เทรนด์สุขภาพและสิ่งแวดล้อมเป็นอีกเทรนด์ที่ต้องจับตามองในยุคโควิด-19 ผลสำรวจ Global Consumer Insights Survey โดย PwC ซึ่งรวบรวมความคิดเห็นจากผู้บริโภคกว่า 9,370 รายทั่วโลก รวมถึงผู้บริโภคไทย พบว่าหนึ่งในแนวโน้มพฤติกรรมที่น่าสนใจในปี 2565 คือการที่ผู้บริโภคยุคใหม่หันมาใส่ใจเรื่องความยั่งยืนมากขึ้น โดย 66% ของผู้บริโภคชาวไทยระบุว่า ตั้งใจจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ผลสำรวจดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าธุรกิจที่สามารถปรับตัวรองรับความต้องการในการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้มีแนวโน้มที่จะครองใจผู้บริโภคมากกว่า
ไทยวา หนึ่งในผู้นำบริษัทผลิตแป้งมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องทางด้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เป็นอีกบริษัทที่ปรับตัวรับกระแสดังกล่าว และก้าวเข้าสู่ตลาดไบโอพลาสติกตามแผนการดำเนินธุรกิจปี 2565 ที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนธุรกิจที่ยั่งยืนเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค บริษัทใช้ประโยชน์จากการเป็นผู้ผลิตแป้งมันสำปะหลังรายใหญ่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบกับเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรม เปิดตัวกลุ่มธุรกิจไบโอพลาสติกภายใต้แบรนด์ “ROSECO” ซึ่งเป็นพลาสติกชีวภาพที่ผลิตจากแป้งมันสำปะหลัง สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และนำไปขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ เช่น ภาชนะบรรจุอาหาร บรรจุภัณฑ์ พลาสติกคลุมดิน ฯลฯ ซึ่งการลุยตลาดไบโอพลาสติกในปีนี้ของไทยวานับเป็นการบุกเบิกพลาสติกชีวภาพจากแป้งมันสำปะหลังเชิงพาณิชย์ครั้งแรกในประเทศไทย
โฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “จากประสบการณ์การดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารร่วมกับธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยมาเป็นเวลานาน ทำให้เราเห็นการปรับตัวของตลาดไทยที่เริ่มหันมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ตามพฤติกรรมและความใส่ใจที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค ผู้ประกอบธุรกิจหลายรายเริ่มจัดหาบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วทิ้งที่สามารถย่อยสลายได้มาเป็นส่วนหนึ่งของการประกอบธุรกิจ สอดรับกับเทรนด์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ภาคการเกษตรยังเป็นอีกส่วนหนึ่งที่มีแนวโน้มปรับเปลี่ยนมาใช้พลาสติกที่ย่อยสลายได้มากขึ้น เนื่องจากมีความต้องการใช้พลาสติกคลุมดินเพื่อการเพาะปลูกมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีพื้นที่ที่ใช้ประโยชน์ทางการเกษตรมากถึง 150 ล้านไร่ ความต้องการเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นให้ไทยวาตัดสินใจเดินหน้าลุยตลาดไบโอพลาสติกจากแป้งมันสำปะหลังเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย”
พลาสติกชีวภาพชนิดย่อยสลายได้ (Biodegradable Bioplastic) คือ พลาสติกที่มีวัตถุดิบในการผลิตพื้นฐานเป็นพืช (Biobased) สามารถย่อยสลายได้ด้วยจุลินทรีย์และแบคทีเรียตามธรรมชาติ จึงช่วยลดมลพิษในสิ่งแวดล้อม วัสดุธรรมชาติที่สามารถนำมาผลิตเป็นพลาสติกชีวภาพได้มีหลายชนิด เช่น ชานอ้อย มันสำปะหลัง โปรตีนจากถั่ว ข้าวโพด และแป้งที่ทำจากพืชชนิดต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มันสำปะหลังมีคุณสมบัติแข็งแรง ทนความร้อน และดูดซับความมันได้ดี จึงเหมาะที่จะนำมาทำเป็นบรรจุภัณฑ์อาหารประเภทต่างๆ
