ลอรีอัล ได้รับการยกย่องในเรื่องความเป็นผู้นำด้านความโปร่งใสในการปฏิบัติงานและความยั่งยืนของภาคองค์กรธุรกิจจาก CDP เป็นเวลา 7 ปีติดต่อกัน โดยครองตำแหน่ง ‘A List’ ด้านการบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การจัดการเพื่อปกป้องความมั่นคงของแหล่งน้ำและป่าไม้ในปี 2565
ลอรีอัล เป็นเพียงบริษัทเดียวในโลกที่ได้คะแนน AAA เป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน จาก CDP ที่ผ่านมา ลอรีอัลมีการทำงานด้านความยั่งยืนอย่างยาวนาน และมีการตั้งเป้าหมายอย่างเข้มข้น โดยมีโปรแกรม L’Oréal for the Future ที่มุ่งให้กิจกรรมการดำเนินงานต่างๆ ของบริษัทลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยยึดหลักขีดจำกัดความปลอดภัยของโลก (Planetary Boundaries)
CDP เป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรด้านสิ่งแวดล้อมโลก ที่ได้รับการยอมรับในวงกว้างว่าเป็นมาตรฐานสูงสุดสำหรับการวัดความโปร่งใสด้านสิ่งแวดล้อมในภาคองค์กรธุรกิจ โดยจากฐานข้อมูลที่มีการรายงานผ่านแบบสอบถามด้านการบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การจัดการเพื่อปกป้องความมั่นคงของแหล่งน้ำและป่าไม้ ลอรีอัลเป็นหนึ่งใน 12 บริษัท ที่ได้คะแนน “AAA” จากทั้งหมด 15,000 บริษัทที่ได้รับการประเมิน
การเปิดเผยข้อมูลและกระบวนการให้คะแนนด้านสิ่งแวดล้อมประจำปีของ CDP นั้นถือว่าเป็นมาตรฐานอ้างอิงใช้วัดความโปร่งใสด้านสิ่งแวดล้อมขององค์กรธุรกิจ โดยในปี 2565 นักลงทุนกว่า 680 รายที่มีทรัพย์สินมูลค่ากว่า 130 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และผู้ซื้อรายใหญ่ 280 รายที่มีงบในการจัดซื้อวงเงิน 6.4 ล้านล้านดอลลาร์ ได้ขอให้บริษัทต่างๆ เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบ ความเสี่ยง และโอกาสด้านสิ่งแวดล้อมผ่านแพลตฟอร์มของ CDP โดยมีบริษัท 18,700 แห่งที่ตอบรับคำขอดังกล่าว นับเป็นจำนวนที่สูงเป็นประวัติการณ์
CDP ได้ประเมินบริษัทเหล่านี้ โดยให้คะแนน A ถึง D แบ่งเป็นด้านความครอบคลุมในเรื่องการเปิดเผยข้อมูล การสร้างความตระหนักรู้ และการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดที่เกี่ยวกับความเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การกำหนดเป้าหมายที่มุ่งมั่นและมีความหมาย บริษัทที่ไม่เปิดเผยข้อมูลหรือให้ข้อมูลไม่เพียงพอต่อการประเมินจะได้รับคะแนน F
นายนิโคลา ฮิโรนิมุส ซีอีโอ ลอรีอัล กรุ๊ป กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติมากที่เป็นบริษัทเดียวในโลกที่ได้คะแนน AAA จาก CDP มา 7 ปีติดต่อกัน ถือเป็นเครื่องยืนยันถึงพันธะสัญญาและความมุ่งมั่นของลอรีอัลที่จะทำให้ทุกการดำเนินงานของเราเคารพต่อขีดจำกัดของโลกภายในปี 2573 ในฐานะบริษัทความงามชั้นนำของโลก ผมเชื่อว่าเรามีหน้าที่ที่จะต้องก้าวนำเพื่อเป็นแบบอย่าง เราต้องยกระดับตัวเองเพื่อเร่งสร้างความเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับการขับเคลื่อนทุกๆ ส่วนของระบบนิเวศน์ทางธุรกิจของเราเพื่อตอบสนองกับความท้าทายด้านสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมที่เรากำลังเผชิญหนักขึ้นทุกๆ ปี ถ้าเราทำงานร่วมกัน เราสามารถสร้างความงามที่ขับเคลื่อนโลกได้”
