xs
xsm
sm
md
lg

อุตฯ คาดโทษ!! สั่ง 2,373 โรงงานเสี่ยง ส่งรายงานวิเคราะห์ความเสี่ยงฯ หวั่นซ้ำรอยหมิงตี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กระทรวงอุตสาหกรรม แจ้งเตือนอีก ผู้ประกอบกิจการโรงงาน ใน 12 ประเภทโรงงาน จำนวน 2,373 โรงงาน ให้เร่งส่งรายงานการวิเคราะห์ความเสี่ยงจากอันตรายที่อาจเกิดจากการประกอบกิจการโรงงาน

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้สั่งการกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด แจ้งเตือนผู้ประกอบกิจการโรงงาน ใน 12 ประเภทโรงงาน จำนวน 2,373 โรงงาน เร่งส่งรายงานการวิเคราะห์ความเสี่ยงจากอันตรายที่อาจเกิดจากการประกอบกิจการโรงงาน ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง มาตรการคุ้มครองความปลอดภัยในการดำเนินงาน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2552 โรงงานจำนวน 12 ประเภทโรงงานมีหน้าที่ต้องจัดทำรายงานวิเคราะห์ความเสี่ยงจากอันตรายที่อาจเกิดจากการประกอบกิจการโรงงาน โดยเฉพาะ 2 ประเภทโรงงานที่มีความเสี่ยงสูง จำนวน 464 แห่ง ได้แก่ โรงงานลำดับที่ 42(1) และโรงงานลำดับที่ 44 ที่จะมีการผลิต เก็บ ใช้สารเคมีและตัวทำละลายที่เป็นสารไวไฟ ต้องส่งแบบรายงานการตรวจโรงงานแบบทางไกล แบบตรวจประเมินวัตถุอันตราย และแบบสรุปรายงานการวิเคราะห์ความเสี่ยงจากอันตรายที่อาจเกิดจากการประกอบกิจการโรงงาน หากไม่ดำเนินการจัดส่งภายในระยะเวลาที่กำหนด จะสั่งการตามมาตรา 35(4) ของ พ.ร.บ. โรงงาน 2535 ซึ่งหากฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกรณีที่ปรากฏว่าการประกอบกิจการของโรงงานใดอาจจะก่อให้เกิดอันตราย ความเสียหายหรือความเดือดร้อนอย่างร้ายแรงแก่บุคคลหรือทรัพย์สินอาจสั่งให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานนั้นหยุดประกอบกิจการโรงงานทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นการชั่วคราว


ด้าน นายวันชัย พนมชัย อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กล่าวว่า โรงงานที่ต้องจัดทำรายงานวิเคราะห์ความเสี่ยงฯ ทั้ง 12 ประเภท กว่า 2 พันโรงงานนี้ ถือเป็นโรงงานที่มีความเสี่ยงจากการประกอบกิจการ หากประกอบกิจการไม่เป็นไปตามมาตรการของแผนบริหารจัดการความเสี่ยงในรายงานดังกล่าว ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อบุคคล ชุมชน ทรัพย์สิน และสิ่งแวดล้อมได้ ดังนั้น กรอ. จึงต้องกำกับดูแลอย่างเข้มงวด เพื่อมิให้เกิดอุบัติเหตุ อุบัติภัยซ้ำรอย เหมือนกับกรณีโรงงานหมิงตี้ที่ผ่านมา


สำหรับโรงงานที่มีลักษณะการประกอบกิจการที่มีความเสี่ยง 12 ประเภทโรงงาน ประกอบด้วย โรงงานสกัดน้ำมันจากพืช สัตวหรือไขมันสัตวเฉพาะที่ใชสารตัวทำละลายในการสกัด (ประเภท 7(1)(4)), โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับ เคมีภัณฑสารเคมีหรือวัตถุอันตราย (ประเภท 42(1)(2)), โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับปุย หรือสารปองกันหรือกําจัดศัตรูพืชหรือสัตวยกเว้นการผลิตปุยอินทรียและการผลิตปุยเคมีที่ไม่มีการใชแอมโมเนียมไนเตรต (Ammonium Nitrate) หรือโปแตสเซียมคลอเรต (Potassium Chlorate) (ประเภท 43(1)(2)), โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับการผลิตยางเรซินสังเคราะห์ ยางอีลาสโตเมอร์ พลาสติก หรือเสนใยสังเคราะห์ซึ่งมิใชใยแกว (ประเภท 44), โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับสี น้ำมันชักเงา เชลแล็ก แล็กเกอรหรือผลิตภัณฑสำหรับใชยาหรืออุดยกเว้นการผลิตสีน้ำ (ประเภท 45(1)(2)(3)), โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับการทําไมขีดไฟ วัตถุระเบิด หรือดอกไม้ไฟ หรือการทำคารบอนดำ (ประเภท 48(4)(6)), โรงงานกลั่นน้ำมันปโตรเลียม (ประเภท 49), โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับผลิตภัณฑจากปโตรเลียม ถ่านหิน หรือลิกไนต ยกเวนแอสฟลทติกคอนกรีต (ประเภท 50(4)), โรงงานผลิตก๊าซ ซึ่งมิใชก๊าซธรรมชาติ สง หรือจำหน่ายก๊าซ (ประเภท 89), โรงงานบรรจุก๊าซ (ประเภท 91(2)), โรงงานหองเย็น เฉพาะที่ใชแอมโมเนียเป็นสารทำความเย็น (ประเภท 92), โรงงานผลิต ซอมแซม ดัดแปลงเครื่องกระสุนปน วัตถุระเบิด หรือสิ่งอื่นใดที่มีอำนาจในการประหาร ทำลาย หรือทำใหหมดสมรรถภาพในทํานองเดียวกับอาวุธปน เครื่องกระสุนปน หรือวัตถุระเบิด และรวมถึงสิ่งประกอบของสิ่งดังกล่าว (ประเภท 99)


กำลังโหลดความคิดเห็น