xs
xsm
sm
md
lg

รายเดียวในโลก!! ลอรีอัลทำจริงเรื่องสิ่งแวดล้อม คว้า AAA ต่อเนื่อง 6 ปี จาก CDP

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ลอรีอัล ได้รับการยกย่องในเรื่องความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนของภาคองค์กรธุรกิจจาก CDP เป็นเวลา 6 ปีติดต่อกัน โดยครองตำแหน่ง ‘A List’ ด้านการบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การจัดการเพื่อปกป้องความมั่นคงของแหล่งน้ำและป่าไม้ในปี 2564

ลอรีอัลเป็นเพียงบริษัทเดียวในโลกที่ได้คะแนน AAA เป็นปีที่ 6 ติดต่อกันจาก CDP ที่ผ่านมา ลอรีอัลมีการทำงานด้านความความยั่งยืนอย่างยาวนาน และมีการตั้งเป้าหมายอย่างเข้มข้น โดยมีโปรแกรม L’Oréal for the Future ที่มุ่งให้กิจกรรมการดำเนินงานต่างๆ ของบริษัทลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยยึดหลักขีดจำกัดความปลอดภัยของโลก (Planetary Boundaries)

CDP เป็น องค์กรไม่แสวงผลกำไรด้านสิ่งแวดล้อมโลก ที่ได้รับการยอมรับในวงกว้างว่าเป็นมาตรฐานสูงสุดสำหรับการวัดความโปร่งใสด้านสิ่งแวดล้อมในภาคองค์กรธุรกิจ โดยในปี 2564 นักลงทุนกว่า 590 รายที่มีทรัพย์สินมูลค่ากว่า 110 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และผู้ซื้อรายใหญ่ 200 รายที่มีงบในการจัดซื้อวงเงิน 5.5 ล้านล้านดอลลาร์ ได้ขอให้บริษัทต่างๆ เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบ ความเสี่ยง และโอกาสด้านสิ่งแวดล้อมผ่านแพลตฟอร์มของ CDP โดยมีบริษัท 13,000 แห่งที่ตอบรับคำขอดังกล่าว นับเป็นจำนวนที่สูงเป็นประวัติการณ์ CDP ได้ประเมินบริษัทเหล่านี้ โดยให้คะแนน A ถึง D ความครอบคลุมในเรื่องการเปิดเผยข้อมูล การสร้างความตระหนัก และการจัดการความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดที่เกี่ยวกับความเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การกำหนดเป้าหมายที่มุ่งมั่นและมีความหมาย


นิโคลา ฮิโรนิมุส ซีอีโอ ลอรีอัล กรุ๊ป กล่าวว่า “เป้าหมายของลอรีอัลคือการสร้างสรรค์ความงามที่ขับเคลื่อนโลกใบนี้ นั่นหมายความว่า การบรรลุภารกิจด้านสิ่งแวดล้อมของเราคือมาตรวัดความสำเร็จที่สำคัญ การเป็นบริษัทเดียวในโลกที่ได้คะแนน AAA จาก CDP มา 6 ปีติดต่อกันนับเป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่ และเป็นพันธะสัญญาในการทำงานเพื่อต่อสู้กับภาวะโลกร้อนต่อไป ในปีนี้ มีบริษัท 14 แห่งที่ได้คะแนน AAA ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อันทรงพลังที่แสดงให้เห็นว่า พวกเราสามารถเป็นกลไกสู่การเปลี่ยนแปลงที่ทรงพลังร่วมกันได้ เราต้องลงมือทำมากขึ้นและรวดเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุดของโลก”

พอล ซิมป์สัน ซีอีโอ CDP กล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีกับบริษัททุกแห่งที่ติดอันดับ A List ในปีนี้ การเป็นผู้นำด้านความโปร่งใสและการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญที่สุดที่ธุรกิจต่างๆ จะสามารถทำได้ และต้องทำมากยิ่งขึ้นในปีที่มีการประชุม COP26 และการเปิดเผยรายงานการประเมินครั้งที่ 6 ของ IPCC ความรุนแรงของความเสี่ยงที่ธุรกิจต่างๆ จะได้รับอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความไม่มั่นคงของแหล่งน้ำ และการตัดไม้ทำลายป่านั้นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถเพิกเฉยได้อีกต่อไป เรารู้ว่าโอกาสที่จะลงมือทำนั้นสำคัญมากกว่าที่จะปล่อยให้เกิดความเสี่ยงจากการนิ่งเฉย ความเป็นผู้นำของภาคเอกชนจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการคงไว้ซึ่งความมุ่งมั่นของประเทศทั่วโลก เพื่อโลกที่ปราศจากก๊าซเรือนกระจก โลกที่ดีต่อธรรมชาติ และโลกที่เท่าเทียมกัน”

