xs
xsm
sm
md
lg

วิกฤตหนัก!! วาฬไรต์แอตแลนติกเหนือ ทั่วโลกเหลือ 366 ตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“วาฬไรต์แอตแลนติกเหนือ” ลดฮวบต่ำสุดในรอบ 20 ปี เผยปี 2554 มีประมาณ 481 ตัว ล่าสุดในปี 2564 เหลือเพียง 366 ตัว ระบุภัยคุกคามจากกิจกรรมมนุษย์ ส่งผลทั้งอุบัติเหตุและคุณภาพชีวิต IUCN ได้จัดให้อยู่ในสถานะอันตรายอย่างยิ่ง

วาฬไรต์แอตแลนติกเหนือ หรือ North Atlantic right whales เป็นวาฬสายพันธุ์หนึ่งที่มีผู้ติดตามมากที่สุด หลังจากนักวิจัยออกมาเตือนเมื่อไม่กี่ปีก่อนว่าจำนวนประชากรของพวกมันกำลังถดถอยลงในอัตรากว่า 8% ต่อปีจนทำให้เหลืออยู่เพียง 366 ตัวทั่วโลก ถือเป็นตัวเลขที่ต่ำสุดในรอบ 2 ทศวรรษ

ปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นักอนุรักษ์วาฬไรต์แอตแลนติก และหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงผู้เชี่ยวชาญกว่า 500 คนเข้าร่วมการประชุมออนไลน์เพื่อจัดตั้งกลุ่มอนุรักษ์ทำงานอย่างเป็นรูปธรรมในแคนาดา และสหรัฐอเมริกา รวมถึงผู้เชี่ยวชาญจาก องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หรือ WWF ที่เข้าร่วมประชุมด้วย โดยจากการติดตามสำรวจประชากรของพวกมัน พบว่าในปี พ.ศ.2554 วาฬไรต์แอตแลนติกเหนือมีอยู่ประมาณ 481 ตัวซึ่งถือว่ามีจำนวนมากที่สุด แต่ผ่านไปเพียงแค่ 10 ปี จนถึงวันนี้กลับพบว่า พวกมันลดจำนวนลงไปมากกว่า 30%

มนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของภัยคุกคามที่เกิดต่อวาฬไรต์แอตแลนติกเหนือ ไม่ว่าจะเป็นการใช้อุปกรณ์ในการทำประมง การขนส่งด้วยเรือขนาดใหญ่ในภาคพื้นมหาสมุทร ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแอตแลนติกเหนือ กิจกรรมเหล่านี้ไม่ได้เพียงสร้างโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นต่อสัตว์ทะเลเท่านั้น แต่มันยังส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต สุขภาพของวาฬขนาดยักษ์ ที่อาจทำให้พัฒนาการและระบบการเติบโต สืบพันธุ์ของพวกมันชะงักงัน ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ มีรายงานว่า ความยาวของขนาดตัวของวาฬไรต์แอตแลนติกเหนือลดลงมากในรอบ 40 ปีที่ผ่านมา และในจำนวนประชากรที่หลงเหลืออยู่ทั้งหมดของพวกมัน มีวาฬเพศเมียเพียงไม่ถึง 100 ตัวเท่านั้นที่พร้อมผสมพันธุ์และให้กำเนิดลูก

ในปี พ.ศ.2563 International Union of conservation or Nature and Natural Resources : IUCN หรือ สหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ ได้จัดให้วาฬไรต์แอตแลนติกเหนืออยู่ในสถานะอันตรายอย่างยิ่ง ภัยที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาวะภูมิอากาศโลก ทศวรรษที่ผ่านมา อุณหภูมิของน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้วาฬหลายสายพันธุ์เริ่มเดินทางอพยพไปสู่พื้นที่ที่อากาศเย็นกว่า ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการทำการประมงหนาแน่น บรรดานักอนุรักษ์ นักวิชาการ และหน่วยงานภาครัฐ เริ่มมองหาข้อเจรจากับผู้ประกอบการในธุรกิจประมงทั้งในแคนาดา และสหรัฐอเมริกา เพื่อลดปัจจัยคุกคามที่เกิดขึ้นระหว่างวาฬ และเรือประมงขนาดใหญ่ การปิดพื้นที่กระประมงในบางฤดู การจำกัดความเร็วของเรือ เป็นเงื่อนไขที่ถูกนำมาใช้ แต่ก็ยังไม่เกิดผลสัมฤทธิ์เท่าไรนัก

สถิติจำนวนวาฬไรต์แอตแลนติกเหนือ
หนึ่งในความหวังที่เกิดขึ้น คือการนำนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาใช้ เช่น เทคโนโลยีการจับปลาแบบที่ไม่ใช้เชือก หรืออวนซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการทดลองและหาผู้สนับสนุนเพื่อเป็นทางเลือกให้กับอุตสาหกรรมประมงพาณิชย์

“งานอนุรักษ์วาฬเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ก็เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับทุกคน เราหวังว่าเราจะมีหนทางในการคืนสมดุลย์ให้กับธรรมชาติ และทำให้ประชากรวาฬไรต์แอตแลนติกเหนือ กลับมาเพิ่มประชากรได้อีกครั้งหนึ่ง แม้จะต้องใช้เม็ดเงินค่อนข้างมาก แต่ก็ถือเป็นวาระเร่งด่วนที่ต้องการความจริงจังจากทุกคนในการก้าวเข้ามาแก้ปัญหานี้ไปด้วยกัน” คริส จอห์นสัน หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์วาฬและโลมาระดับโลกของ WWF กล่าว

ที่มา – องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล ประเทศไทย , https://bit.ly/3CDg9CE


กำลังโหลดความคิดเห็น