นายกรัฐมนตรีเป็นประธานมอบรางวัลการประกวด “บทเพลงเพื่อชาติและราชบัลลังก์” ชื่นชมการใช้บทเพลงเสริมสร้างความสามัคคีระหว่างคนในชาติ เป็นสื่อกลางแสดงออกซึ่งความรักในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อย่างเหมาะสม เป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการมอบรางวัลการประกวด “บทเพลงเพื่อชาติและราชบัลลังก์” โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และ นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าร่วม
สำหรับการประกวด ได้แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1) การแต่งเพลง 2) การร้องเพลง และ 3) วงดนตรี ใน 4 ระดับ คือ 1) ระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษาตอนต้น 2) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 3) ระดับอุดมศึกษาหรือเทียบเท่า และ 4) ระดับบุคคลทั่วไป ส่วนผู้เข้ารับรางวัลจากนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ เป็นผู้ชนะเลิศในแต่ละประเภทการแข่งขัน
นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดีกับผู้ชนะการประกวด “บทเพลงเพื่อชาติและราชบัลลังก์” และชื่นชมกับความสำเร็จของการจัดการประกวด ซึ่ง นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีและภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เห็นเยาวชน นิสิต นักศึกษา และประชาชน มีความรักในสถาบันชาติ ศาสนา และมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยใช้บทเพลงเป็นสื่อกลางในการแสดงออก เป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคมในการนำทักษะ ความสามารถมาใช้อย่างสร้างสรรค์ ทั้งด้านการแสดงดนตรี การขับร้อง และการแต่งเพลง เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมและชาติบ้านเมืองได้อย่างน่ายกย่อง
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณทุกคนที่รังสรรค์ผลงานที่น่าประทับใจ แสดงให้เห็นถึงความรักชาติและราชบัลลังก์ ด้วยการเรียงร้อยถ้อยคำเป็นบทกวีผ่านเครื่องดนตรี และขับร้องด้วยเสียงอันไพเราะ สะท้อนถึงความรักที่มีต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อย่างตั้งมั่น ซึ่งดนตรีนับเป็นสิ่งสร้างความบันเทิงที่นอกจากจะช่วยสร้างความรื่นรมย์และความสุนทรีย์ให้แก่ผู้รับฟังแล้ว ยังช่วยจรรโลงจิตใจ สร้างความปรองดองเป็นปึกแผ่น เกิดเป็นความรักความสามัคคีระหว่างคนในชาติ ดังบทพระราชนิพนธ์แปล ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ว่า “ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก”
แสดงให้เห็นว่าดนตรีเป็นสื่อกลางในการสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน ก่อเกิดเป็นสัมพันธ์อันดีระหว่างกันโดยไม่ต้องมีคำพูดใดใด โดยความร่วมมือของทุกคนที่เป็นกำลังสำคัญในการจัดงานนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการสร้างโอกาสและพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็ง มั่นคง และยั่งยืนในอนาคตต่อไป
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าดนตรีและเสียงเพลงเป็นสิ่งที่ทำให้โลกน่าอยู่ และขอให้คนไทยทุกคนมีความสามัคคี มีความรักซึ่งกันและกันเพื่อทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ และขอฝากประเทศไทยไว้ในมือของทุกคน พร้อมยืนยันจะทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีให้ดีที่สุด
สำหรับการประกวด “บทเพลงเพื่อชาติและราชบัลลังก์ ” เป็นกิจกรรมในโครงการเสริมสร้างความรักและความสามัคคี เพื่อใช้กระตุ้นปลูกฝังจิตสำนึกและปลูกฝังการรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ความรัก ความสามัคคี และการบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ รวมถึงเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้เยาวชน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ได้มีส่วนร่วมและแสดงความสามารถทางด้านการเล่นดนตรี การขับร้อง และการแต่งเพลง ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมพัฒนา สร้างสรรค์วงการเพลงและดนตรีให้เติบโตในทิศทางที่ดี ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญช่วยส่งเสริมสานต่อวงการดนตรีให้เจริญก้าวหน้าอย่างมีศักยภาพต่อไปในอนาคต และยังเป็นส่วนหนึ่งของ Soft Power อันจะเชื่อมโยงเศรษฐกิจ สังคม ชื่อเสียงของประเทศชาติต่อไปอีกด้วย