กลุ่มผู้ผลิตอะลูมิเนียมอัดขึ้นรูปไทย ชูธง “วัสดุแห่งอนาคต” เดินหน้าผลิตสินค้าซึ่งเป็นวัตถุดิบต้นทาง ให้กับอุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย ย้ำจุดเด่นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รีไซเคิลได้ 100% พร้อมโชว์วิสัยทัศน์ขับเคลื่อนธุรกิจตามหลัก ESG เพื่อนำพาธุรกิจและองค์กรก้าวสู่ความยั่งยืน
4 บริษัทในกลุ่มผู้ผลิตอะลูมิเนียมอัดขึ้นรูปไทย ประกอบด้วย บริษัท ไทยเม็ททอล อลูมิเนียม จำกัด บริษัท เมืองทองอุตสาหกรรมอาลูมีเนียม จำกัด บริษัท อลูเม็ท จำกัด และบริษัท ซิมเมอร์ เมตัล สแตนดาร์ด จำกัด เป็นตัวแทนกลุ่มผู้ผลิตอะลูมิเนียมฯ นำเสนอแนวทางในการขับเคลื่อนธุรกิจยุคใหม่ที่ต้องให้ความสำคัญทั้งความเชี่ยวชาญหรือความแข็งแกร่งในธุรกิจ ขณะเดียวกัน ก็ต้องก้าวไปพร้อมกับความยั่งยืนของโลกใบนี้
สุพัฒน์ รัตนศิริวิไล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเม็ททอล อลูมิเนียม จำกัด และพิมพิชา ธรรมมาภรณ์พิลาส กรรมการบริหาร บริษัท เมืองทองอุตสาหกรรมอาลูมีเนียม จำกัด ตัวแทนกลุ่มผู้ผลิตอะลูมิเนียมอัดขึ้นรูปไทย กล่าวว่า “อุตสาหกรรมอลูมิเนียมอัดขึ้นรูป” เป็นอุตสาหกรรมพื้นฐาน ซึ่งเป็นต้นทางให้กับอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น ยานยนต์ ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิก และก่อสร้าง เป็นต้น นอกจากนี้ อลูมิเนียมยังเป็น “วัตถุดิบแห่งอนาคต” เนื่องจากสามารถใส่เทคโนโลยีและองค์ความรู้ต่างๆ ทั้งการคำนวณขนาด การออกแบบ และการสร้างแม่พิมพ์ ตลอดจน การวิเคราะห์ส่วนผสมในวัตถุดิบ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์เฉพาะ ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เหตุผลหนึ่งคือสามารถนำมารีไซเคิลได้ 100%
การใช้อลูมิเนียมในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลก ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยคุณสมบัติที่ดี เช่น รีไซเคิลได้ตลอด ไม่เป็นขยะก่อผลเสียในสิ่งแวดล้อม มีความเบาแต่แข็งแรงจึงช่วยลดการสิ้นเปลืองพลังงานในการขนส่ง ใช้งานง่ายช่วยลดเวลาในการทำงาน ทั้งยังสอดคล้องกับการผลิตสมัยใหม่ของโลกที่หันมาใช้การประกอบชิ้นส่วนต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มอลูมิเนียมฯ มีความหลากหลาย เช่น เป็นกรอบกระจกประตูและหน้าต่าง เป็นส่วนประกอบของชิ้นส่วนต่างๆ ในยานยนต์ เป็นครีบระบายความร้อนในวงจรอิเล็กทรอนิกส์ เป็นส่วนประกอบของเฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ
อัญชัญ คูวินิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อลูเม็ท จำกัด และไวพจน์ โกวิทคณิต กรรมการบริหาร บริษัท ซิมเมอร์ เมตัล สแตนดาร์ด จำกัด กล่าวเสริมว่า “เราเป็นวัสดุตามแนวคิดสมัยใหม่ เพราะสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว ทำซ้ำได้ และประหยัดเวลาในการผลิต ทั้งยังมีงานวิจัยที่พัฒนาไปพร้อมๆ กับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น เป็นการก้าวไปกับการพัฒนาประเทศ และยังสอดคล้องกับแนวทางใหม่ของโลก ด้วยการผลิตแบบโมดูล่าร์ ด้วย machanical joint ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการออกแบบที่ให้ความแม่นยำสูง”
