ศิลปากรจับมือหัวเว่ย สานฝัน! ส่งผลงานเด็กไทย เรื่องราวไทยๆ สู่สายตาชาวโลก

ความร่วมมือของหัวเว่ย แบรนด์ยักษ์ใหญ่ของโลก และคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร สู่การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะไทยๆ ผ่าน “ผืนผ้าใบดิจิทัล” ภายใต้โจทย์เดียวกัน เอาเรื่องวัด ตัวละครวรรณคดีไทย มาอยู่ในยุคปัจจุบัน แล้วนำมาผนวกรวมให้อยู่ใน concept เดียวกัน

เมื่อเด็กไทยสี่คนได้รับโอกาสจาก “HUAWEI” แบรนด์ยักษ์ใหญ่ของโลก ให้ร่วมสร้างสรรค์ผลงานศิลปะเพื่อจัดแสดงในงานระดับภูมิภาคและได้ไปอยู่ในคลังภาพที่คนทั่วโลกจะมองเห็นและดาวน์โหลดไปใช้ได้ นี่จึงเป็นความภาคภูมิใจของทุกคน ทั้งศิลปินเอง มหาวิทยาลัย หัวเว่ย รวมถึงคนไทย

แพร - กชพร อานันทนะ, เอญ่า - เอื้องอัญญากรณ์ หมั่นผลศรี, เปียโน - เกวลิน เวชกามา นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะมัณฑนศิลป์ สาขาออกแบบนิเทศศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และ ซัน - อาทิตย์ ผลทัต นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะมัณฑนศิลป์ สาขาออกแบบนิเทศศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร คือศิลปินทั้งสี่ชีวิตที่ได้ใช้ HUAWEI MatePad Pro 11-inch เนรมิตผลงานในโปรเจคนี้

ดร.ธนาทร เจียรกุล คณบดี คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่าคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาศิลปากร มีค่านิยมว่า “มัณฑนศิลป์เพื่อสังคม” เพราะฉะนั้นเมื่อสังคมมีโจทย์ว่าอยากให้ทำอะไร ส่วนใหญ่ก็จะสนับสนุน เพราะอยากสะท้อนให้เห็นว่าเราได้ทำอะไรเพื่อสังคมได้บ้าง โดยเฉพาะ นิเทศศิลป์ของศิลปากรต้องสร้างงานที่มีความเป็นไทยให้อยู่ในงาน แล้วยิ่งโจทย์มาเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทย จึงเป็นความน่าสนใจอย่างมาก


ต่างสไตล์แต่ใจไทยเหมือนกัน

โจทย์หลักๆ ที่พวกเขาทั้งสี่ได้มา ก็คือให้ใช้ Huawei MatePad Pro 11-inch มาออกแบบเรื่องราวและตัวละครให้สะท้อนความเป็นไทย ผสานความเป็นไทยให้เข้ากับเทคโนโลยี เพื่อโปรโมทศิลปะวัฒนธรรมไทย จึงออกมาโดยการใช้ตัวละครหลัก คือ รามเกียรติ์ เพราะว่าเป็นเอกลักษณ์ของไทย ตัวละครที่ชาวต่างชาติเห็นก็รู้ว่ามาจากประเทศไทย แต่นอกจากนั้น น้องๆ ก็ได้เพิ่มเติมตัวละครอื่น เช่น แก้วหน้าม้า ม้านิลมังกร และ ผีเสื้อสมุทรเข้าไปด้วย








Concept ของงานทั้ง 20 ชิ้น

เอาเรื่องวัด ตัวละครวรรณคดีไทย อยู่ในยุคปัจจุบัน มาผนวกรวมให้อยู่ใน concept เดียวกัน

