การประชุมเสือโคร่งโลก (Tiger Summit) เมื่อปี พ.ศ. 2553 ณ นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สหพันธรัฐรัสเซีย กลุ่มประเทศที่มีการกระจายของเสือโคร่ง จำนวน 13 ประเทศ ได้แก่ ประเทศบังกลาเทศ ภูฏาน กัมพูชา จีน อินเดีย อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย พม่า เนปาล รัสเซีย เวียดนาม และประเทศไทย ได้ร่วมกันกำหนดให้วันที่ 29 กรกฎาคมของทุกปีเป็น “วันอนุรักษ์เสือโคร่งโลก” Global Tiger Day
จนถึงวันนี้ หลายคนอาจจะมีข้อสงสัย เรื่องการตั้งชื่อของเสือโคร่ง ที่นักวิจัยเสือเขาเรียกนั้นมีที่มาอย่างไร และสำคัญขนาดไหน!
เสือโคร่งที่มีการใส่ปลอกคอเพื่อศึกษานั้น สังเกตได้ว่าจะมีชื่อให้เรียก โดยมีที่มาหลักๆ สองทาง คือ มาจากเหตุการณ์ เช่น เต็มจันทร์ เป็นสุข ปกปัก สืบสาน สานสืบ และมาจากชื่อบุคคล เช่น รตยา บุบผา สิทธิ์ตรี พิไล ทองอารีย์ สีฟ้า ตวงรัตน์ ชุมพล อุทิศ ชัชวาลย์ นรสาร ล้วนเป็นชื่อที่มีความหมายที่สื่อถึงการทำงานด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่า เป็นทั้งผู้ลงมือปฏิบัติเอง หรือเป็นผู้ประสาทวิชาความรู้อันนำไปเป็นหลักสู่การลงมือทำจริง ชื่อจึงถูกใช้กับเสือโคร่งเต็มวัยที่มีถิ่นหากินแน่นอนแล้ว
ในการดำเนินชีวิตของเสือโคร่งเจ้าถิ่นที่มักมีความชัดเจนและเสถียร นั้นก็สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตของบุคคลที่ผ่านการเติบโตพร้อมด้วยประสบการณ์ตามเวลาที่ก้าวผ่านมา นอกจากพฤติกรรมที่ได้ค้นพบจากการวิจัยแล้ว เรายังมีการแอบแปลผลจากพฤติกรรมเป็น นิสัย จนได้พบว่านิสัยของเสือบางตัวก็มีความละม้ายคล้ายกับนิสัยเจ้าของชื่อเช่น บุบผา ผู้ไม่ยอมใคร
เสือ รุ้งนภา จุ๊บแจง สมหญิง วีรยา อภิญญา วีระพงศ์ วิจิตร เธียร ล้วนเป็นเสือที่อยู่ในช่วงก่อนโตเต็มวัยเมื่อครั้งเจอะเจอกับนักวิจัย ซึ่งอนาคตของพวกมันเหล่านั้นก็ยังไม่อาจคาดการณ์ได้ เช่นเดียวกับที่มาของชื่อที่เป็นกลุ่มคนสาว หนุ่ม ที่เพิ่งก้าวเท้าเข้าสู่สายการทำงานทั้งด้านอนุรักษ์และวิจัย ที่สำคัญทุกชื่อที่นำมาใช้เรียกขานเสือ ณ ขณะนั้น คือ อยู่สถานะโสด
วันเวลาที่คล้อยเคลื่อนไปทำให้เสือโคร่งที่มีสถานะ โสด ในครั้งกระโน้นบางตัวได้เลื่อนตำแหน่งเป็น แม่ เช่น รุ้งนภา จุ๊บแจง วีรยา แต่เมื่อเหลียวมองมาที่เจ้าของชื่อ อ้าว! อย่าว่าแต่ตำแหน่งแม่เลย ตำแหน่งคุณแควน ยังแขวนอยู่ไกลมาก
เพราะว่า พวกมนุษย์สาวเจ้าของชื่อทั้งหลายนั้นเชื่อว่าตัวเอง สวยเลือกได้ จึงรอและขอเลือกยาวๆ ไป ก็แค่แม่รุ้งมีลูกมาแล้วสี่ครอก จุ๊บแจงอย่างน้อยสามครอก เสืออภิญญาอ่อยติดทั้งพงศกรและศิริ ส่วนคนเจ้าของชื่อนั้น...
