xs
xsm
sm
md
lg

นิสิตจุฬาฯ พัฒนา “เนื้อวากิวจากพืช” โปรตีนสูง เพิ่มภูมิคุ้มกัน คว้าสุดยอดนวัตกรรมอาหาร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นิสิตคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ชนะเลิศการแข่งขัน “Asean Food Innovation Challenge 2021” ด้วยนวัตกรรมเนื้อเทียม The Marble Booster เนื้อวากิวทำจากพืช 100% โปรตีนสูง คอเลสเตอรอลต่ำ พร้อมสมุนไพรเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย เตรียมจับมือ “ซีพีเอฟ” ผลิตและจำหน่าย เร็วๆ นี้

The Marble Booster เนื้อวากิวเทียมที่ผลิตจากพืช 100% ผลงานของทีม Food Tech Chula นำโดยนิสิตปริญญาเอก นุติ หุตะสิงห และ วรัญญา เตชะสุข และนิสิตปริญญาโท ณัฐชนน สร้างสมจิตร์ จากภาควิชาเทคโนโลยีทางอาหาร คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับรางวัลชนะเลิศจากเวที “Asean Food Innovation Challenge 2021” ที่จัดโดย บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ภายใต้แนวคิดการผลิตอาหารพร้อมรับประทานที่มีคุณสมบัติเสริมภูมิคุ้มกันและดีต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีผลงานเข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น 120 ชิ้น จากมหาวิทยาลัย 54 แห่งใน 13 ประเทศอาเซียน

ทีม Food Tech Chula นุติ หุตะสิงห (ขวา) วรัญญา เตชะสุข  (ซ้าย) ณัฐชนน สร้างสมจิตร์ (กลาง)
นุติ หุตะสิงห หัวหน้าทีม Food Tech Chula กล่าวว่า The Marble Booster เป็นเนื้อเทียมที่ผลิตจากพืช 100% โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้นรูปเนื้อจากโปรตีนถั่วเหลือง ให้มีลักษณะโครงสร้างเป็นใยคล้ายกล้ามเนื้อสัตว์ และมีชั้นไขมันซึ่งผลิตจากน้ำมันคาโนลา นอกจากนี้ ยังมีการเติมสารสกัดจากขมิ้นชันและพริกไทยดำลงไปแทรกอยู่ในชิ้นเนื้อ เพื่อให้เกิดเป็นเนื้อลายหินอ่อนเลียนแบบเนื้อวากิว ซึ่งสารประกอบเคอร์คิวมินจากขมิ้นชัน และพิเพอรีนจากพริกไทยดำจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย

นุติ หุตะสิงห หัวหน้าทีม Food Tech Chula
๐ จุดเด่นของเนื้อวากิวเทียมจากพืช

แนวคิดการผลิตอาหารโปรตีนสูงจากพืชที่มีการเติมสมุนไพรเข้าไปในการผลิตอย่างที่ทีม Food Tech Chula สร้างสรรค์นั้น นับเป็นสิ่งใหม่ในวงการอุตสาหกรรมอาหาร ที่ยังไม่เคยเห็นบริษัทผลิตอาหารใดทำมาก่อน

โดยจุดเด่นของเนื้อวากิวเทียมจากพืชที่แตกต่างจากเนื้อเทียมทั่วไป คือ “เนื้อเทียมมีเส้นใยเหมือนเนื้อจริง” ขณะที่โดยทั่วไป อาหารโปรตีนทางเลือกจากพืช (Plant –based Food) มักจะทำเป็นลักษณะคล้ายเนื้อบด แต่สำหรับเนื้อวากิวของทีม Food Tech Chula ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตชิ้นเนื้อให้มีลักษณะคล้ายเนื้อ มีเส้นใย มีกล้ามเนื้อ ซึ่งยังไม่เคยมีใครผลิตมาก่อน

มีลักษณะเป็น “เนื้อลายหินอ่อน” จากการที่ทีม Food Tech Chula ออกแบบและผลิตเนื้อให้มีลักษณะของไขมันแทรกเข้าไปอยู่ในชิ้นเนื้อด้วยเหมือนเนื้อลายหินอ่อน โดยการใช้ไขมันจากน้ำมันคาโนลา ซึ่งเป็นไขมันอิ่มตัวต่ำ ไม่มีคอเลสเตอรอล ให้เนื้อสัมผัสคล้ายคอหมูที่มีไขมันแทรก

“คุณค่าอาหารสูงบวกสมุนไพรสร้างภูมิคุ้มกัน” วัตถุดิบที่ใช้ในการทำเนื้อเทียมมาจากพืชทั้งหมด เช่น โปรตีนสกัดจากถั่วเหลืองซึ่งให้ปริมาณโปรตีนสูง น้ำมันคาโนลาซึ่งเป็นไขมันอิ่มตัวต่ำ นอกจากนี้ ยังมีการเติมสารสกัดขมิ้นชันและพริกไทยดำเข้าไป ซึ่งเมื่อสมุนไพรทั้งสองชนิดอยู่ด้วยกันก็ยิ่งเสริมฤทธิ์กันในการสร้างภูมิคุ้มกันและสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีถึง 2,000%

“เนื้อสัมผัสเหมือนจริง” จากการทดลองประกอบอาหารในระดับครัวเรือน เนื้อวากิวเทียมจากพืชขึ้นรูปได้ดี มีความยืดหยุ่นและความชุ่มฉ่ำคล้ายกับเนื้อสัตว์จริงๆ ประกอบอาหารง่าย แต่สิ่งที่ยังต้องพัฒนาต่อคือ “กลิ่นและรสชาติ” ซึ่งทีม Food Tech Chula กล่าวว่า อีกไม่เกิน 1 ปี จะพัฒนาให้เนื้อวากิวเทียมมีกลิ่นและรสชาติสมบูรณ์ขึ้น

“อีกไม่นาน ผู้บริโภคจะมีโอกาสได้ลิ้มลองเนื้อวากิวเทียมจากพืชในรูปแบบของอาหารพร้อมรับประทาน ที่จะวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ โดยมั่นใจว่าเนื้อวากิวเทียมจะได้รับความนิยมจากผู้บริโภค ทั้งผู้บริโภคมังสวิรัต มังสวิรัติแบบยืดหยุ่น (Flexitarian) หรือผู้บริโภคเนื้อสัตว์ที่อยากทดลองอาหารสุขภาพแนวใหม่”

นอกจากนี้ ทีม Food Tech Chula ยังมีแนวทางต่อยอดนวัตกรรมนี้ให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น เช่น การใช้น้ำมันมะกอกแทนน้ำมันคาโนลา การทดลองนำสมุนไพรประเภทอื่นเข้ามาใส่เพิ่มเติมเพื่อช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน หรือช่วยลดน้ำตาล เป็นต้น ทั้งนี้ โดยมุ่งการพัฒนาอาหารเพื่อสุขภาพและเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคมากที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น