xs
xsm
sm
md
lg

ม.รังสิต จับมือเครือข่าย สสส. เชียงใหม่ สร้างความร่วมมือแบบหุ้นส่วนพัฒนาชุมชน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


(จากซ้าย) นายอนันต์ แสงบุญ ประธานภาคีเครือข่ายสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ จังหวัดเชียงใหม่ และผศ.ดร.นเรฏฐ์ พันธราธร รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยรังสิต
คณะกายภาพบำบัดและเวชศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยรังสิต  และศูนย์พัฒนาหลักหก มหาวิทยาลัยรังสิต ลงนามความร่วมมือทางการวิจัยและพัฒนา  กับภาคีเครือข่ายสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ จังหวัดเชียงใหม่ และเครือข่ายศูนย์บริการคนพิการภาคเหนือ 5 จังหวัด (เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำปาง แม่ฮ่องสอน)

ผศ.ดร.นเรฏฐ์ พันธราธร รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยรังสิต พร้อมด้วย ดร.วรชาติ เฉิดชมจันทร์ คณบดีคณะกายภาพบำบัดและเวชศาสตร์การกีฬา ร่วมลงนามความร่วมมือทางการวิจัยและพัฒนา ระหว่าง คณะกายภาพบำบัดและเวชศาสตร์การกีฬา และศูนย์พัฒนาหลักหก มหาวิทยาลัยรังสิต กับภาคีเครือข่ายสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
จังหวัดเชียงใหม่ และเครือข่ายศูนย์บริการคนพิการภาคเหนือ 5 จังหวัด (เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำปาง แม่ฮ่องสอน)

ผศ.ดร.นเรฏฐ์ กล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นการพัฒนาบุคลากรร่วมกันทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ รวมถึงความร่วมมือในการศึกษา วิจัย พัฒนา และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางด้านกายภาพบำบัดและวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อให้บุคลากรได้พัฒนาขีดความสามารถและนำองค์ความรู้ใหม่ไปใช้ประโยชน์ต่อนักศึกษา ผู้ป่วยและวงการสาธารณสุข ซึ่งเป็นการสร้างความร่วมมือแบบหุ้นส่วนในการพัฒนาชุมชนและศักยภาพของคนในชุมชน
โดยมีศูนย์บริการคนพิการตำบลชมภูและเครือข่ายศูนย์บริการคนพิการภาคเหนือ 5 จังหวัด(เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำปาง แม่ฮ่องสอน) รับเป็นสถานที่ฝึกประสบการณ์ให้แก่นักศึกษาคณะกายภาพบำบัดและเวชศาสตร์การกีฬา

“เรามีองค์ความรู้จริง เราทำวิจัยจริง แต่ที่ผ่านมาท่านคงได้ยินคำว่าวิจัยขึ้นหิ้ง แต่ในวันนี้สิ่งที่จะเกิดขึ้นเป็นมิติใหม่คือ ปัญหาที่แท้จริงจากสังคม ปัญหาที่อยากให้มหาวิทยาลัยรังสิตช่วยจะมาเป็นโจทย์ให้กับนักศึกษาของเรา ซึ่งเราจะได้สื่อสารกัน วันนี้ม.รังสิต จะมาเรียนรู้จากชุมชน เราอยากติดอาวุธทางวิชาการให้แก่ชุมชนและเดินไปพร้อมกัน” รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าว

ด้านนายอนันต์ แสงบุญ ประธานภาคีเครือข่ายสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า "รู้สึกดีใจและตื้นตันมาก เพราะว่าเวลาเราทำงานในชุมชน แม้ว่าเราจะมีความตั้งใจอย่างไรก็ตาม เรามีความรู้และทักษะที่จำกัด ซึ่งการที่เรามีความปรารถนาดีต่อคนพิการ แต่ด้วยทักษะความรู้ที่เรามีอย่างจำกัดอาจจะเป็นการซ้ำเติมให้กับความพิการของเขามากขึ้น"

"คิดว่าองค์ความรู้ที่จะได้รับในอนาคตกับงานให้บริการด้านการศึกษาและวิชาการของมหาวิทยาลัยรังสิต เป็นโอกาสที่จะเติมเต็มองค์ความรู้ พัฒนาศักยภาพให้กับจิตอาสาและชุมชน ซึ่งจะนำไปสู่การป้องกันความพิการให้กับประชาชนทั่วไปในอนาคตได้เป็นอย่างดี"