“นอกจากนี้ ถ้ารถไฟฟ้า EV มาประกอบในไทย เราน่าจะมีส่วนร่วมได้มาก เพราะรถ EV ต้องการความเบา ซึ่งโครงสร้างของตัวกักเก็บแบตเตอรี่โดยส่วนมากผลิตจากอลูมิเนียม เราจึงน่าจะมีส่วนร่วมได้มาก เป็นการเติบโตของอุตสาหกรรมอลูมิเนียมในอนาคต เป็นการสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยและช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน”
กลุ่มผู้ผลิตอะลูมิเนียมอัดขึ้นรูปไทย มี 14 โรงงาน ได้แก่ บริษัท ยูไนเต็ดอลูมิเนียม อินดัสตรี้ จำกัด บริษัท ไทยเม็ททอล อลูมิเนียม จำกัด บริษัท เมืองทองอุตสาหกรรมอาลูมีเนียม จำกัด บริษัท ซิมเมอร์ เมตัล สแตนดาร์ด จำกัด บริษัท โกลด์สตาร์เมททอ จำกัด บริษัท อลูเม็ท จำกัด บริษัท แอลเมทไทย จำกัด บริษัท ฟูจิเมททอล จำกัด บริษัท บีจี โฟลตกล๊าส จำกัด บริษัท มหานครมิทอล จำกัด บริษัท ไทยอลูเวิร์ค จำกัด บริษัท สยามอินทีเกรทเอ็กทรูสชั่นอินดัสทรี จำกัด บริษัท พี.แอนด์.แอล แมนูแฟคเตอร์ริ่ง จำกัด บริษัท ธาราทองเมททอล จำกัด มียอดขายรวมกัน 60-70% ของประเทศไทย
กลุ่มผู้ผลิตอะลูมิเนียมฯ มีวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG (Environment, Social, Governance ) โดยนอกจากการสร้างสรรค์ “วัสดุแห่งอนาคต” แล้ว ยังมีเป้าหมายที่จะร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยและโลกไปสู่ความยั่งยืน ด้วยความตระหนักในปัญหาสิ่งแวดล้อมที่กำลังเป็นวิกฤตของโลกคือปัญหาโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมีการวางแผนลดก๊าซเรือนกระจก และวางแนวทางปฏิบัติเป็นขั้นตอน ที่ผ่านมาประมาณ 2 ปี ส่งผลให้ในปี 2020 สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากปี 2019 ได้ 20% ด้วยการติดตั้งโซลาร์รูฟเพื่อใช้พลังงานสะอาดในโรงงานที่มีความพร้อม
สำหรับการช่วยให้ชุมชนสามารถเข้าถึงวัสดุหรือผลิตภัณฑ์ระดับโลก ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคม และเพิ่มคุณภาพชีวิต ด้วย “การผลิตระบบติดตั้งถังสำรองน้ำ” เพื่อนำไปใช้กับชุมชนที่ขาดแคลนน้ำสะอาด โดยร่วมกับพันธมิตรคือ “Planet Water” บริษัทสัญญาชาติอเมริกัน ซึ่งมีเทคโนโลยีและเชี่ยวชาญเรื่องระบบกรองน้ำ มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และมีจุดเด่นอยู่ที่ “ฟิวเตอร์” ซึ่งสามารถกรองแบคทีเรียและไวรัสที่มีขนาดเล็กมากถึง 0.3 ไมครอน ทำให้ได้น้ำสะอาดบริสุทธิ์ปราศจากเชื้อโรค สามารถดื่มได้ทันที
