รีคอฟ ประเทศไทย องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่เชี่ยวชาญด้านวนศาสตร์ชุมชน เปิดตัวเว็บไซต์ trees4allthailand.org ภายใต้โครงการต้นไม้ของเรา (Trees4All) ซึ่งเชื่อมผู้บริจาคเงินอุปถัมภ์ต้นไม้จากปลายน้ำสู่เกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกต้นไม้ฟื้นฟูป่าและระบบนิเวศต้นน้ำน่าน เพื่อให้เราทุกคนสามารถติดตามการเติบโตของต้นไม้และผลดีจากการปลูกได้อย่างต่อเนื่องและสร้างความพร้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
รีคอฟ ประเทศไทย สถาบัน ChangeFusion คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และกลุ่มรักษ์สันติสุข มองเห็นปัญหาการสูญเสียพื้นที่ป่าจากการปลูกพืชไร่เชิงเดี่ยวในอำเภอสันติสุข จังหวัดน่าน และปัญหาหนี้สินของเกษตรกรรายย่อย ทั้งที่พื้นที่ต้นน้ำน่านมีสัดส่วนของน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาถึงร้อยละ 40 แต่ระบบนิเวศกลับเสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ ในขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยยังตั้งเป้าที่จะเพิ่มพื้นที่ป่าให้ถึงร้อยละ 40 ของประเทศภายในพ.ศ. 2580 เพื่อรับมือวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ รีคอฟ ประเทศไทยและองค์กรภาคี จึงริเริ่มโครงการต้นไม้ของเราเพื่อระดมทุนปลูกต้นไม้แบบติดตามผลได้อย่างยั่งยืน
นางสาววรางคณา รัตนรัตน์ ผู้อำนวยการรีคอฟ ประเทศไทย กล่าวว่า “โครงการเริ่มมาจากแนวคิดที่ว่าพวกเราทุกคนเกี่ยวข้องกัน ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนในโลกนี้ เราต่างต้องพึ่งพาอาศัยกันและต้องพึ่งพิงระบบนิเวศ วันนี้เราเห็นปัญหาคือ เมื่อป่าต้นน้ำเสื่อมโทรมลง เราต้องพบกับผลกระทบโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหมอกควันหรือปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วม เมื่อชีวิตของพวกเราต้องพึ่งพิงกัน เราก็ต้องช่วยเหลือกันในการรับผิดชอบและแบ่งเบาภาระการดูแลระบบนิเวศ ไม่ใช่เพียงคนที่อยู่ต้นน้ำเท่านั้นที่ต้องรับภาระ ดังนั้นจะต้องมีสะพานเชื่อมให้เราสามารถช่วยเหลือคนต้นน้ำในฐานะคนปลายน้ำ ถ้าเรายื่นมือออกมาช่วยเหลือกันโดยปลูกต้นไม้ 1 ต้น ก็เป็นวิธีการหนึ่งที่เราจะช่วยคนต้นน้ำดูแลระบบนิเวศได้"
"การปลูกต้นไม้เป็นเรื่องที่นักวิทยาศาสตร์และทั่วโลกได้ให้ความเห็นแล้วว่าเป็นหนึ่งในวิธีช่วยโลกเราจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพราะการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกมาจากปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่สูงขึ้น การปลูกต้นไม้เป็นวิธีการที่ง่าย แต่สิ่งที่ยากคือการดูแลและทำให้ต้นไม้อยู่รอดต่อไป ดังนั้นเกษตรกรจึงเป็นหัวใจของการปลูกต้นไม้ โครงการต้นไม้ของเราจึงมุ่งสนับสนุนเงินให้ส่งตรงไปถึงเกษตรกร ซึ่งเป็นตัวเอกในการดูแลต้นไม้ของเรา”
การปลูกต้นไม้และติดตามผลการปลูกกับโครงการต้นไม้ของเรามีการทำงานอย่างเป็นระบบ โดยเงินบริจาคผ่านเว็บไซต์ระดมทุนเทใจดอทคอมจะเป็นทุนช่วยเกษตรกรต้นน้ำน่านปรับลดการปลูกพืชเชิงเดี่ยวมาสู่การปลูกไม้ยืนต้นหลากหลายชนิดที่เหมาะสมกับที่ดินของเกษตรกร จากนั้นเกษตรกรจะดูแลต้นไม้เป็นอย่างดี พร้อมรายงานพิกัด ข้อมูลการเติบโต ภาพถ่าย และคะแนนสุขภาพของต้นไม้แต่ละต้นให้กับผู้บริจาคเงินทุก 6 เดือนตลอดระยะเวลาดำเนินโครงการ 3 ปีต่อจากนี้ เกษตรกรจะรายงานข้อมูลของต้นไม้ผ่านแอปพลิเคชันในมือถือ และข้อมูลดังกล่าวจะถูกส่งเข้ามาที่เว็บไซต์ trees4allthailand.org ที่จับคู่ยอดบริจาคเงินของผู้บริจาคแต่ละรายกับจำนวนต้นไม้ที่ปลูกได้ ทำให้ผู้บริจาคสามารถติดตามพิกัดและการเติบโตของต้นไม้ที่ตนเองอุปถัมภ์ โดยใช้ข้อมูลการล็อกอินที่ระบบจะส่งไปยังอีเมลที่ใช้บริจาคเงินในเว็บไซต์เทใจดอทคอม
