วันนี้ (14 ธันวาคม 2564) เพจเฟซบุ๊ค TOP Varawut - ท็อป วราวุธ ศิลปอาชา รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โพสต์แจ้งมาตรการรักษาความปลอดภัยของ “นักดำน้ำและแนวปะการัง”ห้ามผู้ประกอบการนำเรือใหญ่เข้าไปในจุดดำน้ำ
พร้อมโพสต์โชว์ “ใบเสร็จรับเงิน” และ “บันทึกคำให้การและการเปรียบเทียบความผิด” ของจริง เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา
“เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยในชีวิตนักท่องเที่ยว และรักษาแนวปะการัง กรมอุทยานฯ ได้ออกมาตรการใหม่ มาบังคับใช้กับบริษัทท่องเที่ยวที่ประกอบธุรกิจพานักท่องเที่ยวดำน้ำ ชมแนวปะการังใต้ทะเลครับ”
จากเดิมที่เคยมีการใช้เรือขนาดใหญ่ เข้าไปส่งถึงจุดดำน้ำ แต่จากนี้ไปตามมาตรการใหม่ บริษัทนำเที่ยวจะต้องขนถ่ายนักดำน้ำลงเรือเล็ก ก่อนนำมาส่งและรับที่จุดดำน้ำ ไม่อนุญาตให้นำเรือใหญ่เข้ามารับ-ส่งอีกต่อไป
เพราะเรือใหญ่ที่มีกำลังเครื่องยนต์ และใบพัดขนาดใหญ่ นอกจากจะรบกวนสิ่งมีชีวิตที่อาศัยตามแนวปะการังแล้ว ยังอาจเป็นอันตรายต่อนักดำน้ำกลุ่มอื่นๆ ด้วยครับ
สำหรับผู้ประกอบการที่ละเมิดมาตรการ กรมอุทยานฯ ได้เรียกกัปตันเรือมาอบรมและแจ้งความผิดให้ทราบ พร้อมดำเนินการเปรียบเทียบปรับผู้กระทำความผิด ตามมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 กรณีเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 20 ประกอบกับมาตรา 47
โดยมีข้อกำหนดบทลงโทษผู้ฝ่าฝืนมาตรการ ดังนี้
- กระทำความผิดครั้งที่ 1 ปรับ 5,000 บาท และว่ากล่าวตักเตือนการกระทำผิด
- กระทำความผิดครั้งที่ 2 ปรับ 20,000 บาท และระงับพักใช้ใบอนุญาตเป็นระยะเวลา 30 วัน
- กระทำความผิดครั้งที่ 3 ปรับ 100,000 บาท และเสนอเพิกถอนใบอนุญาต
“จึงขอเรียนมา เพื่อให้ผู้ประกอบการทุกรายรับทราบ และขอให้นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปดำน้ำ ชมความงามท้องทะเลไทย ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ช่วยกันสอดส่องพฤติกรรมผู้ประกอบการด้วยครับ”