สาเหตุหลักที่ทำให้ราคาหมูพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ มาจากการระบาดของโรค ASF หรือ โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ทำให้ฟาร์มหมูต้องกำจัดหมูที่ติดเชื้อโรคและมีความเสี่ยงทั้งหมด และทำให้จำนวนหมูที่ป้อนเข้าสู่ตลาดลดจำนวนลงอย่างมากส่งผลต่อราคานั่นเอง
แต่สำหรับ “หมูหลุมเลมอนฟาร์ม” สามารถลดความเสี่ยงการเกิดโรคนี้กับหมูในฟาร์ม โดยมีตัวอย่างจาก “สุพจน์ สิงโตศรี” สัตวบาล เจ้าของฟาร์มหมูหลุมดอนแร่ฟาร์ม จ.ราชบุรี ผู้ผลิตหมูหลุมเลมอนฟาร์ม ยืนยันกับผู้บริโภคว่า "หมูหลุมเลมอนฟาร์ม ผลิตและส่งตรงจากฟาร์มของเราเพียงแห่งเดียวไม่ปะปนกับที่อื่นๆ เราเป็นฟาร์มขนาดเล็กที่มีการเลี้ยงมาตรฐานกรมปศุสัตว์ จำนวนหมูที่เลี้ยงไม่แออัด หมูหลุมกินอยู่ในคอกที่ใกล้เคียงการเลี้ยงแบบธรรมชาติทำให้เขามีสุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย"
โดยมาตรฐานและกระบวนการเลี้ยงหมูหลุมเลมอนฟาร์ม มี 4 ข้อ ดังนี้
ข้อแรก เป็นฟาร์มขนาดเล็ก เลี้ยงวิถีธรรมชาติ มาตรฐานกรมปศุสัตว์ : หมูหลุมของเลมอนฟาร์มเลี้ยงในคอกระบบเปิด ในวิถีธรรมชาติใกล้เคียงกับระบบเกษตรอินทรีย์ จากฟาร์มที่ได้รับรองมาตรฐานจากกรมปศุสัตว์
ข้อสอง ไม่แออัด หมูไม่เครียด : หมูหลุมจะอยู่กันคอกละ 4 -8 ตัว (เฉลี่ยพื้นที่ 4 ตร.ม./ตัว) หมูจึงไม่เครียด ในขณะที่ฟาร์มหมูทั่วไปมีหมู 12-15 ตัวต่อคอก (1-2 ตร.ม./ตัว) ทำให้แออัด หมูเครียดกัดกันเป็นแผล ทำให้ติดเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ง่าย
ข้อสาม ปราศจากเคมี และยาปฏิชีวนะ : หมูหลุมเลี้ยงในกระบวนการธรรมชาติ ใช้เวลาเลี้ยงคอกละ 6 เดือน กินอาหารธรรมชาติที่ผสมขึ้นเองในท้องถิ่นสามารถตรวจสอบที่มาได้ โดยไม่มีการใช้วัคซีน ยาปฏิชีวนะ ฮอร์โมน
ข้อสี่ ลดความเสี่ยงไม่ปะปน : เพื่อสุขอนามัยฟาร์มใช้โรงแยกชิ้นส่วนหมูหลุมโดยเฉพาะ ไม่ปะปนกับฟาร์มอื่น แล้วนำมาบรรจุถุงปิดสนิท แช่แข็งที่อุณหภูมิ –25 องศา ลดโอกาสในการปนเปื้อนเชื้อโรค ส่งตรงถึงร้านเลมอนฟาร์ม
“ผมขอยืนยันกับผู้บริโภคว่า เนื้อหมูหลุมธรรมชาติจากฟาร์มของเรามีมาตรฐานและปลอดภัย ด้วยกระบวนการเลี้ยง และระบบการจัดการฟาร์มที่ใกล้เคียงระบบธรรมชาติ ทำให้ฟาร์มหมูหลุมดอนแร่ ไม่เคยพบหมูตายจากโรค ASF และการระบาดจากโรคใดๆ”
ที่มา - เลมอนฟาร์ม