รายชื่อบริษัททั้งหมดที่อยู่ใน A List ของ CDP ในปีนี้ รวมทั้งคะแนนของบริษัทที่สามารถเผยแพร่ต่อสาธารณชน สามารถดูได้ที่: https://www.cdp.net/en/companies/companies-scores

ทั้งนี้ CDP เป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรระดับโลกที่ใช้ระบบการเปิดเผยข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมของโลกสำหรับบริษัท, เมือง, รัฐ และภูมิภาคต่างๆ นับตั้งแต่ที่ได้จัดตั้งขึ้นในปี 2543 และทำงานร่วมกับนักลงทุนกว่า 590 รายที่มีทรัพย์สินกว่า 110 ล้านล้านดอลลาร์ CDP ได้บุกเบิกในการใช้ตลาดทุน และการจัดซื้อของภาคเอกชนเพื่อจูงใจให้บริษัทต่างๆ เปิดเผยข้อมูลผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก, รักษาทรัพยากรน้ำ และปกป้องป่าไม้

องค์กรต่างๆ กว่า 14,000 แห่งทั่วโลกได้เปิดเผยข้อมูลผ่าน CDP ในปี 2564 ซึ่งรวมถึงบริษัทกว่า 13,000 แห่งที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดโลกคิดเป็นสัดส่วนกว่า 64% และเมือง, รัฐ และภูมิภาคต่างๆ กว่า 1,100 แห่ง ด้วยการปฏิบัติตาม TCFD อย่างครบถ้วน CDP จึงมีฐานข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และคะแนนของ CDP ก็ถูกนำไปใช้ในวงกว้างเพื่อผลักดันให้เกิดการตัดสินใจด้านการลงทุน และการจัดซื้อเพื่อมุ่งสู่เศรษฐกิจที่ปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ มีความยั่งยืน และปรับตัวรับสภาพได้เร็ว ทั้งนี้ CDP เป็นสมาชิกผู้ก่อตั้ง Science Based Targets initiative, We Mean Business Coalition, The Investor Agenda และ the Net Zero Asset Managers initiative สามารถดูข้อมูลเพิ่มที่ cdp.net


สำหรับ ลอรีอัล กรุ๊ป ได้เปิดตัวโปรแกรมด้านความยั่งยืนชื่อว่า L’Oréal for the Future ในเดือนมิถุนายน 2563 ซึ่งยกระดับกการทำงานเพื่อความยั่งยืน โดยลอรีอัลมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจที่ลดผลกระทบภายใต้ขีดจำกัดความปลอดภัยของโลก ด้วยการดำเนินงานเพื่อการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร เพื่อจำกัดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสภาพภูมิอากาศ น้ำ ความหลากหลายทางชีวภาพ และทรัพยากรธรรมชาติอันเนื่องมาจากกิจกรรมทั้งหมดของบริษัท นอกจากนี้ ยังมีการทำงานในการจัดการกับผลกระทบที่เกิดขึ้นและเกี่ยวพันกับกิจกรรมของซัพพลายเออร์ และการใช้ผลิตภัณฑ์ของลูกค้าบริษัทด้วยเช่นกัน

ลอรีอัลตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของทุกขอบเขตลง 50% ต่อผลิตภัณฑ์ ภายในปี 2573 ในฐานะที่เป็นสมาชิกของโครงการ ‘Business Ambition for 1.5°C’ ลอรีอัล กรุ๊ปยังมีพันธกิจในเรื่องการลดการปล่อยก๊าซให้เหลือศูนย์ภายในปี 2593 โดยภายในปี 2568 โรงงานทุกแห่งของบริษัทจะต้องบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางด้านคาร์บอน ส่วนพันธสัญญาเชิงกลยุทธ์อื่นๆ นั้น ลอรีอัลยังมีความมุ่งมั่นในเรื่องการรีไซเคิล และการนำทรัพยากรน้ำมาใช้งานซ้ำในกระบวนการทางอุตสาหกรรมทั้ง 100% ภายในปี 2573 ขณะที่ส่วนผสมทางชีวภาพทั้ง 100% สำหรับสูตรและวัสดุที่ใช้กับบรรจุภัณฑ์จะสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ และยังมาจากแหล่งที่ยั่งยืนภายในปลายทศวรรษนี้ และจะไม่มีการดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่า

นอกจากนี้ ลอรีอัลได้จัดสรรงบ 100 ล้านยูโรให้กับการลงทุนทางสังคมที่อุทิศให้กับการฟื้นฟู และการพัฒนาเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน เพื่อจัดการกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมที่เร่งด่วนของโลก และจัดสรรงบ 50 ล้านยูโรเป็นกองทุนเพื่อการกุศล เพื่อสนับสนุนกลุ่มสตรีที่เปราะบาง 


กำลังโหลดความคิดเห็น