นางเบญจกร ทุ่งสุกใส หนึ่งในผู้สนับสนุนโครงการและอินฟลูเอนเซอร์สายครอบครัวและเด็ก ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับระบบติดตามต้นไม้ของเราว่า “พอเรารู้พิกัดว่าต้นไม้ที่เราบริจาคเงินปลูกอยู่ที่ไหน เราอาจจะพาลูกไปดูต้นไม้ในที่ปลูกจริงว่าเป็นอย่างไร และเด็กจะได้สัมผัสจากชาวบ้านด้วยว่าสภาพพื้นที่ตรงนั้นเป็นอย่างไร เขาอยู่กันอย่างไร เพื่อให้เด็กได้ซึมซับและเกิดความประทับใจ ต้นไม้อายุยืนกว่าเรา จึงอยากเชิญชวนทุกคนมาสร้างโลกใบนี้ให้น่าอยู่ยิ่งขึ้นเพื่อเด็กรุ่นต่อไป”
นางสาวเอด้า จิรไพศาลกุล กรรมการผู้จัดการเว็บไซต์เทใจดอทคอม กล่าวเสริมว่า “นอกจากประโยชน์ทางสิ่งแวดล้อม ประโยชน์ทางเศรษฐกิจคือเกษตรกรจะได้ใช้ประโยชน์จากต้นไม้ที่ปลูก และถ้ามีคนตามไปดูต้นไม้ที่ตนเองปลูกเยอะก็คงกระตุ้นเศรษฐกิจจังหวัดน่านได้เยอะด้วย”
นอกจากนี้์ trees4allthailand.org ยังมีไฮไลท์อยู่ที่การรายงานผลดีต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อเสริมสร้างความยั่งยืน โดยผู้บริจาคจะสามารถดาวน์โหลดรายงานการปลูกต้นไม้และผลดีจากการปลูกตามยอดบริจาคของตนเองหรือองค์กร รวมถึงทราบปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่คาดการณ์ว่าจะสามารถดูดซับได้เมื่อต้นไม้โตขึ้น ซึ่งนางสาวทิพย์สุดา นาคทั่ง ตัวแทนผู้บริจาคเงินปลูกต้นไม้ในนามกลุ่มแฟนคลับของศิลปินชื่อดัง เป๊ก ผลิตโชค มองว่า “เป็นระบบที่เข้าใจง่าย ใช้ง่าย และฟังก์ชั่นยังเหมาะกับสังคมแฟนคลับ อย่างในกลุ่มแฟนคลับเป๊ก ผลิตโชคจะมีการทำบุญวันเกิดทุกปีและบริจาคเงินอยู่แล้ว แต่ในปีที่ผ่านมาเราเพิ่มเรื่องอนุรักษ์ธรรมชาติเข้ามา ทางเราภูมิใจและอยากจะเป็นตัวอย่างให้แฟนคลับกลุ่มอื่นได้เข้ามาร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างยั่งยืน สำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ การมีฟังก์ชั่นที่เราติดตามได้ว่าเงินที่เราลงไปนั้นเกิดประโยชน์ในระยะยาวจริงและใช้งานง่ายแบบนี้ถือว่าดีมากและเหมาะกับสังคมยุคใหม่”
เว็บไซต์trees4allthailand.org รวมถึงแอปพลิเคชันรายงานข้อมูลต้นไม้สำหรับเกษตรกร พัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือกับนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และโครงการต้นไม้ของเราได้รับทุนสนับสนุนจากองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลกอย่าง Global EbA Fund และ Wyss Academy for Nature
โครงการต้นไม้ของเรามีเป้าหมายการระดมทุนอยู่ที่ปีละ 1,100,000 บาท เพื่อให้เกษตรกรมีทุนปลูกต้นไม้ในช่วงฤดูฝนจำนวน 10,000 ต้นต่อปีและดูแลต้นไม้จนเติบโต ตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 สามารถระดมทุนได้แล้วกว่า 700,000 บาท ปลูกต้นไม้ไปแล้วกว่า 4,000 ต้น และมีเกษตรกรน่านเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 30 ราย
นางสาววรารัตน์ วุฒิ ตัวแทนเกษตรกร เผยความคืบหน้าในการปลูกต้นไม้ว่า “โครงการช่วยสนับสนุนให้เกษตรกรสร้างพื้นที่ปลูกไม้ที่ยั่งยืนได้อย่างน้อยร้อยละ 10 ของพื้นที่ของเราเพื่อให้เกิดป่าตรงนั้น ต่อไปอาจจะเพิ่มมากกว่าร้อยละ 10 ได้” ในระยะเวลาทำโครงการอีก 34 เดือนต่อจากนี้ รีคอฟ ประเทศไทย จะเดินหน้าค้นหาเกษตรกรมาเข้าร่วมโครงการและพัฒนาศักยภาพต่อไป พร้อมร่วมมือกับทีมพัฒนาระบบติดตามต้นไม้ให้ดียิ่งขึ้น
ทุกคนสามารถช่วยเกษตรกรปลูกต้นไม้ของเรา โดยบริจาคเงิน 100 บาทต่อการปลูกต้นไม้ 1 ต้นผ่าน taejai.com/th/d/tree-for-all และติดตามผลการปลูกต้นไม้ทาง trees4allthailand.org รวมถึงติดตามข่าวสารเกี่ยวกับโครงการต้นไม้ของเรา (Trees4All) และโครงการอื่นๆ เพื่อคนกับป่าได้ที่เว็บไซต์รีคอฟ ประเทศไทย www.recoftc.org/thailand และเฟสบุ๊ครีคอฟ ประเทศไทย www.facebook.com/recoftcinThailand (รับชมบันทึกการถ่ายทอดสดงานเปิดตัวระบบติดตามต้นไม้ที่ fb.watch/jPkzNM8Ugd )