กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ที่ยังลาดตระเวนตรวจติดตามและเฝ้าระวังพื้นที่น้ำมันรั่วไหล รอบสองในเขตทะเล จ.ระยอง แจ้งล่าสุดเช้าวันนี้ (22 ก.พ.2565) ว่าไม่พบคราบน้ำมันในทุกพื้นที่
โดยสำนักงาน ทช.ที่1 (ระยอง) นำเรือ ทช.302 ทช.311 ทช.221 และ ทช.111ลาดตระเวนตรวจติดตามและเฝ้าระวังพื้นที่น้ำมันรั่วไหลในเขตทะเลระยอง 4 เส้นทาง ประกอบด้วย 1) บริเวณเขาแหลมหญ้า-รอบเกาะเสม็ด และบริเวณใกล้เคียง ระยะทาง 62 กม. 2) หาดแม่รำพึง-เกาะสะเก็ด ระยะทาง 131 กม. 3) หาดแม่รำพึง-เขาแหลมหญ้า-อ่าวเพ-ปากคลองแกลง ระยะทาง 87 กม. และ 4) หาดแม่รำพึง-เกาะสะเก็ด ระยะทาง 118 กม. ผลการเฝ้าระวังไม่พบคราบน้ำมันในพื้นที่
ก่อนหน้า เมื่อวานนี้ (21 ก.พ.2565) กรมทช.ศูนย์วิจัย ทช. อ่าวไทยฝั่งตะวันออก ได้เข้าไปตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม กรณีได้รับแจ้งเหตุในพื้นที่หาดแม่รำพึง พบฟิล์มน้ำมัน ระยะทาง 200 เมตร บริเวณคลองหัวรถ และพบคราบตะกอนคล้ายกรวดบริเวณร้านเจ้จุ้กซีฟู๊ด ผลการสำรวจชายหาดแม่รำพึงตั้งแต่ศาลเจ้าแม่รำพึงถึงก้นอ่าว ระยะทางประมาณ 9.5 กม. เบื้องต้นพบว่า สภาพน้ำทะเลเป็นปกติ ไม่พบคราบฟิล์มน้ำมันในน้ำทะเล โดยพบก้อนน้ำมันดินบนชายหาดตั้งแต่บริเวณสะพานท่าเรือตะพงไปจนถึงก้นอ่าว ระยะทางประมาณ 8 กม. ซึ่งพบปริมาณลดลงจากการสำรวจในวันก่อนหน้า (20 ก.พ.) และเก็บตัวอย่างก้อนน้ำมันดิน บริเวณสะพานท่าเรือตะพง คลองหัวรถ ร้านเจ้จุ้กซีฟู๊ด และก้นอ่าว พบความหนาแน่น 0.18, 1.95, 1.20 และ 3.25กรัม/ตารางเมตร ตามลำดับ โดยพบหนาแน่นสูงสุดบริเวณก้นอ่าว ส่วนผลการตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมทางทะเลบริเวณชายหาดสุชาดา หาดแสงจันทร์ อ่าวบ้านเพ และหาดสวนสน เบื้องต้นพบว่า สภาพน้ำทะเลเป็นปกติ ไม่พบคราบฟิล์มน้ำมันในน้ำทะเล และก้อนน้ำมันดิน ผลอยู่ในเกณฑ์ปกติ (มาตรฐานคุณภาพน้ำทะเลประเภทที่ 4 เพื่อการนันทนาการ) ทั้งนี้ ได้เก็บตัวอย่างน้ำทะเลและดินตะกอนบริเวณสถานีเก็บตัวอย่างก้อนน้ำมันดิน เพื่อหาการปนเปื้อนปิโตรเลียมไฮโดรคาร์บอนต่อไป
ก่อนหน้า เมื่อวานนี้ (21 ก.พ.2565) กรมทช.ศูนย์วิจัย ทช. อ่าวไทยฝั่งตะวันออก ได้เข้าไปตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม กรณีได้รับแจ้งเหตุในพื้นที่หาดแม่รำพึง พบฟิล์มน้ำมัน ระยะทาง 200 เมตร บริเวณคลองหัวรถ และพบคราบตะกอนคล้ายกรวดบริเวณร้านเจ้จุ้กซีฟู๊ด ผลการสำรวจชายหาดแม่รำพึงตั้งแต่ศาลเจ้าแม่รำพึงถึงก้นอ่าว ระยะทางประมาณ 9.5 กม. เบื้องต้นพบว่า สภาพน้ำทะเลเป็นปกติ ไม่พบคราบฟิล์มน้ำมันในน้ำทะเล โดยพบก้อนน้ำมันดินบนชายหาดตั้งแต่บริเวณสะพานท่าเรือตะพงไปจนถึงก้นอ่าว ระยะทางประมาณ 8 กม. ซึ่งพบปริมาณลดลงจากการสำรวจในวันก่อนหน้า (20 ก.พ.) และเก็บตัวอย่างก้อนน้ำมันดิน บริเวณสะพานท่าเรือตะพง คลองหัวรถ ร้านเจ้จุ้กซีฟู๊ด และก้นอ่าว พบความหนาแน่น 0.18, 1.95, 1.20 และ 3.25 กรัม/ตารางเมตร ตามลำดับ โดยพบหนาแน่นสูงสุดบริเวณก้นอ่าว
ส่วนผลการตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมทางทะเลบริเวณชายหาดสุชาดา หาดแสงจันทร์ อ่าวบ้านเพ และหาดสวนสน เบื้องต้นพบว่า สภาพน้ำทะเลเป็นปกติ ไม่พบคราบฟิล์มน้ำมันในน้ำทะเล และก้อนน้ำมันดิน ผลอยู่ในเกณฑ์ปกติ (มาตรฐานคุณภาพน้ำทะเลประเภทที่ 4 เพื่อการนันทนาการ) ทั้งนี้ ได้เก็บตัวอย่างน้ำทะเลและดินตะกอนบริเวณสถานีเก็บตัวอย่างก้อนน้ำมันดิน เพื่อหาการปนเปื้อนปิโตรเลียมไฮโดรคาร์บอนต่อไป