ บริษัท ท็อปกัน, บริษัท ฮิวแมนิก้า จำกัด (มหาชน), บริษัท Darwinbox และบริษัท SkillLane ร่วมกันจัดงาน HR Technology ในไทยให้เทียบเท่ากับงานเอ็กซ์โประดับโลก ภายใต้ชื่อ Thailand HR Tech 2023: Everything Everywhere Augmented ซึ่งจัดมาอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยปีนี้จะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 14-15 มิถุนายน 2566 ณ สยามพารากอนฮอลล์ ชั้น 5 เพื่อยกระดับวิชาชีพ HR ในไทย สร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ และเป็นแม่แรงสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถของคนในระดับประเทศ
“เป็นอีกปีที่ PMAT ได้จัดงาน เพื่อช่วยกันยกระดับวิชาชีพ HR ที่สำคัญคือการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สำคัญของสมาคมฯ การที่เราจะเป็น HR ที่สมาร์ทและอยู่ในโลกของดิจิทัล เราต้องทำน้อยให้ได้เยอะ ทำงานอย่างฉลาด ออกแรงให้น้อย แต่ได้ประสิทธิภาพมาก เพื่อเก็บแรงไว้ทำงานอย่างอื่น เพราะฉะนั้นงานของ HR ต้องมีคุณค่าด้วย และมี impact กับองค์กร เราถึงจะเป็น HR ที่แท้จริงในยุคดิจิทัล”
โดยในงาน Thailand HR Tech 2023 เป็นการสร้างความร่วมมือระหว่าง PMAT กับบรรดา partner ที่ช่วยกันจัดงาน Conference & Exposition โดยที่ผู้เข้าชมงานไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เป้าหมายหลักเพื่อเป็นการรวมกลุ่มก้อน HR ให้มาเรียนรู้ร่วมกัน เกิดเป็นชุมชน และสร้างความเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน
นางสุดคนึงกล่าวว่า มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ที่ต้องเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน ในฐานะที่ PMAT เป็นองค์กรทางด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ งาน Thailand HR Tech 2023 จึงอัดแน่นด้วยคอนเทนต์ไม่แพ้ต่างประเทศ ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับฟังการนำเสนอกว่า 100 หัวข้อ และได้เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ จาก Exhibitor กว่า 70 บริษัท ภายใต้การนำเสนอผ่าน 3 Zone คือ learning for growth, wellbeing และ workshop “Job Topgun” total ecosystem ของการสรรหา
นายวริศ ชนาเทพาพร Executive Vice President บริษัท ท็อปกัน จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจสรรหาบุคคลกร กล่าวว่า เราอยู่ในยุคเทคโนโลยี ที่การสรรหาค่อนข้างแข่งขันสูง คำถามคือ HR มีความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีมากน้อยเพียงใด เพราะการสรรหาต้องมีเครื่องมือคัดกรอง “คนที่ใช่” จะทำอย่างไรให้หาคนที่ตรงกับความต้องการที่สุด ซึ่งถือเป็นความท้าทายของ HR ยุคนี้