เอญ่า - เอื้องอัญญากรณ์ หมั่นผลศรี เป็นแนวแบบ 3 มิติ สร้างงานอิงความเหมือนจริง มีแสงเงาเป็นโมเดลสามมิติ และใช้ตัวละครของไทยเข้ามาในเรื่องราวที่เป็นเส้นนูดเดิลซึ่งเป็นงานที่ถนัดของเขาเอง เล่าเรื่องราวด้วยรูปหนุมาน พาไปท่องเที่ยวจังหวัดยอดนิยมต่างๆ ในไทย เช่น พัทยา ภูเก็ต ผ่านลายนูดเดิ้ลอาร์ต ซึ่งทั้ง 5 ภาพจะสามารถนำมาต่อกันได้ทั้งหมด เป็นวงกลม

ซัน - อาทิตย์ ผลทัต เป็นแนวของการ์ตูนที่จะตัดทอนความจริง ทำให้เนื้อเรื่องมีความสนุกสนาน มีรอยยิ้ม แล้วเอาตัวละครไทยมาผสมผสานกับปัจจุบัน แล้วใส่เรื่องราวความเป็นปัจจุบันเข้าไป มีการเอาคาแรคเตอร์ทศกัณฑ์มาขับรถตุ๊กตุ๊กรอบวัดพระแก้ว เพื่อขาย element ของการท่องเที่ยวรอบกรุงเก่า ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในกรุงเทพฯ

เปียโน - เกวลิน เวชกามา เป็นแนวกราฟฟิคหน่อย เอาหัวโขนมาประยุกต์ เอาสถานที่เข้าไปบนหัวมีเสาชิงช้า มีวัดต่างๆ เข้าไป ผนวกกับตัวที่เป็นเศียรของรามเกียรติ์ของแต่ละตัว ชอบสีสันจึงวาดภาพออกมาแบบมีสีสัน และใส่ landmark ของจังหวัดท่องเที่ยวต่างๆ ลงไปในหัวหนุมาน และ มัจฉานุ เช่น ถ้าเล่าถึงภาคใต้ก็ใส่รูปทะเลเข้าไปบนหัวมัจฉานุด้วย พร้อมพวกเรือประมง ปลา ต่างๆ

แพร - กชพร อานันทนะ ผนวกอาหารเข้าไปในคอนเซ็ปต์ ซึ่งรวมของวรรณคดีไทยและเทคโนโลยีเข้ามาอยู่ในยุคปัจจุบันด้วยกัน ม้านิลมังกรที่มาอยู่ในตึกมหานคร ก็มีการรวมกัน ใส่พวกขนมไทยที่เป็น element ระหว่างการเปลี่ยนตัวขนมชั้นไปเป็นตึก ให้มีความสนุกสนาน แทรกพวกใบตองที่เป็นของไทยเข้าไป ในแต่ละรูปก็จะมี concept ที่แบบแทรกอาหารลงไปด้วย เป็นตัวละครในวรรณคดีไทย เช่น นางยักษ์พันทุรัตน์มาจากเสาชิงช้า มีเงาะป่าที่กำลังดูดชาเย็น ทุกอย่างจะเกิดขึ้นในบริบทเมืองไทยในยุคปัจจุบัน มีตุ๊กตุ๊กวิ่ง มีวินมอไซต์

HUAWEI MatePad Pro 11-inch กับการสร้างสรรค์ผลงานไทยไทยสู่สายตาชาวโลก

ใช้งานได้สะดวกสบาย ถือไปสร้างสรรค์ผลงานที่ไหนก็ได้ เพราะบางเบา พกพาสะดวก ในส่วนของปากกา HUAWEI M-Pencil 2nd generation ก็ใช้งานได้ลื่นไหน น้ำหนักที่กดลงไปก็สมจริงมาก ควบคุมความหนาบางของเส้นได้ ตอบโจทย์การสร้างผลงานแบบดิจิทัลมาก และยังมาพร้อมฟีเจอร์ที่ให้สามารถดูดสีมาจดโน้ตได้ด้วย Cross-App Color Capture ที่ใช้งานได้ใน HUAWEI Notes ดูดสีข้ามไปมา น่าประทับใจมาก เพราะสามารถเปิดแบ่งครึ่งหน้าจอได้อย่างอิสระกับแอปฯ อื่น เช่น เปิด google พร้อมใช้ HUAWEI Notes ในเวลาเดียวกัน เปิดหน้าจอพร้อมกันได้มากที่สุดถึง 4 หน้าจอ และยังถนอมสายตาเพราะ HUAWEI MatePad Pro 11-inch มาพร้อมฟังก์ชันถนอมสายตาให้ใช้งานได้ในที่แสงน้อยก็ไม่ปวดตา หลายๆ ครั้งที่ต้องทำงานข้ามคืน ก็ทำให้ไม่ปวดตาได้

