วันนี้ (17 ต.ค. 65) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมหารือความร่วมมือกับ นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน ซึ่งนโยบายหลักของ กทม. คือทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่าอยู่ และต้องดูแลเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญเนื่องจากเป็นหัวใจของเมือง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสร้างงาน การหารายได้ให้เมือง การนำภาษีมาบริหารจัดการเมือง และมีหน้าที่ในการบริหารประสิทธิภาพของเมืองให้ธุรกิจต่าง ๆ เดินหน้าต่อไปได้อย่างราบรื่น
นอกจากจะทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวที่สุดในโลกแล้ว ยังส่งเสริมให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่าลงทุนที่สุดอีกด้วย สุดท้ายแล้วกรุงเทพฯ จะเป็นศูนย์กลาง ที่มีทุกอย่างพร้อมในการประกอบธุรกิจ ซึ่งจะมีการหารือในกลุ่มย่อยเพื่อลงรายละเอียดความร่วมมือด้านต่าง ๆ ต่อไป
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในอนาคตได้ตั้งเป้าให้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของภูมิภาค เช่น การจัดประชุมนานาชาติ เพื่อนำการประชุมจากทั่วโลกให้มาจัดประชุมที่กรุงเทพฯ ซึ่งเรามีศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ที่เพิ่งปรับปรุงใหม่ พื้นที่กว่า 300,000 ตารางเมตร มีหอประชุมที่เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรีใกล้กับกรุงเทพฯ มีโรงแรมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและการประชุมกว่า 100,000 ห้อง รวมถึงมี Office Space อีกกว่า 10 ล้านตร.ม. พร้อมรองรับการจัดประชุมในธุรกิจไมซ์ (MICE) ซึ่งมีความสำคัญในการกระตุ้นและดึงบริษัทข้ามชาติเข้ามาลงทุนในกรุงเทพฯ อาทิ ธุรกิจ Jewelry ธุรกิจสร้างสรรค์ ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจ Creative Economy โดยให้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางธุรกิจได้ จึงเป็นที่มาของการหารือกับสมาคมฯ ในวันนี้ ซึ่งจะมีการหารือในกลุ่มย่อยเพื่อลงรายละเอียดความร่วมมือด้านต่าง ๆ ต่อไป
“เป้าหมายของเรา นอกจากจะทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวที่สุดในโลก เรายังส่งเสริมให้เป็นกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่าลงทุนที่สุดอีกด้วย สุดท้ายแล้วกรุงเทพฯจะเป็นศูนย์กลาง ที่มีทุกอย่างพร้อมในการประกอบธุรกิจ ซึ่งเราต้องร่วมมือกันและไว้ใจซึ่งกันและกัน เชื่อว่ากรุงเทพฯ จะทะยานขึ้นเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกในการประกอบธุรกิจได้อย่างแน่นอน” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
ด้านนายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน กล่าวว่า หอการค้าไทย-จีน ยินดีที่จะให้การสนับสนุนกิจกรรมของ กทม. เพื่อร่วมกันสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองทันสมัยมีความปลอดภัยน่าอยู่ แต่ยังคงรักษาศิลปวัฒนธรรมของชาติ ซึ่งจะทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีเสน่ห์สำหรับชาว กทม. และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยในปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่การระบาดของโควิด-19 มีความรุนแรง หอการค้าไทย-จีน ได้สนับสนุนการทำงานของ กทม. โดยการบริจาคเวชภัณฑ์ เพื่อนำไปช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และประชาชน จำนวน 4 ครั้ง คือ เมื่อวันที่ 17, 23 และ 30 เมษายน และวันที่ 7 พฤษภาคม และต่อมาเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2563 หอการค้าไทย-จีน ได้บริจาคพัดลมไฟฟ้าให้กับโรงเรียนต่าง ๆ ใน กทม. เพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้
โดยในปีนี้ พื้นที่กรุงเทพฯ หลายเขตประสบปัญหาน้ำท่วม ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบต่อการเดินทางและการใช้ชีวิตประจำวัน คณะกรรมการบริหารหอการค้าไทย-จีน เห็นชอบบริจาคถุงยังชีพจำนวน 5,000 ถุง มูลค่า 1,500,000 บาท เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมต่อไป โอกาสนี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวขอบคุณหอการค้าไทย-จีน ที่ให้การสนับสนุนถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือประชาชนด้วย