“สิ่งหนึ่งที่สำคัญและพูดกันมาหลายปีแล้วคือการทำแบรนดิ้ง ตอนนี้เทคโนโลยีเอื้อให้ HR สามารถทำแบรนดิ้งได้ในหลายวิธี แต่ก่อนคนมองว่าการทำแบรนดิ้งเป็นเรื่องของการตลาด แต่ยุคนี้เป็นเรื่องของ HR โดยตรง เพราะการรับสมัครคนมาคัดเลือก มาสัมภาษณ์ จะขึ้นอยู่กับว่าบริษัทมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งมากน้อยเพียงใด โจทย์ยากของ HR ยุคนี้คือ จะทำอย่างไรให้สามารถดึงดูดผู้สมัครงานที่ HR อยากได้มากที่สุด มาทำงานให้องค์กร ไม่ต่างจากฝ่ายการตลาดที่ต้องดึงดูดลูกค้าให้มาซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัท”
ดังนั้น HR ต้องว่องไวในการสรรหา การไล่ดูใบสมัครทีละใบ ไม่มีเครื่องมือช่วย ทำให้เสียเปรียบคู่แข่ง หรือมีคู่มืออ่านคนได้ไม่ลึกเพียงพอ ก็จะไม่สามารถรับคนที่มี competency เข้ากับองค์กรได้ การรับคนจึงเป็นพื้นฐานหลักที่ HR ต้องใช้เทคโนโลยี เพื่อให้ก้าวทันกับการสรรหา Job Topgun หยิบเอา 6 ประเด็นทาง HR Technology มาจัดแสดงในงาน HR Tech 2023
โดยเป็นธีมรวมในเรื่องของ total ecosystem ของการรับสมัครงาน ได้แก่
1. ฐานข้อมูล JobTopgun มีระบบฐานข้อมูลมากที่สุด 4.6 ล้านคน มีจุดเริ่มต้นมาจากการตะเวณบรรยายให้นักศึกษาฟังมาตลอด 22 ปี ทำให้มีฐานข้อมูลแน่น ครอบคลุม 90%
ของนักศึกษาจบใหม่ สามารถค้นหาอายุและประสบการณ์ทำงานได้ทุกช่วงวัย
2. search engine ที่ทะลุทะลวง ปีนี้ Job Topgun พัฒนาตัวใหม่ ช่วยให้ HR สามารถเจอคนที่ตรงใจ ด้วยฟีลเตอร์ที่สามารถกรองคนที่พร้อมตามสเปกของแต่ละตำแหน่งงาน ไม่ว่าจะเป็นหาคนที่มีงานอดิเรกแบบไหน หรือหาคนที่มีประสบการณ์สายอาชีพแบบไหน
3. super resume เป็นเครื่องมือช่วยอ่านผู้สมัครได้ลึกขึ้น สามารถวิเคราะห์ competency ของผู้สมัคร ช่วยส่งเสริมธุรกิจให้เป็นองค์กรที่เน้นการขับเคลื่อนด้วยข้อมูล
4. super recruit success เป็นระบบที่ช่วยลดงานจำเจ เพิ่มประสิทธิภาพในการรับคนลูกค้าใช้บริการได้ฟรี และอัพเดทข้อมูลเป็นปัจจุบันขณะ
5. branding บริษัทมีเวปไซต์ you say, HR say ที่มีรีวิวกว่า 9,000 บริษัท หรือ 30,000 รีวิวที่จะช่วยให้ผู้สมัครสามารถหาบริษัทที่ตรงใจ HR สามารถเข้ามาทำ employer branding ได้ เพื่อดึงดูดพนักงานที่ต้องการมากที่สุด
6. Job Topgun Academy รวมแหล่งความรู้ของ HR ในเรื่องการสรรหาไว้ในที่เดียว เป็นที่ปรึกษาให้ HR ได้เวลาเจอทางตัน
นอกจากนี้บริษัทยังชูเทคโนโลนี AI โดย Job Topgun เริ่มพัฒนาระบบ AI มาอย่างต่อเนื่องหลายปี ในทุกสินค้าและบริการ ทั้งในเรื่องของการ match คน การ search หาคน และการ screen คน
“ทุกผลิตภัณฑ์ของเราดูภายนอกไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก แต่ไส้ในถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยใช้ AI ซึ่งช่วยลดความผิดพลาดของ HR ได้ บางที HR มือใหม่มี skill gab แต่ด้วย AI ที่ใช้ deep learning สามารถวิเคราะห์ข้อมูลมหาศาล ทำให้ AI สามารถเติมเต็มช่องว่างในการทำงานระหว่าง HR มือใหม่กับ HR มือเก๋าได้ สามารถเอาเวลาไปทำเรื่องอื่นๆ อย่างการกำหนดกลยุทธ์ การพัฒนานวัตกรรม ที่เกิด impact กับองค์กรได้มากขึ้น” วริศกล่าว
