ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY) ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ในบริษัทกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental Social and Governance: ESG) จากการประเมินหลักทรัพย์จดทะเบียน ในปี พ.ศ.2565 โดยสถาบันไทยพัฒน์
นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY) เปิดเผยว่า สถาบันไทยพัฒน์ประกาศให้ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY) ติดอันดับ ESG100 ประจำปี 2565 ด้วยการคัดเลือกจาก 851 หลักทรัพย์จดทะเบียน ให้เป็นบริษัทที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และ ธรรมาภิบาล (ESG) ในกลุ่มธนาคาร (Banking) ในรอบการประเมินปี 2565 โดย BAYเป็นบริษัทที่เข้าอยู่ในทำเนียบ ESG100 Company ในปี 2558 เป็นปีแรก และ ปี 2560-2565 ในปีนี้บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับฯ เป็นปีที่ 7
“การที่ บริษัทฯ ได้รับคัดเลือกให้อยู่ในทำเนียบ ESG100 ในปีนี้ มาจากความมุ่งมั่นของกรุงศรี กรุ๊ป ในการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการธนาคารเพื่อความยั่งยืน โดยกรุงศรีได้ร่วมลงนามแสดงเจตจำนงรับหลักการธนาคารที่มีความรับผิดชอบ (PRB) และหลักปฏิบัติการลงทุนที่มีความรับผิดชอบ (PRI) ของสำนักงานโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติว่าด้วยข้อริเริ่มด้านการเงิน (UNEP FI) ในการผนวกกรอบการดำเนินงานด้านบรรษัทภิบาล เข้ากับกลยุทธ์ธุรกิจและการลงทุนของธนาคารเพื่อบรรลุเป้าหมายการธนาคารเพื่อความยั่งยืนที่ครอบคลุมมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมถึงสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDG) และข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Paris Climate Agreement) ”
ทั้งนี้ การจัดอันดับของสถาบันไทยพัฒน์ พิจารณาข้อมูลจากการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) และผลประกอบการของบริษัทควบคู่ไปพร้อมกัน
สำหรับสถาบันไทยพัฒน์ เป็นผู้ริเริ่มพัฒนาข้อมูลด้านความยั่งยืนของธุรกิจ ได้เปิดเผยรายชื่อหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้าน ESG จำนวน 100 บริษัท หรือที่เรียกว่ากลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 เป็นครั้งแรกในปี 2558 และได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนและดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่แปดในปีนี้
ขณะที่ การจัดอันดับบริษัทจดทะเบียนด้านการพัฒนาความยั่งยืนของธุรกิจนี้ ถือเป็นแหล่งข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียน เพื่อรองรับความต้องการของผู้ลงทุนที่ให้น้ำหนักการลงทุนในบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ และเป็นทางเลือกให้ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีคุณภาพและได้รับผลตอบแทนที่มิได้ด้อยไปกว่าการลงทุนในแบบทั่วไป