การศึกษาใหม่ ตีพิมพ์ในวารสาร Communications Earth & Environment พบว่า พื้นที่ในมหาสมุทรอาร์กติกที่มีความสำคัญต่อการอยู่รอดของหมีขั้วโลกกำลังเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรวดเร็ว
ภูมิภาคที่เรียกกันว่า "พื้นที่น้ำแข็งแห่งสุดท้าย" นั้นคาดว่า จะคงสภาพเป็นน้ำแข็งได้นานกว่าส่วนอื่นๆ ของอาร์กติก
แต่การวิเคราะห์ใหม่นี้ระบุว่า พื้นที่นี้ประสบปัญหาการละลายเป็นประวัติการณ์เมื่อฤดูร้อนที่แล้ว
นักวิจัยกล่าวว่า “ลมแรง” ซึ่งสัมพันธ์กับ “สภาพอากาศ” ที่เปลี่ยนแปลงนั้นอยู่เบื้องหลังการลดลงของน้ำแข็งอย่างไม่คาดคิด
พื้นที่ทะเลวันเดล (Wandel) ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะกรีนแลนด์ เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์เรียกว่า "พื้นที่น้ำแข็งแห่งสุดท้าย" ซึ่งตามปกติภูมิภาคนี้จะมีน้ำแข็งหนาตลอดทั้งปี
นักวิทยาศาสตร์ถือว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่หลบภัยสุดท้ายที่สำคัญสำหรับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลอาร์กติก รวมทั้งหมีขั้วโลก แมวน้ำ และวอลรัส
เมื่อฤดูใบไม้ผลิปีที่แล้ว ข้อมูลจากดาวเทียมแสดงให้เห็นว่า น้ำแข็งในทะเล Wandel หนากว่าในปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม ในเดือนสิงหาคม 2020 ภาพแสดงให้เห็นความเข้มข้นของน้ำแข็งที่มีเพียง 50% ซึ่งต่ำเป็นประวัติการณ์ และจากการวิจัย เห็นได้ว่าลมที่พัดแรงผิดปกติเคลื่อนน้ำแข็งในทะเลออกจากพื้นที่
Axel Schweiger จากมหาวิทยาลัยWashington และผู้นำเสนอการศึกษาล่าสุด กล่าวว่า "ช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิในปี 2020 มีแผ่นน้ำแข็งที่เก่ากว่าและหนากว่า แต่มีบางส่วนที่บางกว่าและใหม่กว่าละลายอย่างมาก"
"นั่นเป็นการเริ่มวงจรของการดูดซับพลังงานความร้อนเพื่อละลายน้ำแข็งมากขึ้น แม้ว่าจะมีน้ำแข็งหนาอยู่บ้าง"
นักวิจัยกล่าวว่า ที่น่าแปลกก็คือ ในปี 2019 แคนาดาได้กำหนดให้ส่วนหนึ่งของพื้นที่น้ำแข็งแห่งสุดท้ายเป็นพื้นที่คุ้มครองทางทะเล ซึ่งมีชื่อว่า “ตูไวจูอิตตุค” (Tuvaijuittuq) ซึ่งในภาษาของคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้นหมายถึง "สถานที่ที่น้ำแข็งไม่มีวันละลาย"
การศึกษายังทำให้เกิดคำถามมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล
Kristin Laidre นักวิจัยร่วมจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน กล่าวว่า "เรารู้เรื่องสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลในพื้นที่น้ำแข็งสุดท้ายน้อยมาก เราแทบไม่มีข้อมูลในอดีตหรือปัจจุบันเลย และความจริงก็คือ มีคำถามมากมายเกี่ยวกับอนาคตของประชากรสัตว์ในทะเล"
ที่มา - BBC
