โดฟ สานต่อแคมเปญ#LetHerGrow เปิดเวทีเสวนาระดมความคิด ในหัวข้อ “Dove#LetHerGrow : สร้างอนาคตให้เด็กไทย เติบโตในแบบที่ดีที่สุดของตัวเอง” เพื่อรณรงค์ยุติกฎการลงโทษตัดผมนักเรียน ซึ่งกฎระเบียบเหล่านี้ได้ส่งผลกระทบมากกว่าแค่ผมของนักเรียน แต่ยังส่งผลให้นักเรียนสูญเสียความมั่นใจในตนเอง โดย โดฟ เล็งเห็นและมุ่งมั่นที่จะให้ผู้คนสร้างคุณค่าความงาม คือ การมีความมั่นใจในตัวเองและการมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
งานเสวนาในครั้งนี้ จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมถึงการร่วมหาทางออกอย่างสร้างสรรค์ผ่านตัวแทนของแต่ละภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ดร.นิพนธ์ ก้องเวหา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงทิศทางและแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับกฎระเบียบในโรงเรียน เพื่อสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในสังคม นางสาวผกาฉัตร เตชาบูรพานนท์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายพัฒนาตลาด ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคล กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์โดฟ ในฐานะแบรนด์ที่ริเริ่มแคมเปญ #LetHerGrow ผศ.พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น เจ้าของเพจ “เลี้ยงลูกนอกบ้าน” ร่วมนำเสนอมุมมอง จากผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กและวัยรุ่น ดร.กัลยารัตน์ เมธีวีรวงศ์ ประธานฝ่ายการฝึกอบรม สมาคม ผู้บำเพ็ญประโยชน์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ร่วมแชร์มุมมอง ในฐานะหน่วยงานที่ทำงานใกล้ชิดกับครูและโรงเรียน และนางสาวซาร่า-รัศมี สท๊วต นักแสดงในแคมเปญโฆษณา Dove#LetHerGrow ผู้มีประสบการณ์ร่วมจากการโดนบังคับตัดผม และในฐานะตัวแทนเยาวชน ร่วมแชร์ประสบการณ์ต่อกฎการลงโทษตัดผมนักเรียน
นางสาวผกาฉัตร เตชาบูรพานนท์ รองประธานกรรมการบริหารฝ่ายพัฒนาตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคล กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์โดฟ กล่าวว่า “หลังจากที่โดฟ ได้เปิดตัววิดีโอแคมเปญ #LetHerGrow ได้เกิดกระแสการพูดถึงในเชิงบวกอย่างมากในโซเซียล มีเดีย นอกจากนี้ ยังมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากประเด็นกฎการลงโทษตัดผมเด็กนักเรียนอีกมากมาย โดฟ ไม่ได้หยุดอยู่แค่การสร้างความตระหนักนี้เท่านั้น แต่เรายังมองหาแนวทางแก้ไข ปัญหานี้อย่างจริงจัง เพื่อสร้างอนาคตที่ช่วยให้เด็กนักเรียนไทยทั่วประเทศได้เติบโตขึ้นในแบบที่ดีที่สุดของพวกเขา เราจึงเป็นสื่อกลาง จัดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมหาทางออกที่ดีที่สุดร่วมกัน เพื่อเด็กๆ ของเรา โดยเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า มุมมองและความเห็นที่เกิดจากงานเสวนาในครั้งนี้ จะเป็นแนวทางในการช่วยให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในภาคส่วนต่าง ๆ มองเห็นว่ากฎระเบียบดังกล่าวไม่ได้ลดทอนแค่ความยาวของเส้นผมของเด็กนักเรียน แต่ลดทอดความมั่นใจและตัวตนของพวกเขาอีกด้วย”
“ในระยะยาว โดย โดฟ จะมีการขับเคลื่อนประเด็นนี้ อย่างต่อเนื่อง เป็นระยะเวลา 3 ปี ผ่านกองทุน Growth Fund (เดอะ โกรธ์ ฟันด์) จำนวน 10,000,000 บาท เพื่อใช้ในงานศึกษาวิจัย การให้ความรู้ผ่านผู้เชี่ยวชาญจากสาขาต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และการทำงานร่วมกับโรงเรียนและนักการศึกษา อีกด้วย” นางสาวผกาฉัตร กล่าวทิ้งท้าย