xs
xsm
sm
md
lg

คพ.พบค่าน้ำทิ้ง กว่า 1,300 จุดทั่วกรุงเกินมาตรฐาน! จัดติวเข้มดูแลระบบบำบัดน้ำเสียให้ปฏิบัติตามกม.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จากปัญหาคุณภาพน้ำเสื่อมโทรมในคลองแสนแสบและคลองสาขา พื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาน้ำเสียอย่างยั่งยืน และเห็นชอบกับแผนหลักการพัฒนาฟื้นฟูสภาพแวดล้อมคลองแสนแสบ ระยะเวลา 11 ปี (พ.ศ.2564 - 2574)

โดยมาตรการที่สำคัญ คือ การกำกับให้แหล่งกำเนิดมลพิษที่จะต้องถูกควบคุมการปล่อยน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ หรือออกสู่สิ่งแวดล้อมปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อที่จะสามารถลดความสกปรกที่จะระบายจากแหล่งกำเนิดมลพิษลงสู่แหล่งน้ำ


นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่าช่วงที่ผ่านมา คพ. ได้ตรวจสอบน้ำทิ้งจากแหล่งกำเนิดมลพิษในพื้นที่กรุงเทพมหานครแล้ว กว่า 1,300 แห่ง พบว่า มีแหล่งกำเนิดมลพิษที่ค่าน้ำทิ้งไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กฎหมายกำหนดไว้สูงถึงร้อยละ 57.44 ส่วนใหญ่พบปัญหาระบบบำบัดน้ำเสียขาดการดูแลและบำรุงรักษาที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ และยังขาดความเข้าใจในการดำเนินการเกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำเสียให้ถูกต้องครบถ้วนตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535

นายปิ่นสักก์ ย้ำว่า "คพ.ได้บังคับใช้กฎหมายกับแหล่งกำเนิดมลพิษที่น้ำทิ้งมีค่าเกินมาตรฐาน โดยมีหนังสือคำสั่งให้ปรับปรุงแก้ไข ซ่อมแซมระบบบำบัดน้ำเสียภายในระยะเวลาที่กำหนด ในกรณีฝ่าฝืนจะดำเนินมาตรการปรับทางปกครองเป็นรายวัน และเพื่อให้การดำเนินงานแก้ไขปัญหาน้ำเสียให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและยั่งยืน จำเป็นอย่างยิ่งต้องอาศัยการบูรณาการสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้มีการจัดการน้ำเสียเป็นไปตามมาตรฐานก่อนระบายออกสู่สิ่งแวดล้อม เพื่อให้น้ำในแหล่งน้ำมีคุณภาพดีขึ้นเป็นไปตามมาตรฐานและเหมาะสมกับประเภทของการใช้ประโยชน์"




อย่างไรก็ตาม คพ. เล็งเห็นถึงความสำคัญในการอบรมพัฒนาขีดความสามารถผู้ดูแลระบบบำบัดน้ำเสียของแหล่งกำเนิดมลพิษ เพื่อเป็นการส่งเสริมแหล่งกำเนิดมลพิษ ให้สามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง ควบคู่กับการบังคับการทางกฎหมาย ล่าสุดได้จัดอบรมเพิ่มศักยภาพให้แก่แหล่งกำเนิดมลพิษที่มีผลคุณภาพน้ำทิ้งไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน มีผู้ดูแลระบบบำบัดน้ำเสียของแหล่งกำเนิดมลพิษประเภทโรงแรม อาคารชุด โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า และอาคารสำนักงาน โดยได้มอบหมายนายพิทยา ปราโมทย์วรพันธุ์ เป็นประธานเปิดการอบรม โดยมีผู้เข้าร่วมอบรม 250 คน ซึ่งจะเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่มีความสำคัญในการช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้แหล่งกำเนิดมลพิษและผู้ดูแลระบบบำบัดน้ำเสีย มีความเข้าใจในขั้นตอนการปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม และสามารถดูแลปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียให้ได้


กำลังโหลดความคิดเห็น