อย่างไรก็ดี ก็ยังมีเสือพวกที่หลุดพ้นจาก “ก่อนโตเต็มวัย” ไปเป็น “พวกดาวดับ” เช่น เสือสมหญิง เสือวีระพงศ์ ซึ่งวิถีชีวิตดังกล่าวตรงกันข้ามกับเจ้าของชื่อที่มีชีวิตการงานโชติช่วงอยู่บนเส้นทางอนุรักษ์แต่ยังคงคอนเซปต์ “โสด” ได้สอดคล้องกับที่มาของชื่อ
คงรู้กันแล้ว ว่าในการกำหนดชื่อให้มีความเหมาะสมกับเสือโคร่งแต่ละตัว ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเสือวัยรุ่น ที่หากคาดการณ์จะให้ชีวิตเสือและคนสอดคล้องกันคือ งานรุ่งโรจน์ ชีวิตคู่รุ่งเรือง ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ เพราะนอกจากตั้งชื่อเสือโคร่งแล้ว นุดวิจัยเค้าคงต้องเปิดบริษัทจัดหาคู่ให้เจ้าของชื่อด้วยกระมัง
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยังได้นำข้อมูลเรื่องไม่ลับฉบับนักวิจัย ที่มาของการตั้งชื่อเสือโคร่งผืนป่าห้วยขาแข้ง
การตั้งชื่อเสือโคร่งของทีมวิจัย แรกทีเดียวใช้ระบบตัวอักษร และตัวเลขลำดับ เช่น T5, T6 ต่อมา ก็ใช้วิธีกำกับด้วยรหัสพื้นที่ เช่น HKK 212 คือ บุบผา ซึ่งอยู่ที่ห้วยขาแข้ง TYE หรือ TYW ก็หมายถึงเสือโคร่งที่พบที่ทุ่งใหญ่ตะวันออก หรือทุ่งใหญ่ตะวันตก
แต่อะไร ที่เป็นรหัส มันดูแข็งกระด้างไม่ชวนรู้จัก ชื่อที่ใช้สื่อสารได้ดีกว่า น่าจะเป็นชื่อตามบุคคล จึงตั้งตัวเด่นๆ จากบุคคลที่ระลึกถึง เช่น สิทธิตรี มาจากชื่อปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมผู้ล่วงลับ ปลัดศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช
ส่วนบุบผา ก็มาจากนักวิจัยอาวุโส รตยา อุทิศ ชัชวาลย์ พิไล สืบสาน สานสืบ ล้วนเป็นบุคคลที่มีคุณูปการต่องานอนุรักษ์ หรือวิชาการในบ้านเรา
“แต่จะบอกว่าเลือกเฉพาะผู้อาวุโส ก็ยังมีรุ่นเยาว์อย่างวีระยา ลงมาจนถึง รุ้งนภา วีระพงศ์ ไปจนถึงสันต์ภพ รวมถึงเสือวิจิตร เสือโคร่งรหัส HKT271 จากผืนป่าห้วยขาแข้ง ก็มาจากทีมวิจัย”
นอกจากนี้ยังไม่เลือกเฉพาะชื่อบุคคลในแวดวงอนุรักษ์ ก็ยังมีชื่ออย่างกุดจี่ หรือ กุ๊ดจี่ โบ๊ต ข้าวจี่ เอื้อง สีฟ้า ซึ่งมาจากชื่อลูกเจ้าหน้าที่บ้าง จากลักษณะภายนอกที่เห็นบ้าง
สรุปได้ว่า หลักในการ “ตั้งชื่อ” เสือโคร่งในป่านี้ สรุปไม่ค่อยได้ เพราะนอกจากรหัสกำกับที่คนทั่วไปคงไม่มีใครจำได้แล้ว ส่วนใหญ่ทั้งหมดมาจากบุคคล "อันเป็นที่รัก" และอยู่ในแวดวงแห่งชีวิตของผู้ตั้ง
ชื่อเหล่านี้จึงตั้งเพื่อเป็นเกียรติด้วย แต่ก็ตั้งเพื่อให้ระลึกถึงบ้างเหมือนกัน แต่เหนืออื่นใด ตั้งไว้ด้วยความรักทั้งสิ้น
ข้อมูลอ้างอิง Thailand Tiger Project DNP