“บ้านปู” ในฐานะผู้นำด้านพลังงานระดับนานาชาติ เผยความสำเร็จในการบริหารคนบนความหลากหลาย และความท้าทาย ตามแนวคิด “People Focus” ด้วย 5 กลยุทธ์ในการบริหารทรัพยากรบุคคล ภายใต้กลยุทธ์ Greener & Smarter เพื่อบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนด้านพลังงาน และเสริมสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจให้แข็งแกร่งเติบโตอย่างมั่นคง
วิธพล เจาะจิตต์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-ทรัพยากรมนุษย์ (Head of Human Resources) บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความสำเร็จในการบริหารคนบนความหลากหลาย และความท้าทายในการรวมความแตกต่างให้เป็นหนึ่งเดียวว่า บ้านปูในฐานะผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ (International Versatile Energy Provider) เชื่อมั่นว่า “พนักงาน” คือ หัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน โดยมีวัฒนธรรมองคก์ร “บ้านปูฮาร์ท” (Banpu Heart) เป็นสิ่งเชื่อมโยงและหลอมรวมทุกความต่าง และใช้แนวคิด “People Focus” เพื่อสร้างความสำเร็จในการบริหารคน ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจด้วยแนวคิด “Smarter Energy for the Future” เพื่อเพิ่มอัตราเร่งเปลี่ยนผ่านธุรกิจ (Banpu Transformation) ภายใต้กลยุทธ์ Greener & Smarter ให้บรรลุเป้าหมายความยั่งยืนด้านพลังงาน และเสริมสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจให้แข็งแกร่งเพื่อการเติบโตอย่างมั่นคง
“บ้านปูมีธุรกิจอยู่ใน 10 ประเทศ จึงทำให้คนบ้านปูมีความหลากหลายสูง ทั้งในเรื่องของเชื้อชาติ วัฒนธรรม ช่วงวัยและประสบการณ์ต่างๆ ซึ่งบ้านปูนำเอาหลัก Diversity & Inclusion เข้ามาบริหารจัดการเพื่อผนวกความหลากหลายให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน บนพื้นฐานของการเปิดกว้างและความเคารพ เพื่อให้เกิดความเข้าใจร่วมกัน”
วิธพล กล่าวอีกว่า การบริหารจัดการพนักงานใช้แนวคิด People-Focused Organization ที่ให้ความสำคัญกับ “คน” เป็นหัวใจหลักขององค์กร และมีการวาง 5 กลยุทธ์ในการบริหารทรัพยากรบุคคล ประกอบด้วย
1.Respect Diversity: มุ่งเน้นกระบวนการ Decentralization เพื่อ Empower แก่ HR ในแต่ละประเทศสามารถบริหารจัดการคนในแต่ละประเทศได้
2.Global Talent Management: เปิดโอกาสให้ทุกคนในองค์กรได้แสดงความสามารถและศักยภาพของตนเอง อยู่ตรงไหนก็สามารถโดดเด่นได้
3.Banpu Academy: บ้านปูอยู่ในช่วง Banpu Transformation ดังนั้น การ Upskill และ Reskill ของคนสำคัญมาก เพราะบ้านปูเลือกให้ความสำคัญที่ คน เป็นหลัก เราไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังแต่จะเดินไปพร้อมๆ กัน Banpu Academy จึงเป็นการถ่ายทอดความรู้จากพี่สู่น้อง สร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ ให้คนบ้านปูได้เข้ามาพัฒนาตัวเอง
4.Global Career Path: บ้านปูมีธุรกิจอยู่ใน 10 ประเทศ จึงมีการเปิดโอกาสให้พนักงานที่มีศักยภาพสามารถหมุนเวียนไปปฏิบัติงานในต่างประเทศเพื่อเสริมประสบการณ์ และสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการเติบโต
และ 5.Coaching Culture: วัฒนธรรมพี่สอนน้อง ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์จริงจากรุ่นพี่ที่มากประสบการณ์ สู่รุ่นน้องที่เข้ามาใหม่และเป็นผู้ที่จะช่วยสืบทอดการทำงาน
สำหรับการพัฒนาคนในเรื่อง Hard Skill, Soft Skill และ Life Skil ให้พนักงานนั้น ในเรื่อง Soft Skill ให้ความสำคัญ กับ E-Learning โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างพัฒนา Virtual University เพื่อที่จะให้ทุกคนกลับมาเรียนรู้ได้ใหม่เสมอเมื่อต้องการ และไม่หยุดพัฒนาตัวเอง นอกจากนี้ Conflict Management ก็เป็นเรื่องสำคัญ เพื่อทำให้การทำงานข้ามประเทศเป็นเรื่องง่ายและปกติ
ส่วน Hard Skill มี 3 มิติ 1.การถ่ายทอดความรู้เรื่องอุตสาหกรรมพลังงานให้พนักงานเข้าใจอย่างลึกซึ่ง 2.การสร้าง Energy Trading โดยอาศัยหลักการ Talent Management จากต่างประเทศมาช่วยกันสร้างหลักสูตร และ3.การสร้างคนของบ้านปูให้เป็น International Business Management และการ Upskill ในแง่ Digital Transformation นำ Data มาช่วยขับเคลื่อนเปิดโอกาสทางธุรกิจ
ขณะที่ Life Skill เป็นการเสริมสร้างให้พนักงานมีชีวิตที่สมดุล โดยจัดให้มีการให้ความรู้พนักงานเพิ่มเติมใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ สุขภาพ (Health) สุขภาพจิตใจ (Mental Health) และความรู้ในการบริหารจัดการเงิน (Financial Literacy)
นอกจากนี้ บ้านปูยังสนับสนุนความคล่องตัวในการทำงาน ที่ตอบโจทย์โลกและคนยุคใหม่ที่มีความหลากหลายยิ่งขึ้น โดยมี Work Anywhere Policy เป็นนโยบายที่เริ่มใช้มาตั้งแต่ปีค.ศ.2008 ที่พนักงานสามารถพิจารณาเลือกทำงานที่ไหนก็ได้สัปดาห์ละ 2 วัน ซึ่งในปัจจุบัน ได้ยกระดับ Work Anywhere Policy โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องจำนวนครั้ง แต่พนักงานสามารถพิจารณาเลือกสรรสถานที่ทำงานให้เหมาะสมกับการทำงานของตนเองใน 3 รูปแบบ โดยรูปแบบแรก งานที่ทำคนเดียวจะไปนั่งทำที่ใดก็ได้ไม่จำเป็นต้องทำที่ออฟฟิศหรือบ้าน รูปแบบที่สอง งานที่ทำด้วยกันแต่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในสถานที่เดียวกัน และรูปแบบที่สาม งานที่ต้องทำด้วยกันและอยู่ด้วยกัน เช่น การสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ สนับสนุน Work life Balance พนักงานสามารถกำหนดการทำงานของตัวเอง เพื่อไม่ให้กระทบการใช้ชีวิตที่นอกเหนือจากการทำงาน
พร้อมทั้งตอบโจทย์ความแตกต่างของพนักงานด้วย Flexible Benefit ที่เปิดกว้างให้พนักงานได้เลือกสวัสดิการที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และความจำเป็นในชีวิต เช่น Family Life สวัสดิการสำหรับค่าใช้จ่ายของสมาชิกในครอบครัว Relaxation Life สวัสดิการสำหรับการผ่อนคลายและส่งเสริมคุณภาพชีวิต Security Life สวัสดิการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลชีวิตและสุขภาพ และTransformation Life สวัสดิการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัล