สมาคมเกษตรกร ๗๗ จังหวัด รวมพลังเกษตรกรไทย จับมือ 2 แกนนำด้านเกษตร สมาพันธ์เครือข่ายชาวนาไทย และสมาคมผู้เพาะเลีย้งสัตว์น้ำไทย ผนึก 2 สถาบันวิชาการแถวหน้าของประเทศวอนสื่อมวลชนร่วมขับเคลื่อน ผลักดันประเทศไทยเป็นครัวโลก
พันเอกสกล กันโอภาส นายกสมาคม ๗๗ จังหวัด สมาคมฯที่จัดตั้งขึนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไทย ทั้งภาคองค์ความรู้ทางวิชาการ การแปรรูป การลดต้นทุน การเข้าถึงแหล่งทุน และส่งเสริมช่องทางการขายกับเครือข่าภาคีทั้งในและต่างประเทศ จับมือสมาพันธ์เครือข่ายชาวนาไทย โดยมี ดร .ปัญญา จุลอำพันธ์ เลขาธิการสมาพันธ์เครือข่ายชาวนาไทย และสมาคมผู้เพาะเลี ้ยงสัตว์น้ำไทย โดยมี นายประกอบ ทรัพย์ยอดแก้ว นายกสมาคมผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย ผนึกสถาบันค้นคว้า และพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสถาบันวิจัยและพัฒนายุทธศาสตร์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมหนุนประเทศไทยเป็นครัวโลก
พันเอกสกล กันโอภาส นายกสมาคม ๗๗ จังหวัด เผยวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสมาคมฯ ว่า “วิกฤตไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดไปทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อหลากหลายอุตสาหกรรมอาชีพ ทั้งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ธุรกิจโรงแรม และบริการ แต่เกษตรกรเป็นอาชีพเดียวที่นอกจากไม่ส่งกระทบต่อการดำรงชีวิตแบบพอเพียงแล้ว ยังมีพลังมากพอจะช่วยพยุงวิกฤตชาติ สร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน จากต้นทุนที่ประเทศไทยมีด้วย
“แต่รูปแบบการช่วยเหลือเกษตรกรต้องเปลี่ยนไปจากเดิม กล่าวคือ เราต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกร
ทั่วประเทศ อาทิ เชื่อมโยงสินค้าเกษตรกับผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้เกษตรกรหลุดพ้นจากความ
ยากจน
“ที่สำคัญในวิกฤตอาหารโลกที่กำลังจะมาถึงนี้ เราควรเร่งน้อมนำพระราชประสงค์พระบาทสมเด็จพระบรมชน
กาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย ที่ทรงวางรากฐานให้
เมืองไทยก้าวสู่ครัวโลก มาเป็นแนวทางในการดำเนินการควบคู่ไปกับการสร้างกลไกรองรับเกษตรกรสูงวัย
พร้อมพัฒนาเกษตรกรรุ่นเยาว์ทดแทนเพื่อหาหลักประกันในอาชีพ นี่คือโอกาสทองของเมือง ที่จะเป็นครัวโลก”
ดร.ปัญญา จุลอำพันธ์ เลขาธิการสมาพันธ์เครือข่ายชาวนาไทย กล่างถึงโอกาสทองของไทยในการเป็ นครัวโลก
ว่า “ประเทศไทยมีโอกาสพอๆกับเวียดนาม เพราะเรามีสินค้าเกษตรด้านอาหารคล้ายๆกัน ปัจจุบันมีหลาย
ประเทศทั่วโลก เริ่มกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ภัยสงครามระหว่างประเทศ รวมถึงภัยจาก
ธรรมชาติที่พร้อมกับปัญหาโลกร้อน
องค์กรต่างประเทศ เริ่มเข้ามาติดต่อเพื่อประสานความร่วมมือในการรับวิกฤตต่างๆที่กำลังจะเกิดขึ้นทั้งใน