ลอรีอัล กรุ๊ป ได้ตั้งเป้าหมายเพื่อความยั่งยืนสำหรับปี 2573 อันเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม L’Oréal for the Future โดยครอบคลุมแกนการดำเนินงานในสามส่วน ได้แก่การเปลี่ยนแปลงตนเอง สร้างพลังให้กับระบบนิเวศน์ทางธุรกิจของเรา และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาความท้าทายที่โลกต้องเผชิญ
นายแม็กซ์ฟิลด์ ไวซ์ กรรมการบริหาร CDP ยุโรป กล่าวว่า “สำหรับในปีนี้ เราจะเห็นได้ว่าบริษัทต่างๆ เกือบ 20,000 บริษัท ที่เปิดเผยข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมให้กับ CDP รวมถึง 70% ของบริษัทยุโรปเมื่อคิดจากมูลค่าตลาด การประชุม COP27 ทำให้เรามองเห็นว่าเรายิ่งจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ หากเรายังต้องการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส ดังนั้น ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เห็นว่าเกือบครึ่งของบริษัทจากทั่วโลกที่ได้รับคะแนนระดับ A เป็นบริษัทยุโรป ซึ่งรวมถึง 15 บริษัทที่ได้ AA และ 8 บริษัทที่ได้ AAA ด้านการเป็นผู้นำในเรื่องความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ การรักษาป่าไม้ และความมั่นคงทางน้ำ เราต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้อีกครึ่งหนึ่ง และยกเลิกการตัดไม้ทำลายป่าในปี 2573 ไปพร้อมๆ กับการสร้างความมั่นคงทางน้ำให้สำเร็จภายในกำหนดเวลาเดียวกัน หากปราศจากธรรมชาติ อาจจะไม่มีความสำเร็จในการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิให้ไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส
หลังจากมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่ของสหภาพยุโรป ที่กำหนดให้องค์กรขนาดใหญ่ทั้งหลายเผยแพร่รายงานการดำเนินงานที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม หรือ CSRD บริษัทที่ได้คะแนนระดับ A ของ CDP แสดงให้เราเห็นว่าพวกเขาก้าวนำหน้าไปขนาดไหน ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินการที่ชัดเจนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมไปทั้งห่วงโซ่มูลค่าของพวกเขา นี่คือการปฏิบัติงานและความโปร่งใสด้านสิ่งแวดล้อมที่เราต้องกระตุ้นให้เกิดทั้งระบบเศรษฐกิจ เพื่อป้องกันการล่มสลายของระบบนิเวศ”
สามารถดูรายชื่อบริษัททั้งหมดที่อยู่ใน A List ของ CDP ในปีนี้ รวมทั้งคะแนนของบริษัทที่สามารถเผยแพร่ต่อสาธารณชน ได้ที่ https://www.cdp.net/en/companies/companies-scores