สำหรับ พลาสติกคลุมดิน (Plastic Mulch) เป็นวัสดุทางการเกษตรที่ใช้กันแพร่หลาย เพื่อปรับอุณหภูมิและเก็บกักความชื้นภายในดิน รวมถึงควบคุมวัชพืช ปรับปรุงคุณภาพพืช และป้องกันหน้าดินเสื่อมสภาพจากสภาวะอากาศแปรปรวน อย่างไรก็ตาม พลาสติกคลุมดินที่นิยมใช้กันทั่วไปทำจากพลาสติกชนิดโพลิเอธิลีน (PE) ซึ่งสลายตัวได้ยากในธรรมชาติ จึงอาจทิ้งสารพิษตกค้างและก่อให้เกิดการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมในระยะยาว นอกจากนี้ การกำจัดพลาสติกชนิดนี้ยังทำได้ยากและมีต้นทุนสูงเพราะต้องใช้แรงงานและอุปกรณ์เฉพาะ ในขณะที่พลาสติกคลุมดินชนิดย่อยสลายได้ สามารถไถกลบได้ภายหลังการใช้งาน จึงช่วยลดขั้นตอนยุ่งยากและต้นทุนในการกำจัด ไม่ก่อให้เกิดสารพิษสะสม หรือทิ้งเศษพลาสติกชิ้นเล็กๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาไมโครพลาสติกตามมา
ปัจจุบัน ไมโครพลาสติก หรือเศษพลาสติกชิ้นเล็กๆ ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า 5 มิลลิเมตร ได้กลายเป็นปัญหาใหญ่ทางด้านสิ่งแวดล้อม มีการศึกษาพบว่าเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและยุโรป มีไมโครพลาสติกเข้าไปปะปนอยู่ในที่ดินทางการเกษตรมากถึง 107,000 – 300,000 ตันในแต่ละปี ซึ่งเกิดจากการใช้ปุ๋ย พลาสติกคลุมดิน หรือการใช้พลาสติกเป็นสารเคลือบเมล็ดพืช นอกจากนี้ยังมีไมโครพลาสติกถูกทิ้งลงสู่มหาสมุทรอีก 93,000 – 236,000 ตันเป็นประจำทุกปี ไมโครพลาสติกเหล่านี้เมื่อหลุดเข้าไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศ สร้างปัญหาให้กับสิ่งแวดล้อม เป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์และสัตว์ และส่งผลกระทบเชิงลบต่อความยั่งยืน
ข้อมูลจาก Allied Market Research ระบุว่าพลาสติกคลุมดินชนิดย่อยสลายได้ทั่วโลกมีมูลค่า 33,699 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2559 และคาดว่ามูลค่าตลาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 62,039 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2566 จากแนวโน้มการใช้งานดังกล่าวทำให้คาดได้ว่าในอนาคตจะมีปัญหาที่เกิดจากไมโครพลาสติกตามมาอีกมาก หากยังไม่มีความตระหนัก และไม่มีการปรับเปลี่ยนหรือมาตรการป้องกันที่ถูกวิธี
“ROSECO ก่อตั้งขึ้นจากความตั้งใจที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ไบโอพลาสติกที่มีคุณภาพให้แก่ผู้บริโภค โดยวัตถุดิบที่ใช้เป็นเม็ดพลาสติกที่ทำจากแป้งมันสำปะหลังซึ่งได้จากธรรมชาติโดยตรง จึงไม่เป็นพิษและย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ด้วยคุณสมบัติดังกล่าว ผลิตภัณฑ์ ROSECO จะช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมด้วยการหยุดพึ่งพาการใช้พลาสติกจากปิโตรเลียม ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า และก้าวสู่การเป็นสังคม Zero Waste ได้เร็วขึ้น จากการเลือกใช้วัตถุดิบที่สามารถนำกลับมาแปรรูปใช้ใหม่ ซึ่งช่วยลดปริมาณของเสียที่จะทิ้งให้เหลือน้อยที่สุด” โฮ กล่าว
นอกจากนี้ ธุรกิจเม็ดพลาสติกชีวภาพภายใต้แบรนด์ ROSECO ยังดำเนินการผลิตในประเทศไทย ซึ่งนับเป็นการสร้างความยั่งยืนให้แก่ชุมชนอีกทางหนึ่ง “การตั้งฐานการผลิตในประเทศไทยซึ่งเป็นหัวใจของแหล่งปลูกมันสำปะหลัง ทำให้เราสามารถใช้วัตถุดิบจากเครือข่ายเกษตรกรในประเทศ ช่วยสร้างรายได้ให้คนกลุ่มนี้ และยังสามารถลดการปล่อยมลพิษที่เกิดจากจากการขนส่งวัตถุดิบเป็นระยะทางไกลๆ ด้วย ปัจจุบัน โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกชีวภาพในจังหวัดระยองเปิดดำเนินการแล้ว โดยตั้งเป้ากำลังการผลิตเฟสแรกไว้ที่ 3,000 ตันต่อปี เราคาดว่าธุรกิจนี้จะสามารถสร้างรายได้ให้บริษัท 1,000 ล้านบาท ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า” โฮ สรุป
บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร เคียงคู่สังคมไทยมาตลอดรยะเวลากว่า 75 ปี โดยมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับการสร้างคุณค่าร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างยั่งยืน ปัจจุบัน บริษัทฯ ผลิตแป้งมันสำปะหลัง และอาหารจากแป้งประเภทวุ้นเส้น ก๋วยเตี๋ยว สาคู ฯลฯ ภายใต้แบรนด์ต่างๆ อาทิ มังกรคู่ หงษ์ และกิเลนคู่ และล่าสุดได้ก่อตั้งกลุ่มธุรกิจใหม่ คือ ธุรกิจไบโอพลาสติกภายใต้แบรนด์ “ROSECO”