รูปแบบรัฐต่อรัฐ และรัฐกับองค์กรต้นน้ำที่เป็นผู้ผลิตจากประเทศที่มีศักยภาพในการแข่งขัน เพื่อช่วงชิงการเป็น
ศูนย์กลางคลังอาหารโลกในภูมิภาคนี้ ซึ่งก็มีทั้งประเทศไทย เวียดนาม และจีน ซึ่งอาจใช้ลาว หรือกัมพูชาเป็น
ฐานดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม รัฐต้องเข้าใจถึงศักยภาพของประเทศ และความต้องการอาหารของตลาดโลก โดยต้องร่วมมือกับ
ทุกภาคส่วน ประเทศไทยเรามีคนไทยที่เก่ง และมีความสามารถ แต่ยังขาด การสนับสนุน ช่วยเหลือจากภาครัฐ
อีกมากมายครับ”
รศ. ดร. รังสรรค์ เนียมสนิท ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยุทธศาสตร์ และประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวยืนยันว่า “ประเทศไทยเป็นครัวโลกได้แน่นอน ถ้าภาครัฐเอกชน และประชาชนร่วมมือกัน เพราะเราเป็นประเทศเดียวที่ส่งออกอาหารตลอดทั้งปี และส่งต่อเนื่องยาวนานหลายปี เกษตรกรไทยเราเก่ง ภูมิประเทศก็มีความเหมาะสมทำให้เรามีความหลากหลายทางด้านอาหาร ที่สำคัญรัฐบาลให้การสนับสนุนมาโดยตลอด เราจึงควรใช้วิกฤตอาหารโลกสร้างความแข็งแกร่งทางด้านอาหารให้กับประเทศ
“เรื่องนี้รัฐบาลต้องให้การสนับสนุนอย่างจริงจัง และต่อเนื่องที่สำคัญต้องมีแผนและเป้าหมายที่ชัดเจนเน้นผลลัพธ์ มีกลยุทธ์การปฏิบัติอย่างจริงจัง มีงบประมาณเพียงพอ และต่อเนื่อง อาทิ เพิ่มบทบาทครัวไทย เพิ่มพ่อครัวแม่ครัว เพิ่มการฝึกอบรม การวิจัยนวัตกรรมอาหาร รวมถึงเพิ่มการบุกตลาดการเจาะประเทศกลุ่มเป้าหมายการทำให้ครัวไทยเป็นครัวโลกเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ทั้งภาครัฐ และเอกชน ถ้าเราสร้างโอกาสในวิกฤตอาหารโลกสำเร็จ ประเทศไทยจะมั่นคงมั่งคั่ง และยั่งยืนแน่นอน” รศ. ดร. รังสรรค์ กล่าวย้ำ
ขณะที่ ดร.พิศมัย ศรีชาเยช ผู้อำนวยการสถาบันค้นคว้า และพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พูดถึงประเด็นเดียวกันนี้ว่า “การแปรรูปสินค้าเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากสินค้าเกษตร โดยเฉพาะผัก และผลไม้มีอายุการเก็บรักษาสั้น
การนำมาแปรรูป นอกจากจะลดความเน่าเสียแล้วยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้สินค้าเกษตรกรได้ด้วย
“หากมีการพัฒนากระบวนการการควบคุมคุณภาพ และเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม ก็ยิ่งจะท าให้ผลิตภัณฑ์มีอายุการเก็บรักษาเพิ่มขึ ้น นั่นท าให้สินค้าเกษตรของไทยสามารถส่งจ าหน่ายได้ทั้งในตลาดทั้งใน และต่างประเทศครับ”ดร.พิศมัย กล่าว
สุดท้าย ประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรแห่งชาติ เผยว่า “รู้สึกยินดีกับสมาคมที่เกษตรกรร่วมกันก่อตงั้ขนึ้ ความร่วมแรงร่วมใจของเกษตรกร คือพลังที่ยิ่งใหญ่ ที่พาไทยไปสู่ความมั่นคงทางด้านอาหารและประสบความสาเร็จในการเป็นครัวโลก ความสำเร็จนี้ไม่เพียงนำความอยู่ดีกินดีมาสู่พี่น้องเกษตรกรเท่านั้น แต่ยังส่งผลช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากความขาดแคลนอาหารของประชากรโลกและช่วยพยุงวิกฤตชาติได้ด้วยครับ