๐ “ฮิวแมนิก้า” เทคโนโลยี HR ไม่มี one size fit all
นายสุนทร เด่นธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮิวแมนิก้า จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจ HR solution กล่าวว่า เรื่องของ HR กับเทคโนโลยี จะเห็นผลกระทบอย่างมากในช่วงที่โควิดระบาดหนัก สอดคล้องกับมุมมองของฮิวแมนิก้า ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ที่เผ้าระวังและติดตามสถานการณ์ความผันผวนของโลกอย่างใกล้ชิด จนได้ข้อสรุปว่าการทำธุรกิจจะต้องยืดหยุ่นมากขึ้น แต่ท่ามกลางความยืดหยุ่น จะทำอย่างไรให้มั่นใจได้ว่า productivity หรือ performance ของคนไม่ตกลง
อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าบริษัทจะโดดเด่นในการใช้เทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาความสามารถของคน แต่ฮิวแมนิก้าไม่ต้องการเอาเทคโนโลยีมาเป็นตัวนำ ท่ามกลางผลกระทบของ AI กับงาน HR แต่เน้นการใช้เทคโนโลยีให้เป็นเพียงเครื่องมือในงาน HR เพราะหัวใจของการดูแลคน ต้องใช้คนด้วยกันเท่านั้นในการสร้าง HR platform
“เราไม่เชื่อในเรื่อง one size fit all ว่ามีแพลทฟอร์มแล้ว สามารถตอบโจทย์องค์กรทุกขนาด ทุกความซับซ้อนได้ เราจึงออกแบบแพลทฟอร์มสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อน กับระบบแพลทฟอร์มที่ลดขนาดเงินลงทุนลงมา แต่ยังตอบโจทย์องค์กรขนาดกลางและเล็ก รวมถึง SMEs”
นายสุนทร กล่าวต่อว่า ปี 2565 บริษัทเคยเปิดตัวระบบ workplaze รองรับตลาดในเอเชีย และโฟกัสเฉพาะเทคโนโลยีที่บริษัทแข็งแกร่ง เป็น end to end solution ตั้งแต่สิ่งที่เป็นงานแอดมินไปจนถึงงานด้านกลยุทธ์ การบริหารคนเก่ง ภายใต้การเชื่อมต่อฐานข้อมูลเดียวกัน และเชื่อมต่ออย่างสมบูรณ์ เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารเวลาและการจัดการ HR ได้อย่างไร
“สิ่งที่อยากเน้นคือ ในเรื่องบางเรื่องระบบอัตโนมัติทำให้เราไม่ต้องมาเสียเวลาทำ ใช้เวลาน้อยลง ใช้คนน้อยลง และบางเรื่องไม่จำเป็นต้องทำเอง เอาเวลาของ HR ไปทำสิ่งซึ่งมีค่ากับองค์กรในฐานะที่เป็นstrategic partner ผลักงานแอดมินไปให้แต่ละแผนกทำเองผ่านระบบงาน self service แล้ว HR ก็ upskill,reskill ไปทำงานในสิ่งที่มีค่า เป็นบทบาทที่มากขึ้นของ HR ระบบงาน workplaze จะผูกกับประเด็นต่างๆ ในงาน HR ตั้งแต่เรื่องพื้นฐานไปจนถึงระบบประเมินผล ภายใต้การจัดการทางเทคโนโลยีที่ช่วยผ่อนแรง HRได้”
ฮิวแมนิก้ายังคงโชว์ความเก๋าเกมในงาน Thailand HR Tech 2023 ด้วยการเน้นย้ำเทคโนโลยี work plaze กับ tiger soft solution รวมถึงปิดตัว “ฮิวแมนิก้า คอนซัลติ้ง” ธุรกิจน้องใหม่ที่จะเข้ามาช่วยองค์กรสร้างคอนเทนต์ที่จะนำไปใช้ในระบบงาน
เพื่อปิดช่องโหว่การทำงานผ่านบริษัทที่ปรึกษาภายนอก จากการมองว่าบริษัทใกล้ชิดลูกค้ามากกว่า มีฐานข้อมูล และองค์ความรู้มากพอที่จะเอามาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับลูกค้า