ทั้งนี้ CDP เป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรระดับโลกที่ใช้ระบบการเปิดเผยข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมของโลกสำหรับบริษัท, เมือง, รัฐ และภูมิภาคต่างๆ นับตั้งแต่ที่ได้จัดตั้งขึ้นในปี 2543 และทำงานร่วมกับนักลงทุนกว่า 680 รายที่มีทรัพย์สินกว่า 130 ล้านล้านดอลลาร์ CDP ได้บุกเบิกในการใช้ตลาดทุน และการจัดซื้อของภาคเอกชนเพื่อจูงใจให้บริษัทต่างๆ เปิดเผยข้อมูลผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก, รักษาทรัพยากรน้ำ และปกป้องป่าไม้ องค์กรต่าง ๆ กว่า 20,000 แห่งทั่วโลกได้เปิดเผยข้อมูลผ่าน CDP ในปี 2565 ซึ่งรวมถึงบริษัทกว่า 18,700 แห่งที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดโลกคิดเป็นสัดส่วนกว่า 50% และเมือง, รัฐ และภูมิภาคต่างๆกว่า 1,100 แห่ง ด้วยการปฏิบัติตาม TCFD อย่างครบถ้วน
ดังนั้น CDP จึงมีฐานข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และคะแนนของ CDP ก็ถูกนำไปใช้ในวงกว้างเพื่อผลักดันให้เกิดการตัดสินใจด้านการลงทุน และการจัดซื้อเพื่อมุ่งสู่เศรษฐกิจที่ปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ มีความยั่งยืน และปรับตัวรับสภาพได้เร็ว ทั้งนี้ CDP เป็นสมาชิกผู้ก่อตั้ง Science Based Targets initiative, We Mean Business Coalition, The Investor Agenda และ the Net Zero Asset Managers initiative
สำหรับโปรแกรม "L’Oréal for the Future" ลอรีอัล กรุ๊ป ได้เปิดตัวโปรแกรมด้านความยั่งยืนชื่อว่า L’Oréal for the Future ในเดือนมิถุนายน 2563 ซึ่งยกระดับการทำงานเพื่อความยั่งยืน โดยลอรีอัลมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจที่ลดผลกระทบภายใต้ขีดจำกัดความปลอดภัยของโลก ด้วยการดำเนินงานเพื่อการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร เพื่อจำกัดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสภาพภูมิอากาศ น้ำ ความหลากหลายทางชีวภาพ และทรัพยากรธรรมชาติอันเนื่องมาจากกิจกรรมทั้งหมดของบริษัท นอกจากนี้ยังมีการทำงานในการจัดการกับผลกระทบที่เกิดขึ้นและเกี่ยวพันกับกิจกรรมของซัพพลายเออร์ และการใช้ผลิตภัณฑ์ของลูกค้าบริษัทด้วยเช่นกัน
ลอรีอัลตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของทุกขอบเขตลง 50% ต่อผลิตภัณฑ์ ภายในปี 2573 ในฐานะที่เป็นสมาชิกของโครงการ ‘Business Ambition for 1.5°C’ ลอรีอัล กรุ๊ปยังมีพันธกิจในเรื่องการลดการปล่อยก๊าซให้เหลือศูนย์ภายในปี 2593 โดยภายในปี 2568 โรงงานทุกแห่งของบริษัทจะต้องบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางด้านคาร์บอน ส่วนพันธสัญญาเชิงกลยุทธ์อื่น ๆ นั้น ลอรีอัลยังมีความมุ่งมั่นในเรื่องการรีไซเคิล และการนำทรัพยากรน้ำมาใช้งานซ้ำในกระบวนการทางอุตสาหกรรมทั้ง 100% ภายในปี 2573 ขณะที่ส่วนผสมทางชีวภาพทั้ง 100% สำหรับสูตรและวัสดุที่ใช้กับบรรจุภัณฑ์จะสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ และยังมาจากแหล่งที่ยั่งยืนภายในปลายทศวรรษนี้ และจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่า
นอกจากนี้ ลอรีอัลได้จัดสรรงบ 100 ล้านยูโรให้กับการลงทุนทางสังคมที่อุทิศให้กับการฟื้นฟู และการพัฒนาเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน เพื่อจัดการกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมที่เร่งด่วนของโลก และจัดสรรงบ 50 ล้านยูโรเป็นกองทุนเพื่อการกุศล เพื่อสนับสนุนกลุ่มสตรีที่เปราะบาง