xs
xsm
sm
md
lg

KBank ผนึก 5 พันธมิตร จุดกระแส Net Zero ดึง“บันคีมุน” อดีตเลขาฯ ยูเอ็น หารือลดโลกร้อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เคแบงก์ ไพรเวทแบงก์กิ้ง (KBank Private Banking) ร่วมกับ ลอมบาร์ด โอเดียร์ (Lombard Odier) ผู้ให้บริการบริหารความมั่งคั่งระดับโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมพันธมิตรทางธุรกิจ 5 รายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ร่วมจัดสัมมนาออนไลน์แห่งปี หัวข้อ “The Race to Net Zero: A Sprint or a Marathon” หวังจุดกระแสให้เกิดการพูดคุยเรื่องความยั่งยืน ถ่ายทอดสดใน 8 ช่องทางทั่วเอเชียแปซิฟิก รวมฮ่องกง สิงคโปร์ และญี่ปุ่น


ในงานได้รับเกียรติจาก มร.บัน คี มุน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ มาร่วมแสดงปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับประสบการณ์การทำงานกับสหประชาชาติ และแนวทางในการผลักดันประเด็นความยั่งยืนให้เป็นวาระหลักของหน่วยงานภาครัฐและองค์กรต่างๆ ทั่วโลก ผลงานที่สำคัญของ มร. บัน คี มุน ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติ ได้แก่ ความตกลงปารีสเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Paris Climate Agreement) และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN Sustainable Development Goals) โดยในปัจจุบัน มร.บัน คี มุน ยังคงเป็นผู้ให้การสนับสนุนในการผลักดันประเด็นด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง

พร้อมด้วย มร.ฮูเบิร์ต เคลเลอร์ Senior Managing Partner, Lombard Odier Group ที่ร่วมพูดคุยและแสดงวิสัยทัศน์ในความพยายามของ ลอมบาร์ด โอเดียร์ ที่พยายามผลักดันให้ลูกค้าและนักลงทุนเห็นความสำคัญในเรื่องการลงทุนที่สนับสนุนให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับโลก

มร.ฮูเบิร์ต เคลเลอร์ Senior Managing Partner, Lombard Odier Group
มร.ฮูเบิร์ต เคลเลอร์ Senior Managing Partner, Lombard Odier Group กล่าวว่า “ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังคงดำเนินต่อไป ความเสี่ยงด้านการเงินต่อความท้าทายในช่วงเปลี่ยนผ่าน ความเสี่ยงทางกายภาพและความเสี่ยงด้านหนี้สินกลับกำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น เรานิยามสิ่งนี้ว่า ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Value Impact) ในฐานะผู้จัดการสินทรัพย์ สิ่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของหลักความไว้วางใจเพื่อช่วยนำทางลูกค้าไปสู่การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ เรายังได้ช่วยนักลงทุนปรับพอร์ตการลงทุนด้วยการประเมินสถานการณ์ในอนาคต ซึ่งรวมไปถึงความเข้าใจเกี่ยวกับเส้นทางและวิถีการใช้พลังงานที่ไม่ทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์และความเกี่ยวพันทางการเงิน ปาฐกถาของ มร. บัน คี มุน ครั้งนี้มีข้อมูลที่น่าสนใจจำนวนมากและตอกย้ำถึงความจำเป็นในการจัดทำแผนงานที่ชัดเจนยิ่งขึ้น และการดำเนินการร่วมกันกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดในเอเชีย และภูมิภาคอื่นๆ ด้วยเช่นกัน”

มร. วินเซนต์ มาเนียนาต์ Limited Partner and Chief Executive Officer, Asia, Lombard Odier
มร. วินเซนต์ มาเนียนาต์ Limited Partner and Chief Executive Officer, Asia, Lombard Odier กล่าวว่า “เราตระหนักดีถึงความท้าทายต่างๆ ที่หลายประเทศในเอเชียต้องเผชิญในการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ และเศรษฐกิจแบบ CLICTM ประกอบด้วย C (Circular) คือ การใช้ทรัพยากรหมุนเวียน, L (Lean) คือ การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ, I (Inclusive) คือ การสร้างความเท่าเทียมด้านเศรษฐกิจและสังคม และ C (Clean) คือ การดำเนินการที่ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญในพันธกิจและวิสัยทัศน์ของลอมบาร์ด โอเดียร์”

“ในขณะที่เรากำลังก้าวสู่การปฏิวัติเพื่อความยั่งยืนนี้ เราเชื่อว่าสถาบันการเงินและลูกค้าของธนาคารมีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ลอมบาร์ด โอเดียร์ พร้อมด้วยเครือข่ายพันธมิตรทางกลยุทธ์ในภูมิภาคทั้ง 6 ราย มีความยินดีที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างความตระหนักรู้ในระดับภูมิภาค นำโดย มร. บัน คี มุน เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนในประเด็นความยั่งยืนและโอกาสในการลงทุนเพื่อผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคม”

มร. บัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติคนที่ 8
มร. บัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติคนที่ 8 กล่าวว่า “เศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในวิถีที่ส่งผลให้วิกฤตสภาพภูมิอากาศโลกเลวร้ายลง ตามรายงานสภาพอากาศของ UN IPCC ฉบับล่าสุดได้ฉายภาพแห่งความโหดร้ายให้เห็นว่าวิกฤตนี้เป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้ ข้อตกลงปารีสถือเป็นความหวังที่ดีที่สุดของเราในการรับมือกับภัยคุกคามจากสภาพอากาศที่รุนแรง และสถาบันการเงินชั้นนำ อย่างลอมบาร์ด โอเดียร์ และทุกภาคส่วนของพันธมิตรทางธุรกิจในภูมิภาคนี้ต่างมีบทบาทสำคัญในการเข้าไปมีส่วนร่วมในการเร่งและผลักดันให้เกิดการดำเนินงานตามข้อตกลงดังกล่าวด้วยเช่นกัน”

นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Private Banking Group Head ธนาคารกสิกรไทย
นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Private Banking Group Head ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า “เช่นเดียวกับลอมบาร์ด โอเดียร์ และพันธมิตรอีก 5 ราย เคแบงก์ ไพรเวทแบงก์กิ้ง เชื่อว่าเราสามารถดำเนินธุรกิจให้สอดคล้อง และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยผลักดันสังคม และประเทศ ให้มีความก้าวหน้า ยั่งยืน และเป็นสุข เพราะเราเชื่อว่าความยั่งยืนคืออนาคตของทุกคนบนโลก เราทุกคนมีความรับผิดชอบที่จะช่วยขับเคลื่อนสังคมและประเทศชาติไปสู่ความก้าวหน้าบนพื้นฐานของความยั่งยืนในทุกวิถีทางที่เราสามารถทำได้”

“การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมถือเป็นวิกฤตครั้งใหญ่ของโลก และทุกภาคส่วนต้องทำงานร่วมกัน เราในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของภาคการลงทุน จึงได้พยามผลักดันเรื่องความยั่งยืนด้วยความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการนำเสนอกองทุนที่มุ่งเน้นให้เกิดผลกระทบที่ดีและกองทุนเพื่อความยั่งยืนระดับโลกที่สร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก เราเชื่อว่านักลงทุนสามารถสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนเพื่อสร้างความยั่งยืนได้ และนี่คือความเชื่อมั่นของเรานับจากบัดนี้และต่อไป”