๐ “Darwinbox” จาก recruitment ถึง retirement
นายภาณุวัฒน์ เบ็ญเราะมาน กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท Darwinbox จำกัด ดำเนินธุรกิจ HR platform กล่าวว่า วิสัยทัศน์ของบริษัทอยากให้ HR สามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างเต็มที่ในการบริหารจัดการคน ช่วยให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้ ที่ผ่านมาข้อมูล HR ส่วนใหญ่ยังไม่อยู่ในระบบที่สามารถนำมาใช้ได้ Darwinbox อยากช่วยให้ HR ใช้เทคโนโลยีในการทำงานอย่างเต็มพื้นที่ ตั้งแต่ recruit ไปจนถึง retirement ทำอย่างไรให้คนมาสมัครงานไม่ต้องมีเอกสารเลย จนกระทั่งเซ็นสัญญารับเข้าทำงาน จะช่วยลดเวลาในการทำงาน และช่วยเพิ่มความเร็วในการรับคนเข้าทำงาน ขณะเดียวกัน HR ต้องมีเป้าหมายชัดเจนในการทำงานว่ามีอะไรบ้าง อะไรคือเป้าหมายเชิงธุรกิจที่องค์กรอยากเห็น เพื่อที่ว่า HR จะได้ตอบโจทย์ธุรกิจอย่างตรงประเด็น ใช้เทคโนโลยีเอื้อให้เกิดประโยชน์ ทำให้ธุรกิจเติบโตต่อไปในอนาคต
“Darwinbox เป็น platform ที่พูดตั้งแต่ recruitment กระทั่ง retirement สามารถตอบโจทย์ได้หลากหลาย เรามางาน HR Tech 2023 ก็ต้องมาดูเทคโนโลยีที่ทำให้การทำงานทุกส่วนง่ายขึ้น โดยเฉพาะงานเอกสาร งานฐานข้อมูล”
สิ่งที่ HR จะได้มาสัมผัส Darwinbox อย่างใกล้ชิด จะเป็นเรื่องของ
1. เทคโนโลยีการใช้ฐานข้อมูลที่เต็มประสิทธิภาพ
2. low code, no code การเปลี่ยนกระบวนการทำงานใหม่ HR ออกแบบได้เอง ไม่ต้องอาศัยไอที เป็นการปิด pain point ในองค์กรว่า ในอดีตระบบเทคโนโลยีไม่สามารถปรับจูนให้เข้ากับองค์กรได้ แต่การทำ customer configuration ทำให้ HR สามารถออกแบบระบบงานต่างๆ ได้เอง
3. การลงทุนในงาน HR ในสายตาผู้บริหารยังมองว่าเป็นค่าใช้จ่าย HR จะทำอย่างไรให้ expense เป็น investment ได้ บริษัทจึงให้บริการคำปรึกษา เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน สิ่งที่ต้องทำคือสร้างคุณค่าให้ผู้บริหารเห็นภาพว่า ถ้ามีอัตราคนลาออก 10% แล้วเราไม่เปลี่ยนแปลงการรับคนเลย ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นมีอะไรบ้าง
นอกจากนี้ employee experience สำคัญมากๆ แต่ HR ก็ต้อง balance เพราะบางครั้งเราสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงาน แต่ไม่ตอบโจทย์ธุรกิจ HR จึงต้อง balance ระหว่าง business requirement กับ employee experience ซึ่งจะ balance ได้ต้องเอาลูกค้าเป็นตัวตั้งต้น ถ้า HR เข้าใจลูกค้า จะรู้ว่าผู้บริหารต้องการอะไร เมื่อรู้จักลูกค้าก็จะรู้ว่าพนักงานให้บริการลูกค้าอย่างไรบ้าง แล้วพนักงานต้องการให้ HR สนับสนุนอย่างไรบ้าง HR จึงไม่ได้ทำหน้าที่แค่สนับสนุน หรือทำงานตามขั้นตอน
แต่เป็นปุ่มเปิดใช้งาน enable อีกปุ่มหนึ่ง ที่จะช่วยให้พนักงานตอบโจทย์ลูกค้าได้
๐ “SkillLane” เมื่อ AI เข้ามา วิธีการทำงานจึงเปลี่ยนไป
