สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์การอนุญาตให้เสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชน (IPO) เกี่ยวกับการกำหนดคุณสมบัติของบริษัทให้ชัดเจนเรื่องการไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้หลักเกณฑ์เป็นไปตามเจตนารมณ์ และบริษัทสามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในปัจจุบันหลักเกณฑ์การอนุญาตให้เสนอขายหุ้น IPO กำหนดคุณสมบัติของบริษัทที่จะได้รับอนุญาตว่า ต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นถ้อยคำที่ค่อนข้างกว้างและไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของหลักเกณฑ์ที่ไม่ต้องการจะรวมถึงกรณีการกระทำผิดกฎหมายที่ไม่มีนัยสำคัญ หรือไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับธุรกิจหลักของบริษัท ทำให้บริษัทต้องดำเนินการแก้ไขในเรื่องดังกล่าวก่อนที่จะได้รับอนุญาตและอาจทำให้เกิดความล่าช้าในการระดมทุนและเสียโอกาสทางธุรกิจ
ก.ล.ต. จึงมีแนวคิดจะปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำหนดคุณสมบัติของบริษัทในเรื่องการไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายให้มีความชัดเจน และให้สอดคล้องกับเกณฑ์การเสนอขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ ตามที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนมีมติเห็นชอบในการประชุม ครั้งที่ 13/2564 เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564โดยสรุป ดังนี้
(1) ปรับปรุงถ้อยคำเกี่ยวกับการกำหนดคุณสมบัติของบริษัทที่ขออนุญาตเสนอขายหุ้น IPO ในเรื่องการไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายให้ชัดเจน โดยไม่รวมถึงความผิดในเรื่องที่ไม่มีนัยสำคัญ หรือความผิดที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับธุรกิจหลักของบริษัท ทั้งนี้ การประกอบธุรกิจของบริษัทผู้ขออนุญาตต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างร้ายแรง เช่น การค้ามนุษย์ การผลิตหรือจำหน่ายยาเสพติด หรือการฟอกเงิน เป็นต้น และต้องไม่มีการดำเนินงานที่เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายซึ่งอาจเป็นเหตุให้ธุรกิจของบริษัทได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรงและมีนัยสำคัญ
(2) ให้อำนาจ ก.ล.ต. ในการกำหนดแนวทาง (guideline) ในรายละเอียดเกี่ยวกับการพิจารณากรณีที่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างร้ายแรง หรือมีผลกระทบอย่างร้ายแรงและมีนัยสำคัญได้
นอกจากนี้ การปรับปรุงเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้น จะมีขอบเขตการบังคับใช้กับทั้งบริษัทไทยและบริษัทต่างประเทศที่เสนอขายแบบ primary listing* และ secondary listing**
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=812 ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง e-mail : corporat@sec.or.th จนถึงวันที่ 9 กรกฎาคม 2565
ในปัจจุบันหลักเกณฑ์การอนุญาตให้เสนอขายหุ้น IPO กำหนดคุณสมบัติของบริษัทที่จะได้รับอนุญาตว่า ต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นถ้อยคำที่ค่อนข้างกว้างและไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของหลักเกณฑ์ที่ไม่ต้องการจะรวมถึงกรณีการกระทำผิดกฎหมายที่ไม่มีนัยสำคัญ หรือไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับธุรกิจหลักของบริษัท ทำให้บริษัทต้องดำเนินการแก้ไขในเรื่องดังกล่าวก่อนที่จะได้รับอนุญาตและอาจทำให้เกิดความล่าช้าในการระดมทุนและเสียโอกาสทางธุรกิจ
ก.ล.ต. จึงมีแนวคิดจะปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำหนดคุณสมบัติของบริษัทในเรื่องการไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายให้มีความชัดเจน และให้สอดคล้องกับเกณฑ์การเสนอขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ ตามที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนมีมติเห็นชอบในการประชุม ครั้งที่ 13/2564 เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564โดยสรุป ดังนี้
(1) ปรับปรุงถ้อยคำเกี่ยวกับการกำหนดคุณสมบัติของบริษัทที่ขออนุญาตเสนอขายหุ้น IPO ในเรื่องการไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายให้ชัดเจน โดยไม่รวมถึงความผิดในเรื่องที่ไม่มีนัยสำคัญ หรือความผิดที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับธุรกิจหลักของบริษัท ทั้งนี้ การประกอบธุรกิจของบริษัทผู้ขออนุญาตต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างร้ายแรง เช่น การค้ามนุษย์ การผลิตหรือจำหน่ายยาเสพติด หรือการฟอกเงิน เป็นต้น และต้องไม่มีการดำเนินงานที่เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายซึ่งอาจเป็นเหตุให้ธุรกิจของบริษัทได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรงและมีนัยสำคัญ
(2) ให้อำนาจ ก.ล.ต. ในการกำหนดแนวทาง (guideline) ในรายละเอียดเกี่ยวกับการพิจารณากรณีที่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างร้ายแรง หรือมีผลกระทบอย่างร้ายแรงและมีนัยสำคัญได้
นอกจากนี้ การปรับปรุงเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้น จะมีขอบเขตการบังคับใช้กับทั้งบริษัทไทยและบริษัทต่างประเทศที่เสนอขายแบบ primary listing* และ secondary listing**
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=812 ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง e-mail : corporat@sec.or.th จนถึงวันที่ 9 กรกฎาคม 2565