ผลจากการใช้ระบบการลาดตระเวนเชิงคุณภาพที่เข้มข้นและมีประสิทธิภาพ ทำให้ทรัพยากรในเขตอุทยานแห่งชาติตาพระยา มีความสมบูรณ์มากขึ้น ภัยคุกคามที่พบลดลง ส่งผลให้สัตว์ป่าสำคัญที่เป็นดัชนีชี้วัดความสมบูรณ์ของป่า ออกมาให้เห็น เช่น เสือโคร่ง มีการขยายแหล่งหากินและอยู่อาศัยเพิ่มขึ้น
ล่าสุด เมื่อวานนี้ ( 21 ก.ค 64) เวลาประมาณ 05.58 น. นายคมสัน มณีกาญจน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตาพระยา
สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) รายงานว่า ระบบ NCAPS สามารถถ่ายภาพเสือโคร่ง จำนวน 1 ตัว ได้บริเวณป่าหนองเสม็ดใกล้รอยต่อระหว่าง จ.สระแก้ว กับ จ.บุรีรัมย์ ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติตาพระยาประมาณ 700 เมตร และห่างจากถนนทางหลวงหมายเลข 348 เพียง 150-200 เมตร ซึ่งก่อนหน้านี้จากการเก็บข้อมูลไม่เคยพบร่องรอยของเสือโคร่ง มาหากินในบริเวณดังกล่าว
ทางอุทยานแห่งชาติตาพระยา ได้ประสานข้อมูลกับสถานีวิจัยสัตว์ป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ เพื่อตรวจสอบว่าเป็นเสือโคร่งตัวเดิมที่เคยหากินอยู่บริเวณใกล้เคียง หรือเป็นตัวใหม่ที่พบเจอเป็นครั้งแรก เพื่อเป็นข้อมูลในวางแผนการจัดการสัตว์ป่า และเฝ้าระวังสัตว์ป่าที่อาจเกิดอันตรายจากรถที่สัญจรบนทางหลวงหมายเลข 348 ต่อไป
ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติตาพระยา นำระบบเฝ้าระวังและต่อต้านการกระทำผิดด้านทรัพยากรป่าไม้ (NCAPS) มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิด รวมทั้งใช้ในการสำรวจความสมบูรณ์และความหลากหลายด้านทรัพยากรสัตว์ป่า พร้อมวางแผนการแก้ไขปัญหาสัตว์ป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์
ระบบดังกล่าวได้ติดตั้งอยู่เป็นจำนวน 20 จุด ทั้งในท้องที่ จ.สระแก้ว และบุรีรัมย์ ตลอดระยะเวลากว่า 8 เดือนที่ผ่านมา สามารถเข้าควบคุมและยับยั้งการกระทำผิดด้านการป่าไม้ จำนวน 24 ครั้ง เก็บข้อมูลความสมบูรณ์ของสัตว์ป่าที่พบเจอ เช่น กระทิง ช้างป่า กวางป่า เก้ง หมาไน เป็นต้น จำนวนประมาณ 47 ครั้ง
พร้อมกันนี้ เพจเฟซบุ๊ก ผ้าขาวม้าติ่งป่า โพสต์บอกด้วยว่า ในขณะนี้โครงการสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยสะโตน ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง แต่ทุกอย่างจะหายไปในพริบตาที่อนุมัติสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยสะโตน จึงขอพลังสีเขียวจากทุกคนร่วมปกป้องผืนป่าดงพญาเย็น โดยชวนลงชื่อคัดค้านโครงการสร้างเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำในพื้นที่ป่าโดยกรมชลประทาน ที่ https://bit.ly/3otkx0N
ข้อมูลอ้างอิง ผ้าขาวม้าติ่งป่า