นายฐิติพงศ์ พิสิฐวุฒินันท์ CEO and co-founder of SkillLane ดำเนินธุรกิจ Learning Platform กล่าวว่า ความท้าทายในงาน HR มีมาอยู่เรื่อยๆ แต่ความท้าทายที่รุนแรงมากขึ้นมี 2 เรื่อง คือ 1. bargaining power อำนาจการต่อรองเปลี่ยนจากนายจ้างไปหาลูกจ้างมากขึ้น เพราะนายจ้างให้ความสำคัญกับคนเก่งมากขึ้น พร้อมจ่าย พร้อมอัดฉีดสวัสดิการ การแข่งขันสูงขึ้น คนสมัครงานก็มีตัวเลือกมากขึ้น ตอนนี้เราอยู่ในสังคม gig economy แล้ว คนหนึ่งคนสามารถทำงานได้มากกว่า 1 งาน เพราะคนมีทางเลือกมากขึ้น ดังนั้นเป้าหมายองค์กร จึงต้องทบทวนแล้วว่า บริษัทเราอยู่เพื่ออะไร แล้วเอาเหตุผลนี้มาดึงดูดคนที่มีความเชื่อเหมือนกันเข้ามาร่วมงานกับองค์กร
2. generation gab ผู้บริหารองค์กรส่วนมากเป็น GEN X อายุ 40 กลางๆ ขึ้นไป หลายครั้งถูกเรียกว่าเป็น HIPO (highest person in the office) นั่งหัวโต๊ะ ฟังทุกคนพรีเซนต์ แล้วเคาะเอาแบบนี้ แต่ปัญหาคือว่าประสบการณ์ผู้บริหารในวันนี้อาจจะไม่เหมาะอีกต่อไป ขณะที่คน GEN Z ให้ค่าในเรื่องความอิสระ มั่นใจในตัวเองสูง ถ้าการทำงานไม่ตอบโจทย์ GEN Z ก็พร้อมลาออกได้ทุกเมื่อ ความท้าทายของ HR คือ จะทำอย่างไรให้ทั้ง GEN X และ GEN Z สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“บูธของ SkillLane เน้นในเรื่องของ corporate training solution เราทำเรื่อง upskill, reskill มานานมาก และคิดว่าไม่มีช่วงเวลาไหนสำคัญเท่าช่วงเวลานี้ ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ปริมาณ 2 ใน 3 ของตำแหน่งงานจะถูกเปลี่ยน job description ไป จะมี AI เข้ามาช่วย เมื่อวิธีการทำงานเปลี่ยนไป การพัฒนาพนักงานจึงสำคัญ ในลักษณะที่เป็น training in the flow of work
และมีคลังคอนเทนต์ที่ใหญ่มากๆ”
จุดแข็งในธุรกิจ training online ของ SkillLane คือ 3 ปัจจัยหลักได้แก่
1. คลังคอนเทนต์ออนไลน์ มี 5,000 คอร์ส ครอบคลุมทุกทักษะ ทุกแผนก ทุกระดับตำแหน่งงาน
และปี 2023 นี้ บริษัทขยายมาทำในเรื่องของ virtual training เรียนกับโค้ชผ่านระบบเสมือนจริง
2. ระบบ learning system ช่วยบริหารบุคลากร ให้เข้าถึงองค์ความรู้ที่หลากหลาย
3. โปรแกรม on base academy เป็น online micro learning ที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์การทำงานขององค์กร คอนเทนต์สั้น กระชับ เข้าใจง่าย ตรงจุด สามารถเอาไปใช้งานได้เลย Thailand HR Tech 2023: Everything Everywhere Augmented
จึงเป็นอีกเวทีของการแสดงเทคโนโลยี HR เพื่อบ่มเพาะให้ความสามารถของคนและองค์กร ได้งอกเงยไปด้วยกัน พบกันวันที่ 14 และ 15 มิถุนายน ที่รอยัลพารากอนฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน ผู้สนใจเข้าร่วมงาน สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและลงทำเบียนเข้าร่วมงาน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ได้ที่ https://hrtech.pmat.or.th/