ข้อดีของการสร้างสรรค์งานด้วยดิจิทัลอีกอย่างก็คือ ไม่ต้องมาเสียเวลาลบ มีรอยลบ แต่การทำงานบนแท็บเล็ต คือ ลบได้ทันที สะอาดตา ทุกอย่างเป็นระเบียบ นอกจากนั้นไม่ว่าเราจะมีไอเดียที่ไหน เพียงแค่เราถือแท็บเล็ตไปเพียงตัวเดียวก็สามารถหยิบมาสร้างผลงานได้ทันที

พูดได้ว่าเวทีนี้ ช่วยเปิดโอกาสให้ได้ถ่ายทอดเอกลักษณ์ความเป็นไทย ออกสู่ต่างประเทศ เปิดประตูสู่ต่างชาติ นอกจากนั้นยังเพิ่มประสบการณ์ให้เหล่านักศึกษาได้พัฒนาฝีมือตัวเองด้วยการสร้างสรรค์ผลงานผ่านผืนผ้าใบแบบดิจิทัล และนับเป็นความตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่เหล่านักศึกษานับเป็นกลุ่มแรกๆ ที่ได้สัมผัสเทคโนโลยีใหม่ๆ ในแท็บเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุด HUAWEI MatePad Pro 11-inch ก่อนใคร โดยฟีเจอร์ที่มากับตัวเครื่องก็ช่วยเข้ามาขยายศักยภาพของเราให้สร้างผลงานได้ดียิ่งกว่าเดิมด้วย

ที่ผ่านมาผลงานของน้องทั้ง 4 คน ได้แสดงออกสู่สายตาชาวโลกที่งานแถลงข่าว HUAWEI APAC Smart Office Launch 2022 ที่โชว์ผลงานน้องๆ คนละ 5 ชิ้น อยู่ที่ Thai Gallery โดยมีแขกและสื่อมวลชนจากหลายประเทศกว่า 1,000 คน ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค เข้าร่วมชมงาน และหลังจากงานผลงานของน้องๆ ก็ได้แชร์ลงใน HUAWEI
Thailand FaceBook Page

ถึงงาน “HUAWEI APAC Smart Office Launch 2022” จบแล้ว นอกจากทั่วโลกได้เห็นนวัตกรรมในผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของ “HUAWEI” ยังเป็นก้าวสำคัญบนความภาคภูมิใจของเด็กทั้งสี่คนที่เป็นตัวแทนคนไทยบอกให้โลกรับรู้ว่าฝีมือเด็กไทยเก่งไม่แพ้ใครในโลก

ความร่วมมือกับหัวเว่ยในครั้งนี้ นับว่าช่วยจุดประกายให้เด็กได้ใช้สื่อใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์ผลงาน อย่างน้อยที่สุดนักศึกษาก็มีโอกาสได้ทำความคุ้นเคยกับดีไวซ์ใหม่ๆ เพราะการออกแบบมักหนีไม่พ้นที่จะควบคู่กับเทคโนโลยีใหม่ๆ ครั้งนี้ก็เหมือนช่วยขยายขีดจำกัดแห่งความคิดสร้างสรรค์ให้นักศึกษาได้ และนับเป็นช่องทางให้เด็กได้รับรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ด้วย