หลังจากที่บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (“SPRC”) ได้เริ่มจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล (SPM) ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา จนถึงเมื่อวานนี้ (7 มีนาคม 2565)
บริษัทฯ ยังคงดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือแก่กลุ่มประมงท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง โดยมีเจ้าของเรือประมงจำนวน 336 ลำ เข้ารับมอบเงินช่วยเหลือ 45,000 บาทต่อเรือประมงหนึ่งลำ โดยไม่มีข้อผูกพันกับผู้รับ รวมเป็นจำนวนเงิน 15 ล้านบาท ณ เทศบาลตำบลบ้านเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง
โดยได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนเป็นอย่างดีจาก นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และนายเสรี เรือนหล้า ประมงจังหวัดระยอง ทั้งนี้ ตลอด สิบวันที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ SPRC ได้มอบเงินช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก “กลุ่มอาชีพอื่น ๆ” ประกอบด้วย ผู้ให้บริการเช่าเตียงผ้าใบและห่วงยาง พ่อค้า แผงลอยอาหารทะเลและของที่ระลึก และ ผู้ให้บริการเรือโดยสารและเจ็ตสกี รวมถึง “เจ้าของเรือประมง” ที่ได้ทำการลงทะเบียนและได้รับสิทธิ์รับเงินช่วยเหลือ เป็นเงินรวมกว่า 63 ล้านบาท
นายจิระศักดิ์ มหาสุคนธ์ ผู้จัดการโครงการเพื่อสังคม บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC กล่าวว่า “SPRC ให้ความสำคัญกับพี่น้องชาวระยอง ซึ่งเป็นชุมชนท้องถิ่นที่บริษัทฯ มีความสัมพันธ์ที่ดีด้วยมาอย่างยาวนาน หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บริษัทฯ ได้เร่งดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อมอบเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบกลุ่มต่าง ๆ อย่างเป็นธรรม รวดเร็ว และเท่าเทียม รวมถึงประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด เพื่อเดินหน้าปฏิบัติงานด้านการฟื้นฟูผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นต่อชุมชนท้องถิ่นและสิ่งแวดล้อมเป็นลำดับต่อไป”
ด้าน นายสฤษดิ์ วัฒนาวารินทร์ ผู้ประกอบอาชีพประมงอิสระก้นอ่าว กล่าวว่า “จากเดิมที่กลุ่มผู้ประกอบอาชีพประมงอิสระบางส่วนมีปัญหาเรื่องรายชื่อตกหล่น ทำให้ไม่สามารถรับเงินช่วยเหลือได้ตามเงื่อนไข ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ SPRC เข้ามาช่วยเหลือประสานงานเรื่องเอกสารที่เทศบาลตำบลเพ ทำให้ในวันนี้สามารถรับเงินช่วยเหลือได้ตามเงื่อนไข จึงขอขอบคุณเจ้าหน้าที่บริษัทฯ ที่เข้ามาช่วยลดความยุ่งยากในเรื่องของเอกสาร และคาดว่าจะมีกลุ่มประมงอิสระที่มีรายชื่อตกหล่นได้รับการประสานงานและสามารถรับเงินช่วยเหลือได้เพิ่มขึ้นในวันนี้”
นางสาวน้ำผึ้ง สิงห์ทอง ผู้ประกอบอาชีพกลุ่มประมง องค์การบริหารส่วนตำบลแกลง กลุ่ม 1 กล่าวว่า “การช่วยเหลือจากบริษัทฯ ถือว่าสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของกลุ่มอาชีพประมงได้มากพอสมควร เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาขาดรายได้จากการที่ไม่สามารถทำการค้าขายได้ จึงขอขอบคุณบริษัท SPRC ที่ให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มอาชีพประมงรายเล็ก”
สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหาร โรงแรม และท่องเที่ยว บริษัทฯ อยู่ในระหว่างลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติม คาดว่าจะสามารถรวบรวมข้อมูลได้ภายในสัปดาห์นี้ จากนั้นจะเตรียมดำเนินการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มอาชีพดังกล่าวต่อไป
ทั้งนี้ SPRC ขอขอบคุณในความร่วมอย่างดีจากหน่วยงานภาครัฐในด้านการเตรียมการและสถานที่ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลืออย่างเป็นธรรม สมเหตุสมผล และรวดเร็ว พร้อมเดินหน้าศึกษาและรวบรวมข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบทั้งในระยะสั้นและระยะยาวให้ดียิ่งขึ้น เพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสังคมในการฟื้นฟูธรรมชาติให้กับชาวระยองต่อไป
ขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้ (7 มี.ค.2565) มีรายงานข่าวว่า เมื่อเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ที่ 1 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมภาค 13 (ชลบุรี) ได้ลงพื้นที่ชายหาดปากน้ำบ้านเรา อ.เมืองระยอง และยังได้นำเรือ 2 ลำลากทุ่นล้อมแผ่นฟิล์มน้ำมัน
และใช้เรืออีก 1 ลำ วิ่งกวนน้ำล้อมรอบแผ่นฟิล์มเพื่อตรวจสอบและเก็บตัวอย่างน้ำ รวมทั้งใช้ท่อยางดูดซับแผ่นฟิล์มน้ำมันบางๆ บริเวณเขื่อนหินกั้นคลื่นกัดเซาะชายหาด
หลังได้รับแจ้งจาก นายละม่อม บุญยงค์ ประธานกลุ่มประมงปากน้ำบ้านเรา ต.ปากน้ำ ว่ามีคราบน้ำมันถูกคลื่นซัดเกยชายหาดเป็นจำนวนมาก
อ่านเพิ่มเติมตามลิ้งค์ https://mgronline.com/local/detail/9650000022625