โดยบริษัท ไทยเม็ททอล อลูมิเนียม จำกัด ได้ร่วมออกแบบระบบติดตั้งถังซึ่งมีโครงสร้างเป็นอลูมิเนียม มีจุดเด่นอยู่ที่ความเบา สะดวกในการขนส่ง สามารถติดตั้งได้ง่ายในเวลาอันรวดเร็ว และมีความแข็งแรงปลอดภัย โดยที่ผ่านมาได้รับความไว้วางใจจากบริษัทต่างๆ ที่ดำเนินธุรกิจระดับโลก เช่น โค้ก ไนกี้ สตาร์บัคส์ เลือกใช้บริการ โดยกลุ่มฯ ร่วมผลิตไปแล้วไม่ต่ำกว่า 300- 400 ยูนิต และถูกนำไปใช้ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งหมายถึงคุณภาพมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับระดับโลก
สำหรับการบริจาค เน้นให้ความสำคัญใน 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ โรงพยาบาล โรงเรียน วัด และผู้ด้อยโอกาสในสังคม โดยมุ่งให้ความช่วยเหลือตามความต้องการมาโดยตลอด เช่น การจัดกิจกรรมงานวันเด็กในโรงเรียนที่อยู่ใกล้กับโรงงาน การสนับสนุนหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์เพื่อป้องกันโควิด การบริจาคทุนทรัพย์ อุปกรณ์การแพทย์ และสิ่งของอุปโภคบริโภค ให้โรงพยาบาล ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส ผู้ประสบอุทกภัย และผู้ป่วยติดเชื้อโควิด
นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบและนำอลูมิเนียมฯ ไปใช้เป็นส่วนประกอบของห้องความดันบวกสำหรับดูแลผู้ป่วยโควิด และนำไปบริจาคให้กับหน่วยงานที่ต้องการ ทั้งยังมีการนำมาจัดทำเป็นโต๊ะ เก้าอี้ ประตูและหน้าต่างสำเร็จรูป เพื่อบริจาคให้โรงเรียนและโรงพยาบาลที่ขาดแคลน รวมถึงการบริจาคอลูมิเนียมเพื่อนำไปหลอมเป็นแขนขาเทียมให้กับผู้พิการ เป็นมูลค่ารวมมากกว่า 10 ล้านบาท
หรือแม้ว่าจะดูเป็นเรื่องเล็กๆ แต่มีความหมายและคุณค่า เช่น การบริจาคไม้พาเล็ทที่ไม่ใช้แล้วให้วัดโสธรธรรมนิมิตมาโดยตลอด เพื่อนำไปเป็นเชื้อเพลิงเพื่อจุดไล่ยุงให้กับวัวควายที่ได้รับการไถ่ชีวิตจากโรงฆ่าสัตว์ นับได้ว่าเป็นการประกอบธุรกิจที่อยู่ร่วมกับสังคมและชุมชนอย่างใกล้ชิด เป็นที่พึ่งพิงและช่วยสร้างเสริมคุณภาพชีวิตมาอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน ยังเป็นการพัฒนาจิตใจของพนักงานทั้งที่ได้รับรู้และมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ให้มีความอ่อนโยน และตระหนักถึงการสร้างประโยชน์ให้กับสังคมส่วนรวม
“กลุ่มผู้ผลิตอะลูมิเนียมอัดขึ้นรูปไทยยึดมั่นในการผลิตและส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมาตรฐานซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ทั้งยังร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและดูแลสังคม พร้อมมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส ตามหลักการ ESG เพื่อนำพาธุรกิจและองค์กรก้าวสู่ความยั่งยืน” ตัวแทนกลุ่มผู้ผลิตอะลูมิเนียมฯ กล่าวทิ้งท้าย
นับเป็นความภาคภูมิใจของกลุ่มผู้ผลิตอะลูมิเนียมอัดขึ้นรูปไทยในการดำเนินธุรกิจอย่างมุ่งมั่น และมุ่งหวังเพื่อเป็นตัวอย่างให้แก่อุตสาหกรรมขนาดกลางขนาดย่อมร่วมตระหนักในการปกป้องรักษาสิ่งแวดล้อม ดูแลสังคมและประเทศชาติ ให้เป็นที่เชื่อถือของนานาประเทศ อันสร้าง”พลัง”ให้แก่อุตสาหกรรมบ้านเรามีความมั่นคงทั้งวันนี้และในอนาคต